นายกฯกำชับนโยบาย จี้ ปปง.เร่งปราบแก๊งสแกมเมอร์- อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ลั่นเงินดำฟอกอย่างไร ไม่มีวันขาว หวั่นถูกมองไม่มีผลงาน อาจโดนนานาชาติ แซงก์ชัน-กีดกัน จ่อทำเอ็มโอยูระดม 4 หน่วยงาน ปปง.-มหาดไทย-ตร.-ดีเอสไอไล่ล่า กำชับ มท.ดึงคนตกหล่นเข้าคนละครึ่งเฟส 2 สั่งแก้มันสำปะหลังราคาตก “บวรศักดิ์” ปัดข่าวจ่อขยายอายุเกษียณถึง 70 ปี แจงแค่ให้ศึกษาขยายเกษียณ 65 ปี พท.อ้างยื่นซักฟอกหลักฐานต้องแน่น แย้มจ่อเปิดตัวบ้านใหญ่ “อัศวเหม” ศาล รธน.มติเอกฉันท์ตีตกคดี MOA ชี้ไม่มีหลักฐานชัดเจนเพียงพอ “นันทนา” ยื่น “วันนอร์” สอบ สว.สีน้ำเงินเหลิงอำนาจ “โตโต้” ขู่ “กัน จอมพลัง” เคยโดนมาแล้วซื้อเสื้อเกราะนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย มอบนโยบายกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เร่งปราบปรามแก๊งสแกมมอร์ อาชญากรรมทางการเงิน และกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หวั่นถูกมองไม่มีผลงานอาจโดยแซงก์ชัน กีดกันจากนานาชาติได้นายกฯจี้ ปปง.ปราบสแกมเมอร์เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 พ.ย. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมและมอบนโยบายแก่คณะกรรมการ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ปปง. มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง. นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. รอต้อนรับ นายฉัตรชัยกล่าวว่า ในรอบปีที่ผ่านมา ปปง.ดําเนินการยึดทรัพย์ 2.9 หมื่นล้านบาท และดำเนินคดีอาญา 160 คดี ในส่วนที่เกี่ยวกับบัญชีที่มีความเสี่ยงสูง หรือบัญชีม้า ดำเนินการไปแล้ว 8 แสนกว่าบัญชี ทําให้มีวงเงินที่ได้จากการกระทําความผิดค้างอยู่ในบัญชีกว่า 3 พันล้านบาท ส่วนนี้จะนําไปสู่กระบวนการคืนให้กับผู้เสียหายตามขั้นตอน สิ่งที่อยากขอสนับสนุนจากนายกฯ ระบบยังไม่เท่าทันกับมิจฉาชีพ ควรต้องมีระบบเอไอและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ เพราะ ปปง.ต้องเป็นหน่วยงานกลาง ที่เป็นฐานข้อมูลรองรับธุรกรรมทุกประเภทเงินดำฟอกอย่างไรไม่มีวันขาวนายอนุทินกล่าวว่า ความเข้าใจตอนแรกคิดว่า ปปง.สังกัดกระทรวงยุติธรรม ไม่ได้สั่งการใดๆ โดยตรง แต่หลังเข้ามาสังคายนาระบบภายในทำเนียบรัฐบาลถึงทราบว่า ปปง.เป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับนายกฯ ช่วงนี้ภารกิจงานของ ปปง. เป็นที่สนใจของประชาชนและสังคมมากเป็นพิเศษ ช่วงนี้ไม่มีอะไรดังไปกว่าสแกมเมอร์อาชญากรรมทางการเงิน อาชญา กรรมทางเทคโนโลยี หลีกเลี่ยงไม่ได้กับภารกิจงานของ ปปง. เพราะทุกอย่างต้องฟอกเงิน เงินที่ไม่สะอาดเป็นเงินดำ ฟอกอย่างไรก็ยังเป็นดำ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงาน ปปง. ยอมรับว่ามีความกดดันจากประชาชน สังคม ตลอดจนประชาคมโลกสูงมาก ยิ่งถ้าเราดำเนินการไม่เฉียบขาดไม่เต็มที่ ไม่ใช่เฉพาะเราจะถูกตราหน้าว่าไม่มีผลงาน แต่สิ่งที่ตามมาคือการถูกแซงก์ชัน ถูกกีดกันจากนานาชาติ เป็นเรื่อง ที่สำคัญมากยาหอมอยากได้อะไรให้เสนอมานายอนุทินให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่า มาติดตามว่า ปปง. ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนอะไรบ้างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ในยุคที่สแกมเมอร์ถูกบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเฉพาะภายในประเทศ ถ้าเราไม่สร้างความมั่นใจเรื่องการปราบปรามผู้กระทำความผิด โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการฟอกเงิน จะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนานาชาติ สร้างความเสียหายแก่ประเทศ มีอยู่ทางเดียว ปปง.ต้องทำอย่างเต็มที่ไม่ให้มีเงินดำหรือเงินเทาเข้ามาอยู่ในระบบ เมื่อถามว่า ปปง.ขอให้ซัพพอร์ตเรื่องเอไอ รัฐบาลจะซัพพอร์ตอย่างไรบ้าง นายกฯตอบว่า ให้นำเสนอขึ้นมา หากต้องใช้งบกลางก็ต้องใช้จ่อทำเอ็มโอยู 4 หน่วยงานไล่ล่าผู้สื่อข่าวถามว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านพยายามเชื่อมโยงสแกมเมอร์ นายอนุทินตอบว่า นายกฯไม่ต้องจัดการ เรามี ปปง.จัดการ จะเร่งทำบันทึกความร่วมมือเอา 4 หน่วยงานหลัก คือ ปปง. กระทรวงมหาดไทย ตำรวจ และดีเอสไอ มาทำข้อตกลงทำงานร่วมกัน จะลงไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย ขณะนี้วงเงินอายัดไปกว่า 2 หมื่นล้านบาทแล้ว และทยอยยื่นฟ้อง บางครั้งเรื่องพวกนี้พูดไม่ได้ คนจึงนึกว่าไม่ได้ทำอะไร ไม่เฉพาะ ปปง. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. รายงานทุกวันว่าไปอายัดเงิน อายัดทรัพย์ ผู้กระทำผิดเหล่านี้ เมื่อถามว่ามีรายงานหรือไม่ว่าสแกมเมอร์เหล่านี้มาปักหลักในไทยเพิ่มมากขึ้น นายอนุทินตอบว่า พูดแล้วว่าอย่าไปสนใจฝั่งตรงข้ามที่อยู่นอกบ้านมากนัก ยังบอกเลขาธิการ ปปง.อยู่ว่าเดี๋ยวพาไปเดิน ถ้าไปเดินอยู่แถวไหนรับรองเห็นรังสีอำมหิตแน่นอน เราจะรู้ได้ทันทีว่ามันต้องมีอะไรที่ไม่ถูกต้องดึงคนตกหล่นคนละครึ่งเข้าเฟส 2ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ครั้งที่ 3/2568 ว่า การเข้าร่วมประชุมอาเซียน ที่มาเลเซีย และประชุมเอเปกที่เกาหลีใต้ ได้รับการตอบรับอย่างดี มีการหารือกับผู้นำหลายประเทศ ทั้งการขยายตลาด ขายพืชผลการเกษตร พูดคุยเจรจาการค้าเสรี (FTA) ต้องขอบคุณนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.คลัง ที่ดำเนินนโยบายคนละครึ่งพลัส ทำให้ประชาชนรู้สึกมีกำลังใจดี ลงไปพื้นที่ไหนได้รับเสียงว่าเขามีความสุข สร้างความคึกคักในระบบเศรษฐกิจ ทำให้ระบบหมุนเวียนเม็ดเงินกระจายไปทั่วประเทศ แต่มีเรื่องที่ต้องแก้ไขคือการเข้าไม่ถึง มีประชาชนหลายคนกลุ่มชายขอบ หรือกลุ่มเปราะบาง ยังไม่สามารถเข้าถึง เราต้องรวมกลุ่มที่พลาดในเฟสแรกกลับมาในเฟส 2 และต้องฝากกระทรวงมหาดไทยขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด ลงไปถึงระดับนายอำเภอ ช่วยกันให้คำแนะนำประชาชนให้เขาเข้าถึงสิทธินี้สั่งบูรณาการมันสำปะหลังราคาตกนายอนุทินกล่าวว่า ส่วนเรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ ไฟฟ้าชุมชน ได้รับการตอบรับดีมากขอบคุณกระทรวงพลังงานที่พิจารณาแผนงานเหล่านี้ให้เกิดเป็นรูปธรรม ขอให้เร่งดำเนินการต่อไป และยังมีผลงานอื่นอีกมากทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องพืชผลทางการเกษตรต้องฝากกระทรวงเกษตรฯ ไปที่ไหนยังโดนชาวบ้านบ่นเรื่องราคาพืชผลการเกษตร ตอนนี้โดนหนักเรื่องราคามันสำปะหลัง ต้องหาวิธีการ ทุกกระทรวงต้องบูรณาการและร่วมมือกัน“บวรศักดิ์” แซะ “นิพิฏฐ์” สุภาพชนนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความพาดพิงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย สวมชุดสีกากีลงพื้นที่ จ.กระบี่ มีการหาเสียงขณะมอบนโยบายว่า ถือเป็นคติมาตลอดว่าคำเตือนมีค่ากว่าคำชม แต่คำเตือนต้องเป็นคำเตือนที่สุภาพ ไม่ใช่ด่าทอกัน การด่าทอถือว่าผิดศีลข้อสี่ เป็นมุสาวาส คำเตือนนั้นมีค่า แต่นายกฯรู้ว่าอะไรคืออะไรแจงแค่ศึกษาขยายเกษียณ 65 ปีนายบวรศักดิ์ยังกล่าวการนำเสนอข่าวขยายเกษียณอายุราชการพลเรือนจาก 60 ปี เป็น 70 ปีว่า ไม่เป็นความจริง ที่มอบให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ดำเนินการศึกษาเฉพาะกรณีข้าราชการพลเรือนที่สามารถขยายได้ถึงอายุ 65 ปี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษา และนำเสนอ ต้องดูผลหลายด้านว่าขยายได้หรือไม่ แต่ไม่มีการพูดขยายถึง 70 ปี และไม่รวมข้าราชการอื่นๆ ตำรวจก็ไม่รวม เรื่องนี้มีผลกระทบเยอะ อาทิ คนเกิดน้อย คนตายมากกว่าคนเกิด มีผลกระทบกับงบประมาณ เช่น บำเหน็จ บำนาญ เป็นเรื่องที่ ก.พ. ศึกษาร่วมกับกรมบัญชีกลาง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์)พท.อ้างซักฟอกหลักฐานต้องแน่นนายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า มีการพูดคุยกันเบื้องต้นโดยต้องไม่ไปกระทบต่อกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราต้องคำนึงถึงไทม์ไลน์ต่างๆด้วย เรื่องนี้เคยพูดหลายครั้งแล้วว่าเรื่องพยานหลักฐาน ต้องพร้อมอภิปราย เมื่อถามว่าหากต้องไปประสานกับพรรคประชาชน (ปชน.) จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ เพราะไม่มีคนเข้าไปนั่งในวิปฝ่ายค้าน นายสรวงศ์ตอบว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้าน และใช้เสียง 1 ใน 5 ของที่ประชุม เสียงของพรรค พท.พอ ถึงไม่คุยกับพรรค ปชน.ก็สามารถยื่นได้ แต่เราคำนึงถึงอะไรหลายอย่าง และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท. กับนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. พูดคุยกันอยู่ นอกจากนี้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองหัวหน้าพรรค พท. ก็ได้พูดคุยกับนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้านด้วย แม้เราไม่ได้เป็นวิปฝ่ายค้าน แต่ในการทำงานเราต้องพูดคุยกันแย้มจ่อเปิดตัวบ้านใหญ่ “อัศวเหม”ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวเตรียมเปิดตัวบ้านใหญ่อัศวเหม นายสรวงศ์ตอบว่า มีการพูดคุยกัน วันที่ 7 พ.ย.จะมีการเปิดตัวบางส่วน เมื่อถามย้ำว่าหมายถึงเปิดตัวบ้านใหญ่อัศวเหมใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ตอบยืนยันว่า “มีครับ น่าจะมีอยู่ครับ ผมไม่แน่ใจว่าจะทันหรือไม่ เดี๋ยวต้องดูว่าตัวบ้านอัศวเหมพร้อมหรือไม่”ตีตกคดี MOA ไม่มีหลักฐานชี้ชัดวันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญมีการพิจารณาและมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องที่นายอัครวัฒน์ พงศ์ ธนาชลิตกุล กลุ่ม สว.สำรอง ยื่นขอให้วินิจฉัยการทำบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 เป็นการได้มาซึ่งอำนาจฝ่ายบริหารไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำร้องเพิ่มเติมและเอกสารประกอบบันทึกข้อตกลง MOA ระหว่างนายณัฐพงษ์กับนายอนุทินเป็นการเจรจาหรือการประกาศเจตจำนงทางการเมืองร่วมกัน ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานอื่นที่ชัดเจนเพียงพอ ที่แสดงให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องกระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครอง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยกมธ.ยังไร้ข้อสรุปโมเดล ส.ส.ร.ขณะที่ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา กล่าวว่า กมธ.ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กรณีเสียงแตกเรื่องที่มา ส.ส.ร.ไม่ถือเป็นอุปสรรค สุดท้ายต้องหาจุดที่ทุกฝ่ายยอมรับ ทุกคนเป็นห่วงจะขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ อะไรที่เสี่ยงก็เลี่ยง อะไรที่เป็นจุดเสี่ยงให้รีบแจ้ง กมธ. จะได้นำมาเป็นจุดสังเกตและตัดสินใจลงมติ ส่วนจะเปิดประชุมวิสามัญรัฐสภา เพื่อเร่งผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น กมธ.นำทุกอย่างมาประเมินสถานการณ์ แต่มีการท้วงติงจาก สว.ว่า ต้องใช้เสียง สว.ในการโหวตด้วย ต้องใช้เวลาอธิบายให้ สว.ทั้ง 200 คนเข้าใจเนื้อหาการแก้ไข กังวลว่าหากเปิดประชุมสมัยวิสามัญช่วงเดือน พ.ย.จะไปถ่ายทอดไม่ทัน หรือแม้กระทั่งหากกมธ.เร่งพิจารณาให้เสร็จภายในวันที่ 15 พ.ย. อาจเป็นช่วงเวลาที่เร่งรัดเกินไป แต่จะพยายามให้ทันกรอบเวลาที่จะยุบสภาในวันที่ 31 ม.ค.2569 ขณะนี้ยังไม่มีเวลาที่แน่นอนจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญช่วงใดยื่น “วันนอร์” สอบ สว.เหลิงอำนาจที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. ยื่น หนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ผ่านนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทน ราษฎร ขอให้ตรวจสอบการใช้อำนาจขาดธรรมาภิบาลของวุฒิสภา น.ส.นันทนากล่าวว่า การที่ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติกล่าวหาตนว่าฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ดูหมิ่นด้อยค่าคนขายหมู ส่งเรื่องให้กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ ถือเป็นอคติกลั่นแกล้งที่ถูกเปิดโปงเรื่องฮั้ว สว. การที่ วุฒิสภาลงโทษรุนแรงไม่ได้สัดส่วนการกระทำ เป็นการ ทำลายล้างทางการเมือง สร้างบรรยากาศความกลัว ทำให้ สว.ขาดอิสระแสดงความคิดเห็น ใช้เสียงข้างมากกำจัดฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง เป็นอันตรายต่อ ระบบรัฐสภา ประชาธิปไตย และหลักนิติธรรม ขอให้ ประธานรัฐสภาตั้งกรรมการตรวจสอบการใช้อำนาจที่ขาดธรรมาภิบาลของวุฒิสภาเร่งด่วน ไม่ให้วุฒิสภาใช้อำนาจทำลายผู้เห็นต่างนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สอบถามความเห็นประชาชน 99.99% ไม่เห็นด้วยกับมติดังกล่าว เรื่องนี้เป็นตราบาปของรัฐสภา หากประธานรัฐสภาไม่ปัดกวาด ตราบาปจะคง อยู่ตลอดไป และมีข่าว 17 สว.เสียงข้างน้อยถูกขึ้นบัญชีดำ จะถูกเช็กบิลเป็นรายๆไป อยากให้สังคมปกป้องเสียงข้างน้อยในสภาให้มีที่ยืนนัดข้ามปีคดี “ไอซ์–สหัสวัส” หมิ่น “เฮ้ง”ที่ห้องพิจารณา 813 ศาลอาญา ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.รักชนก หรือไอซ์ ศรีนอก สส.กทม. และนายสหัสวัส คุ้มคม สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท กรณีที่ทั้งสองร่วมกันแถลงข่าวกล่าวหาว่า สมัยที่นายสุชาติดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อตึก skyy9 ของสำนักงานประกันสังคม โดยทั้ง น.ส.รักชนก และนายสหัสวัส ให้การปฏิเสธ ทนายโจทก์ยื่นขอแก้ไขคำฟ้อง ขอให้ นับโทษ น.ส.รักชนกต่อจากคดีหมายเลขดำ อ 683/2565 ที่เป็นคดีในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ น.ส.รักชนกแถลงว่า ไม่ทราบว่าเป็นหมายเลขคดีเดียวกันหรือไม่ เพราะจำไม่ได้ ศาลอนุญาตให้แก้ไข คำฟ้อง และให้สอบถามในชั้นสืบพยานต่อไป จากนั้น ทนายความโจทก์แถลงต่อศาลขอนำพยานบุคคลเข้าสืบ 4 ปาก ใช้เวลาสืบพยาน 1 นัด ส่วนทนายฝ่าย จำเลยแถลงต่อศาลขอนำพยานเข้าสืบ ทั้งหมด 11 ปาก สืบพยานทั้งหมด 3 นัด โดยศาลกำหนดวันสืบพยานโจทก์นัดแรกเป็นวันที่ 17 พ.ย.2569 ส่วนการสืบพยานของฝ่ายจำเลยศาลนัดวันที่ 18-20 พ.ย.2569“สมชาย–เยาวภา” เยี่ยม “ทักษิณ”เมื่อเวลา 10.00 น. ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น้องเขย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว เข้าเยี่ยมนายทักษิณ นายสมชายให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าเยี่ยมว่า ได้ถามสารทุกข์สุขกัน เป็นห่วงว่าท่านเป็นอยู่อย่างไร ท่านไม่ได้ฝากอะไรออกมา เพียงแค่บอกว่าต้องดูแลสุขภาพกัน มีถามถึงลูกและหลานว่าอยู่กันอย่างไรบ้าง ก็บอกว่าทุกคนเป็นห่วงท่าน ส่วนอาการป่วยก็รักษากันไป แต่ถือเป็นเรื่องดีที่ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพมากมาย ด้านนายวิญญัติกล่าวว่า นายทักษิณสุขภาพดีขึ้น พยายามดูแลตัวเอง ควบคุมอาหารและออกกำลังกายบ้าง และครอบครัวจะมาเยี่ยมอีกครั้งในวันที่ 6 พ.ย.“โตโต้” โดนมาแล้วคดีเสื้อเกราะนายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. รองเลขาธิการพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณี “กัน จอมพลัง” ออกมาท้าทายให้ดำเนินคดี หากเห็นว่าการจัดซื้อเสื้อเกราะให้กองทัพผิดกฎหมายว่า ทราบว่ากองทัพออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยอนุญาต หรือออกใบอนุญาตให้มูลนิธิเอกชนรายใดรายหนึ่งเป็นผู้จัดซื้อยุทธภัณฑ์ให้กองทัพ เป็นห่วงมากว่าบางคนมีเจตนาดี แต่บางครั้งไม่รู้ข้อกฎหมายอาจสุ่มเสี่ยงทำให้เกิดการตีความว่าเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ มาจัดหายุทธภัณฑ์ และเสื้อเกราะถือเป็นหนึ่งในบัญชียุทธภัณฑ์ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเคยโดนคดีมาแล้ว ทั้งที่เป็นเสื้อที่ซื้อตามคลองหลอด ช้อปปี้ออนไลน์ ใส่ป้องกันอาวุธกระสุนยาง ยังโดนศาลพิพากษาจำคุกมาแล้ว แต่รอลงอาญา เพราะเป็นยุทธภัณฑ์ เป็นห่วงจึงเตือนออกไปเสียงดังหน่อยแค่นั้นเองเจ้าหน้าที่อาจผิดฐานละเว้นซะเองเมื่อถามว่าการมีหนังสือขอความอนุเคราะห์จากกองทัพจะทำให้สามารถดำเนินการได้หรือไม่ นายปิยรัฐตอบว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องผิดสเปกหรือล็อกสเปก แต่เป็นเรื่องข้อกฎหมาย ถ้าหน่วยงานผู้ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการตามระเบียบ และกฎหมายของกระทรวง ยังทำผิดเสียเอง เผลอๆจะโดนด้วย เรื่องนี้ลามแน่นอนถ้ามีใครสักคนไปแจ้งความดำเนินคดี วันดีคืนดีเกิดสู้รบกันขึ้นมาอีก แล้ว “กัน จอมพลัง” บอกว่าขอจัดซื้อขีปนาวุธอาวุธยุทโธปกรณ์เอง โดยที่กองทัพขาดแคลน ทำความดีเพื่อประเทศชาติ แบบนี้ทำได้หรือไม่ วัตถุประสงค์ของกฎหมายคือต้องป้องกันช่องโหว่ที่จะนำไปสู่การทำผิดได้กกต.ขู่สวมรอยสมาชิกพรรคมีโทษที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีประชาชนพบชื่อตัวเองเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหนึ่งโดยที่ไม่ได้สมัครสมาชิกว่า การสมัครสมาชิกพรรคการเมือง สิทธิเสรีภาพที่ประชาชนต้องด้วยความสมัครใจ เมื่อสมัครเสร็จ พรรคต้องตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครสมาชิกพรรคว่า ไม่มีลักษณะต้องห้าม นายทะเบียนพรรคการเมืองต้องตรวจสอบและเสนอให้พรรคอนุมัติ ก่อนลงในฐานข้อมูลระบบสมาชิกพรรค ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ เมื่อมีข่าวเช่นนี้สำนักงาน กกต.จะตรวจสอบไปยังพรรคการเมือง ต้องสอบถามว่าดำเนินการตามกฎหมาย หรือข้อบังคับหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วว่ามีความผิดจริง กฎหมายกำหนดโทษ หัวหน้าพรรคจะโดนโทษปรับ แต่นายทะเบียนพรรคที่เป็นคนตรวจสอบคนแรก มีโทษอาญาจำคุกไม่เกิน 3 ปีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่