ไร้ร่องรอย คนเมืองกาญจน์ถามหาว่าทำไมไม่ไปช่วยหาเสียงเลือกซ่อม สส.เขต 7 “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรค “เพื่อไทย” หายไป จากจอเรดาร์ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ปกติถ้าไปเมืองนอกก็จะแจงผ่าน “มือถือ” แต่คราวนี้แปลกมาก ไม่ทราบอะไรขนาดวันเปิดตัวผู้สมัครลอต 1 จำนวน 22 คน ก็ให้ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ผอ.เลือกตั้งโชว์เดี่ยว ทั้งๆที่ควรจะแท็กทีมให้ลูกพรรคเกิดความมั่นใจและฮึกเหิมงานก็เลยกร่อยไปหน่อยมิหนำซ้ำเลือดยังไหลไม่หยุด เมื่อ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” รุ่นใหญ่ก็ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคเสีย อีกบรรยากาศก็เลยไม่สู้จะดีนัก“สมพงษ์” เปิดเผยว่าไม่มีพรรคไหนดูด แต่มีความรู้สึกไม่สบายใจกับการบริหารงานของหัวหน้าพรรคคนใหม่ตั้งแต่เลือกตั้งที่เชียงใหม่-ลำพูน ที่ “เพื่อไทย” แพ้รูดก็เพราะ ไม่ฟังเสียงผู้สมัคร ไม่ฟังเสียงผู้สนับสนุน แต่ไปตัดสินใจเองทั้งหมดทำให้ “เพื่อไทย” ได้ สส.แค่ 2 คน ทั้งๆที่เป็นเมืองหลวงแท้นี่แหละคือจุดที่ทำให้ต้องตัดสินใจ!ว่าไปแล้ว นับแต่แพทองธารเข้ามาบริหารพรรคเองก็มี ความเป็นตัวตนอยู่หลายเรื่องคือ ตัดสินใจด้วยความคิดของตัวเอง“วัน อยู่บำรุง” ลูกชาย “เฉลิม บางบอน” ก็ต้องออกจากพรรค เพราะ “หัวหน้าพรรคไม่ให้ราคา” น่าจะเป็นเพราะคุมไม่ได้ส่วนหนึ่งที่สำคัญคือภาพลักษณ์ไม่ดีถ้าเป็นรัฐบาลจะเกิดปัญหาได้ก็เลยต้องแตกหักกันอีกคน “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ที่แนบแน่นกับ “ทักษิณ ชินวัตร” แต่ลูกสาวไม่ค่อยชอบ เพราะคุมไม่ได้และภาพลักษณ์ไม่ค่อยดีเช่นกันจึงไม่ได้เป็น “รัฐมนตรี”ได้สร้างความเคืองขุ่นให้ “ผู้กอง” มากพอสมควรก็เลยเล่นบทแค้นนี้ต้องชำระ หัก “เพื่อไทย” ไปสนับสนุน “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกรัฐมนตรีต่างๆเหล่านี้คือผลงานของลูกสาวเจ้าของพรรคตัวจริงที่มีอะไรในตัวอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่จะฟังพ่อหรือตามพ่อทุกเรื่องแต่ว่าไปแล้วถือว่าตัดสินใจได้ดี แม้ในทางการเมืองจะต้อง เสียไปบ้าง แต่ก็คุ้มค่า เพราะ “ธรรมนัส” ที่เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล “อนุทิน” นั้น ก็มีปัญหาเมื่อถูกโยงว่าเกี่ยวพันกับธุรกิจสีเทา “สแกมเมอร์” ทำให้นายก รัฐมนตรีต้องถูกโจมตีว่าปกป้องพวกพ้อง ไม่จัดการให้เด็ดขาดเรื่องนี้สร้างรอยด่างให้ “อนุทิน” ที่หวังจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก 4 ปีแน่นอนหากไม่แก้ไขให้ทันท่วงที!แบบว่าได้อย่างก็เสียอย่างในทางการเมืองแต่ “แพทองธาร” นั้น ที่หลบฉากการเมืองในตอนนี้นั้น ยังไม่มีมูลเหตุที่ชัดเจน จะถูกห้ามเคลื่อนไหว หรือหลบฉากเพื่อให้ปัญหาทุเลาเนื่องจากเจ้าตัวยังมีคดีที่ ป.ป.ช. อีกทั้ง “พ่อ” แม้จะติดคุก ก็ยังมีคดีที่พัวพันยังไม่หมด ไม่ว่าจะเป็นคดี ม.112 และชั้น 14 รพ.ตำรวจทุกอย่างมันผูกโยงกันไปหมดดีไม่ดีอาจถึงขั้นห้ามคนตระกูลนี้เล่นการเมืองก็มีความเป็นไปได้!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม