ภท.ตีปี๊บนโยบายรัฐบาลหนู ลุย 4 ภารกิจ ใน 4 เดือนสู้ภัยเศรษฐกิจ ความมั่นคง ภัยธรรมชาติ และภัยสังคม ชูคนละครึ่งพลัสลดรายจ่าย เหน็บเอนเตอร์ เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ต้องไม่มีกาสิโน “อนุทิน” ส่อง รธน.ให้อ่านร่างนโยบายให้ที่ประชุมสภาฯรับทราบ พท.โอ่ขยี้นโยบายรัฐบาลนอมินีบุรีรัมย์ ฉายภาพ 4 เดือนยุบคดีกับ 4 หายนะ ขย่มนายกฯใช้แต่คนใกล้ชิดทำงาน จ้องล้างคดีเขากระโดง-ฮั้ว สว.สนองนายใหญ่บุรีรัมย์ ทำประเทศขาดโอกาส ไร้ความโปร่งใสเฉ่ง สส.พรรค ภท.อยู่ในห้องประชุมสภา แต่ไม่กดบัตรแสดงตน โยนขี้ พท.ป่วนสภาล่ม บี้ ปชน.เจรจา “เสี่ยหนู” สะกิด สว.ปลดล็อกแก้ รธน. ภท.เฮคว้าชัยเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ ทิ้งขาดเด็ก พท.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เผยแพร่สรุปเนื้อหาร่างนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย. ย้ำเป้าหมาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศ ครอบคลุมภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยธรรมชาติ และภัยสังคม โดยย้อนเกล็ดพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ต้องไม่มีกาสิโนภท.ย้ำนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจเมื่อวันที่ 28 ก.ย. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า เพจเฟซบุ๊กพรรค ภท.เผยแพร่สรุปเนื้อหานโยบายรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ที่อภิปรายวันที่ 29-30 ก.ย. นำนโยบายด้านต่างๆมาสรุปให้กระชับได้ใจความ เป้าหมาย “4 เดือน 4 ภารกิจหลัก” 4 เดือนแก้ 4 ภัย คืนความมั่นใจให้ประเทศ ภัยเศรษฐกิจ, ภัยความมั่นคง, ภัยธรรมชาติ, ภัยสังคม 1.นโยบายเศรษฐกิจ ลดค่าครองชีพ ลดรายจ่ายด้วยโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ส่งเสริมพลังงานทดแทน ลดค่าใช้จ่ายขนส่งและเดินทาง แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ลดต้นทุนและป้องกันสินค้าลักลอบนำเข้า 2.นโยบายความมั่นคง และการต่างประเทศ รัฐบาลจะใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน เช่น กรณีพิพาท ไทย-กัมพูชา 3.นโยบายแก้ภัยพิบัติและช่วยเหลือประชาชนปรับปรุงระบบเตือนภัยและมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน เปิดเผย ตรวจสอบได้ และ 4.นโยบายป้องกันปัญหาสังคมและอาชญากรรม ปราบปรามยาเสพติด การพนันออนไลน์และเครือข่ายสแกมเมอร์อย่างจริงจัง เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ต้องไม่มีกาสิโนนายกฯควงปลัด มท.คู่หูกินห่านพะโล้ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และรมว.มหาดไทย ขับรถซีตรองโบราณไปทานห่านพะโล้ร้านฉั่ว คิม เฮง ห่านพะโล้ชื่อดังร้านประจำ มีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยร่วมด้วย ต่อมาช่วงบ่ายเข้าพรรค ภท.ประชุมเตรียมแถลงนโยบายรัฐบาล จากนั้นนายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า กินข้าวเสร็จก็ไปทำงาน นึกถึงประโยชน์บ้านเมืองเป็นหลัก จะเอาอย่างไรกับคนก่อนหน้านี้ย้ายคนแทบหมดกระทรวง ได้ประโยชน์อะไร จะย้ายใครหรือไม่ย้ายใครไม่ใช่เรื่องหลัก ทุกคนต้องทำงานให้ตน สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าวิธีการทำงานแตกต่างกัน และผลการทำงานต้องแตกต่างกัน คนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม จะได้รับความยุติธรรมคืน เมื่อถามว่าแสดงว่าจะย้ายกลับ นายอนุทินย้อนกลับว่า “อย่าเอาอะไรมายัดปากผม”พร้อมอ่านนโยบายให้สภารับทราบนายอนุทินกล่าวต่อว่า สำหรับร่างนโยบายรัฐบาลได้ศึกษาแล้ว ตามรัฐธรรมนูญนายกฯต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายเพื่อให้ที่ประชุมสภารับทราบ ไม่ใช่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ เราทำต่อเนื่องมา 6 ปีแล้ว เว้นแต่ช่วง 2 เดือนที่มีพักร้อนไป สิ่งที่ทำค้างอยู่ช่วง 2 เดือน ยังไม่ถึงขั้นต้องยกเลิก สิ่งที่เราอยากทำอะไรก็สานต่อนโยบายใหม่ๆ มีนโยบายช่วยเหลือประชาชนกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้นโพลคะแนนพุ่งต้องทำงานให้หนักนายอนุทินกล่าวถึงผลสำรวจหลายโพลคาดหวังรัฐบาลใหม่และตัวนายกฯ มีคะแนนนิยมเพิ่มมากขึ้นว่า ต้องไม่ไปหลงใหลได้ปลื้มกับโพล ความนิยมก็ดีใจ แต่เป็นเครื่องเตือนสติว่าที่ประชาชนคาดหวังและให้กำลังใจด้วยความเชื่อมั่น เป็นน้ำทิพย์ชโลมจิตใจแต่ต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้น้ำทิพย์กลายเป็นยาพิษ ทำงานต้องมีแรงกดดันเป็นธรรมดา แต่เราต้องไม่ท้อถอย ต้องทุ่มเท สไตล์ทำงานของพรรค ภท.จะมีคำว่า ทำได้เร็ว ทำได้เลย ยิ่งช่วงเวลาไม่ยาวนัก จะเข้ากับรูปแบบการทำงานของพรรคภท. คล่องตัว ถนัดทำงานควิกวินและหวังวางแผนระยะยาว จะวางรากฐานให้รัฐบาลชุดต่อไปหลังเลือกตั้งเข้ามาสานต่อ หลังแถลงนโยบายทำทันที อย่างเรื่องความมั่นคง นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ไปกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 80 เชื่อว่าเราได้ทำให้คนไทยเชื่อมั่นอย่างชัดเจนว่าจุดยืนรัฐบาลนี้เป็นเช่นไร นายสีหศักดิ์ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ คนตั้งท่านขึ้นมาภาคภูมิใจว่าบุคคลที่เรามอบให้มาทำงานเชี่ยวชาญในด้านที่ท่านถนัด ทำความสง่างามให้ประเทศไทยมีศักดิ์ศรีมอบ “ภราดร” จัดคิว รมต.ผลัดชี้แจงนายอนุทินกล่าวอีกว่า ในที่ประชุมรัฐมนตรีของพรรค ได้ทำความเข้าใจบทบาทหน้าที่ของรัฐมนตรีและ สส.ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ ทุกคนรู้หน้าที่อย่างดี เตรียมข้อมูลชี้แจงข้อสงสัยของทั้ง สส.และ สว. ขออย่าคิดอะไรไปทางการเมืองมากเกินไป เราทำหน้าที่และทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้ตรงไปตรงมา หากมีข้อสงสัยใดๆรัฐมนตรีทุกคนต้องพร้อมตอบให้คลายข้อสงสัย ตนต้องอยู่ทั้ง 2 วันจนเลิก ต้องให้เกียรติสมาชิกรัฐสภา ได้กำชับไปว่าบนที่นั่ง ครม.ในรัฐสภา ต้องมีรองนายกฯและ รมต.ประจำอยู่ตลอดเวลา ให้นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯจัดผลัดรัฐมนตรีให้มารอชี้แจง เพื่อให้การรับฟังข้อชี้แนะหรือข้อเสนอแนะได้สื่อสารกันอย่างชัดเจน ส่วนการประชุม ครม.หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 30 ก.ย. จะไปประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลแจงปม “เต้” แค่กิมมิกคุย “เท้ง” ได้นายอนุทินกล่าวถึงดราม่าเรียกนายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.อยุธยา พรรคประชาชน (ปชน.) ขึ้นเวที ระหว่างตรวจเยี่ยมพื้นที่น้ำท่วมที่ จ.พระนครศรี อยุธยาว่า “เรื่องดราม่า ไม่อยากพูดถึง ไม่อยากคุย” ที่พูดว่า “ดีแล้ว เลือกเต้ (นายทวิวงศ์) แล้วให้เต้มาเลือกหนู” ต้องฟังให้จบทุกช็อต กล่าวชื่นชม สส.ด้วยซ้ำ เวลาอยู่บนเวทีมันต้องมีเรื่องกิมมิกเล็กๆน้อยๆ ธรรมดา ยังคุยกับนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน.ได้ เมื่อถามย้ำว่าหัวหน้าพรรคปชน.ย้อนนายอนุทินกลับมาแรงเรื่องนี้ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร เป็นเรื่องการลงพื้นที่ การทำงานเป็นเรื่องการทำงานภท.ปัดเก๋าเกมฉวยโอกาสหาเสียงน.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี โฆษกพรรค ภท.กล่าวถึงพรรค ปชน.มองคำว่า “ดีแล้วเลือกเต้ ให้มาเลือกหนู” เป็นการฉวยโอกาส จากการเป็นผู้มากประสบการณ์เพื่อผลประโยชน์ตัวเองว่า หากเข้าใจเจตนานายอนุทินลงพื้นที่ไปพบปะประชาชน ในเขตพื้นที่ของนายทวิวงศ์ ไม่น่ามีอะไรมากกว่านั้น นายกฯเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ขึ้นเวทีพบปะพี่น้องประชาชน ไม่ใช่อยู่พื้นที่ใครแล้วไม่ได้เชิญใครมา ไม่ใช่เก๋าเกม ฉวยโอกาสทางการเมืองหาเสียง ถ้ารู้จักนายกฯดีท่านไม่เอาประเด็นนี้มาเล่นอยู่แล้ว ถ้าจะบอกว่าเราเก๋าเกม ง่ายที่สุดคือบนเวทีจะมีแต่บุคลาการพรรค ภท.ล้วนๆ ถ้าจะบอกว่าเราเล่นการเมืองเราจะไม่เชิญใครบนเวทีให้เป็นประเด็นแน่พท.ขยี้นโยบาย รบ.นอมินีบุรีรัมย์เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค พท.แถลงถึงการอภิปรายนโยบายรัฐบาลว่า พรรค พท.จะต้อนรับรัฐบาลใหม่ไม่ออมมือ ภายใต้แคมเปญ “4 เดือนยุบคดี กับ 4 หายนะ” การตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ 4 เดือน มีภารกิจแอบแฝงนำมาซึ่งหายนะ 4 ด้านคือ 1.การขาดโอกาส ทำให้ประเทศหยุดชะงัก นโยบายโครงการต่างๆที่วางรากฐานลดค่าครองชีพ เพิ่มรายได้ประชาชน ถูกรัฐบาลใหม่ปัดตกหมด เพราะเป็นนโยบายรัฐบาล พท.คิด 2.การขาดคนมีฝีมือเป็นรัฐบาลนอมินีบุรีรัมย์ วางตัวรัฐมนตรีปราสาทสายฟ้าคอนเนกชัน ทำภารกิจสำคัญจำนวนมาก แม้คำแถลงนโยบายระบุรัฐบาลจะรักษาหลักนิติธรรม ทำสงครามพนันออนไลน์ ภัยไซเบอร์ ต้องการคนมีฝีมือทำงาน แต่นายกฯกลับเลือกคนเชื่อมือคนใกล้ชิดไปทำงานแทนขย่ม 4 เดือนยุบคดีกับ 4 หายนะนายดนุพรกล่าวว่า 3.การขาดความโปร่งใส วางตำแหน่งรัฐมนตรีเกี่ยวกับ 2 คดีใหญ่ที่ดินเขากระโดง คดีฮั้ว สว.จากบ้านใหญ่สีน้ำเงิน ความโปร่งใสถูกปิดทับด้วยฟิล์มสีดำสนิท ไม่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อผู้บังคับกฎเกณฑ์มีเจ้านายที่ไม่ใช่ประชาชน แต่เป็นนายใหญ่บุรีรัมย์ 4.การขาดอนาคตประชาธิป ไตย การขับเคลื่อนการเมืองหลังฉากเริ่มปรากฏตัวให้เห็นเด่นชัด มีสัญลักษณ์ร่วมกันคือสีน้ำเงิน ที่ได้รับชุบชีวิตจากตั๋วช้างสีส้ม ปลายทางที่รัฐบาลสีน้ำเงินเดินไป มีพลพรรคสีส้มเป็นผู้ให้กำเนิด อาจนำไปสู่หายนะไม่มีวันย้อนกลับ เป็น 4 เดือนยุบสภา หรือ 4 เดือนยุบคดี เป็น 4 นโยบายรัฐบาลอนุทิน หรือ 4 ข้อหายนะฉะ ภท.หยุดโยนผิด พท.ทำสภาล่มนายดนุพรกล่าวอีกว่า เหตุสภาล่มระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด กล่าวหาว่าพรรคพท.ทำให้สภาล่มไม่ตรงข้อเท็จจริง ไม่เป็นธรรม เอ็มโอเอพรรค ปชน.กับพรรค ภท.ระบุจะร่วมรักษาองค์ประชุมสภาฯ แต่ทางปฏิบัติรัฐบาลไม่สามารถทำตามข้อตกลงได้ การโยนความผิดให้ฝ่ายค้านบิดเบือนความจริง หนีความรับผิดชอบ ปกปิดความล้มเหลวของตนเอง สภาล่มมี สส.พรรค ภท.อยู่ในห้องประชุมแต่ไม่กดแสดงตน นำไปสู่การขาดองค์ประชุม เล่นเกมการเมืองโยนความผิดให้ฝ่ายค้าน เบี่ยงเบนความสนใจเรื่องถนนยุบหรือไม่ ส่วนพรรค ปชน.อย่าพยายามปกป้องพรรค ภท.จนเกินงาม สังคมมองพรรค ปชน.เป็นฝ่ายค้ำรัฐบาลอยู่แล้ว ล่าสุดมีการสื่อสารทำนองเลือก สส.บางพรรคได้นายกฯอีกพรรค ไม่ตรงเจตนารมณ์ประชาชน จนคนจับสังเกตได้หมดแล้วห่วงปลายทางแก้ รธน.ไม่สวยหรูนายดนุพรกล่าวถึงการยื่นญัตติเสนอร่างแก้ไขเพิ่มรัฐธรรมนูญ หมวด 15 เปิดทางร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า มีทั้งร่างพรรค พท. พรรค ปชน. และ พรรค ภท. การจะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เงื่อนไขสำคัญขั้นตอนรับหลักการวาระ 1 และ 3 ต้องมีเสียงเห็นชอบจาก สว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ความพยายามกำหนดแนวทางได้มาซึ่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ของพรรค พท. พรรค ปชน. อาจถูกคุมกำเนิด พิจารณาแนวทางพรรค ภท.เสนอการได้มา ส.ส.ร.ไม่เชื่อมโยงใดๆให้ประชาชนมีส่วนร่วมเลย เปิดทางให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามเอ็มโอเอส้ม-น้ำเงินเป็นเพียงพิธีกรรม ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการ ท้ายที่สุดผู้กำหนด ส.ส.ร. จะมีพรรคใหญ่ในคราบ สว.สีน้ำเงิน และพรรค ภท.ที่เติบโตขึ้นทุกวันจากการรดน้ำพรวนดิน บำรุงด้วยแร่ธาตุสารสีส้ม จวนเจียนจะมีสมาชิกถึงกึ่งหนึ่งของรัฐสภาเต็มที ปลายทางรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจไม่ใช่สิ่งดีงามอย่างที่พรรค ปชน.คาดหวังบี้ ปชน.คุย “เสี่ยหนู” สั่ง สว.ปลดล็อกนายดนุพรกล่าวว่า สภาพการณ์นี้เปิดกล่องแพนโดร่า ปลดปล่อยหายนะออกมา ปิดขังความหวังไว้ด้านใน เพื่อหยุดยั้งหายนะที่จะเกิดขึ้น พรรค ปชน. ผู้ทำคลอดรัฐบาลสีน้ำเงิน ไม่เพียงแต่เข้าไปพูดคุยเจรจานายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ แต่ต้องตั้งโต๊ะเจรจาอย่างเปิดเผยระหว่างพรรค ปชน. ฝ่ายค้ำรัฐบาล พรรค ภท.แกนนำจัดตั้งรัฐบาลและ สว.ตัวแปรสำคัญกำหนดทิศทางการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทำ การเมืองให้ตรงไปมาอย่างที่ประกาศ จะดีลแลกเปลี่ยนอะไร ให้ประชาชนรับรู้ด้วย หวังว่าการตัดสินใจของพรรค ปชน.จะไม่สูญเปล่า นี่คือการเอาอนาคตประเทศ มาเดิมพัน ความรับผิดชอบมากขนาดไหนของพรรค ปชน.ไม่เพียงพอ หากความหวังจะมีรัฐธรรมนูญใหม่ กลายเป็นความสิ้นหวัง หรือหายนะที่จะตามมา“โรม” ย้อนไปถาม “ทักษิณ” รู้ดีตั๋วช้างด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค พท. อ้างเรื่องสีน้ำเงินได้รับการชุบชีวิตจากตั๋วช้างสีส้มว่า ถ้าอยากรู้ว่าตั๋วช้างเป็นยังไง นายดนุพรไปถามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯได้ คนนั้นรู้ดี โทษตัวเองบ้าง อย่ามัวโทษคนอื่น เป็นรัฐบาลมาสองปี ผลงานไม่มี สร้างแต่ปัญหา เวลาที่เหลืออยู่หยุดแกว่งปากหาเสี้ยนได้แล้ว ทำงานบ้างอะไรบ้างปชน.เชิญชวนร่วมตรวจสอบนโยบาย รบ.วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊กพรรค ปชน.โพสต์ข้อความว่า นับถอยหลัง 120 วัน รัฐบาลอนุทินยุบสภา เดินหน้าสู่อนาคตที่ประชาชนกำหนดเองผ่านการเลือกตั้ง และประชามติรัฐธรรมนูญ เชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมจับตานโยบายของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ แม้นโยบายมีเพียง 7 หน้า และ มีเวลาบริหารประเทศ 4 เดือน แต่พรรคประชาชนจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการใช้งบประมาณและการใช้อำนาจรัฐของรัฐบาลนี้อย่างเข้มข้น ตรงไปตรงมา นโยบายเศรษฐกิจระยะสั้น ความมั่นคงชายแดน การแทรกแซงคดีสำคัญ คุณสมบัติของรัฐมนตรีหลายคนที่ไม่สมควรดำรงตำแหน่ง 29-30 ก.ย. ร่วมตรวจสอบรัฐบาลไปพร้อมๆกัน!“ชวน–จุรินทร์” นำทีม ปชป.ชำแหละที่พรรคประชาธิปัตย์ นายประมวล พงศ์ถา วราเดช รักษาการหัวหน้าพรรค ปชป.และประธานสส.พรรค ปชป. เปิดเผยภายหลังการประชุม สส.พรรคว่าในการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 29-30 ก.ย.ที่ประชุมจัดสรรตัวผู้อภิปรายหลักไว้ 4 คน พรรคได้รับเวลาอภิปราย 1 ชั่วโมง ผู้อภิปรายหลักประกอบด้วย 1.นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ 2.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ 3.นายชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองหัวหน้าพรรคและ สส.นครศรีธรรมราช 4.นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช เป็นการส่งสัญญาณว่าพรรค ปชป.พร้อมตรวจสอบและให้ข้อเสนอแนะต่อนโยบายรัฐบาลอย่างเข้มข้น เชื่อมั่นว่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนแน่นอน“ณัฐพงษ์” แต้มวูบ “อนุทิน” เรตติ้งพุ่งวันเดียวกัน นิด้าโพลเผยผลการสำรวจประชาชน อายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ 2,500 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 3/2568” ระหว่างวันที่ 19-24 ก.ย. เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯในวันนี้ ร้อยละ 27.28 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ ร้อยละ 22.80 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ลดลงจากครั้งก่อนที่ได้ร้อยละ 31.48 รองลงมาร้อยละ 20.44 นายอนุทิน ชาญวีรกูล เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่ได้เพียงร้อยละ 9.64 ตามด้วยร้อยละ 7.16 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 6.76 นายชัยเกษม นิติสิริ เมื่อถามถึงพรรคที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ ร้อยละ 33.08 พรรคประชาชน ร้อยละ 21.64 ยังหาพรรค การเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ ร้อยละ 13.96 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 13.24 พรรคภูมิใจไทย และร้อยละ 6.12 พรรครวมไทยสร้างชาติคนพอใจคนละครึ่งพลัสสวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ 2,012 คน เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทยประจำเดือน ก.ย.2568” ระหว่างวันที่ 23-26 ก.ย. พบว่ากลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือน ก.ย.2568 เฉลี่ย 4.02 คะแนน เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค.68 ที่ได้ 3.71 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือผลงานของฝ่ายค้านเฉลี่ย 4.57 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุด คือการแก้ปัญหาความยากจน 3.59 คะแนน นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือน ร้อยละ 55.98 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ขณะที่ฝ่ายค้านที่มีบทบาทโดดเด่นประจำเดือน ร้อยละ 44.27 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบประจำเดือน ร้อยละ 46.25 คนละครึ่งพลัส ผลงานฝ่ายค้านที่ชื่นชอบประจำเดือน ร้อยละ 61.22 ผ่านกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน“แสวง” ปลื้มคนศรีสะเกษแห่ใช้สิทธิเมื่อเวลา 08.30 น. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 12 อาคารโรงเรียนบ้านจะเนียว เทศบาล ต.กระหวัน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. พร้อมนายวีระ ยี่แพร รองเลขาธิการ กกต.ลงพื้นที่ติดตามการลงคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 5 พื้นที่ อ.ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์ จากนั้นนายแสวงให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่เปิดหน่วยสภาพอากาศเป็นใจ มีผู้ออกมาต่อแถวใช้สิทธิ ค่อนข้างคึกคัก คาดว่าจะไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ผู้มาใช้สิทธิยังคงมั่นใจในรัฐว่าจะให้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้ ภาพรวมน่าจะเรียบร้อย ผลการนับคะแนนเลือกตั้งยังไม่เป็นทางการคาดว่าไม่เกิน 20.00 น.“จินณ์ตวรรณ” ชนะขาด “ภูริกา”ต่อมาเวลา 20.00 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 หอประชุมโรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ หลังนับคะแนนเสร็จสิ้นครบทุกหน่วย สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ รายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการพบว่า น.ส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ผู้สมัครจากพรรค ภท. ได้คะแนนไป 39,983 คะแนน ทิ้งขาด น.ส.ภูริกา สมหมาย ผู้สมัครจากพรรค พท. คู่แข่งที่ได้ 31,410 คะแนนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่