เมื่อวานผมเขียนต้อนรับและให้กำลังใจ “คนนอก” 5 คนของรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะ “คนนอก” ที่จะมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งแม้ว่าจะมีเวลาน้อยมาก คือ แค่ 4 เดือน...แต่ผมก็ยังเชื่อว่าถ้าทำจริงจังทุ่มเทสุดชีวิต...จะเกิดผลสัมฤทธิ์ได้อย่างมากโดยนั่งไทม์แมชชีนย้อนหลังไป 40 ปี สู่ปี 2527-2528 ยุค “ป๋าเปรม” เป็นนายกฯแล้วเกิดปัญหาเศรษฐกิจอย่างรุนแรง จนประเทศใกล้ล้มละลาย ขาดดุลชำระเงินบักโกรกจนต้องลดค่าเงินบาทถึง 2 ครั้งแต่แล้วในการลดค่าเงินบาทกลับมีผลทำให้เศรษฐกิจไทยพลิกฟื้นได้อย่างเหลือเชื่อแล้วผมก็ทิ้งท้ายไว้ว่าป๋าเปรมทำได้อย่างไร? และบทเรียนครั้งนั้นสอนอะไรเราได้บ้าง? ซึ่งจะมาเขียนต่อในวันนี้ย้อนอดีตกลับไปให้เห็นภาพ ป๋าเปรมโดยคำแนะนำของ “ปู่หมาย” สมหมาย ฮุนตระกูล รมว.คลัง ประกาศลอยตัวค่าเงินบาทวันที่ 2 พฤศจิกายน 2527 ทำให้ค่าเงินบาทพรุ่งไปถึง 27-28 บาท ส่งผลให้สินค้านำเข้าแพงลิ่ว รวมทั้งนํ้ามันประชาชนสื่อมวลชนด่าพรึมทั้งเมือง กระแสขับไล่รัฐบาลเปรมและปู่หมายเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆแต่แล้วในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2527 ซึ่งตรงกับวัน “ลอยกระทง” ของปีดังกล่าวก็เกิดมี “ปาฏิหาริย์” มาช่วยเซฟป๋าเปรมไว้ท่าน ผบ.ทบ. พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก เพิ่งกลับจากต่างประเทศ และเพิ่งได้รับรายงานว่าผลกระทบของการลดค่าเงินบาท ทำให้กองทัพซื้ออาวุธได้น้อยลง...ท่านจึงออกมาระบายความในใจถึงรัฐบาลทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5ทำให้เกิดความตระหนกตกใจและเกิดข่าวลือว่าทหารจะปฏิวัติทหาร (คือป๋าเปรม) ด้วยกันกลายเป็นจุดหักเหหรือกระแสตีกลับทันทีเมื่อสื่อมวลชนซึ่งต่อต้านการปฏิวัติหันมาเชียร์ป๋าเปรมและปู่สมหมาย และเริ่มโหมพูดถึงผลดีของการลดค่าเงินบาท ซึ่งแน่นอนทำให้ของนอกแพงแต่ก็จะเป็นผลดี ทำให้คนไทยซื้อของนอกลดลงขณะเดียวกันก็จะทำให้สินค้าส่งออกของไทยถูกลง และค่าใช้จ่ายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยก็จะถูกลงด้วยสินค้าไทยจะขายดีขึ้น นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเที่ยวมากขึ้น การลงทุนในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น ฯลฯเมื่อได้กระแสช่วยให้อยู่รอด ป๋าเปรมก็หันมาสั่งการให้ เลขาธิการสภาพัฒน์ ยุคนั้น (ดร.เสนาะ อูนากูล) ไปตั้งคณะกรรมการระดับชาติ และคณะอนุกรรมการอีก 10 กว่าคณะ ประกอบ ด้วยตัวแทนภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยหลังลดค่าเงินบาท ลงมือปฏิบัติตั้งแต่ 1 มกราคม 2528 เป็นต้นมาเหลือเชื่อจริงๆครับ...แค่ 6 เดือนเท่านั้นทุกอย่างก็พลิกฟื้นขึ้นทันตาเห็น...ส่งออกไทยทะลุเป้า...ท่องเที่ยวไทยทะลุเป้า...ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัว...อุตสาหกรรมส่งออกไทยพุ่งพรวด ฯลฯ และจากนั้นอีกปีเดียว ไทยก็ได้รับฉายาจากสื่อระดับโลกว่า “เสือตัวที่ 5” แห่งเอเชียไม่น่าเชื่อเลยว่าพลังของคนไทยทั้งภาครัฐภาคเอกชนที่ร่วมมือกัน ทำงานจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ทุกครั้งที่เราจะสู้กับปัญหาเศรษฐกิจ ผมจะเล่าถึง “นิทานแห่งความเป็นจริง” เรื่องนี้อยู่เสมอๆ เพื่อเป็นขวัญเป็นกำลังใจแก่นักรบเศรษฐกิจไทยว่า...ถ้าเราร่วมมือกันจริงจังทำงานหนักจริงจังเราจะเป็นฝ่ายชนะมากกว่าแพ้มาถึงวันนี้ขอนำมาเล่าให้ “ทีมงานคนนอก” ที่จะมากู้เศรษฐกิจของรัฐบาลอนุทินได้ทราบไว้จะได้มีกำลังใจในการแก้ปัญหาอันหนักหน่วงของประเทศชาติต่อไปพวกนักการเมืองอาชีพเขาจะว่าอย่างไร? เล่นลิ้นสำบัดสำนวนอย่างไรช่างเขา? ขอท่านคนนอกทั้ง 5 ทำงานให้เต็มที่4 เดือนข้างหน้านี้เห็นหน้าเห็นหลังแน่นอนครับ!"ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม