ภูมิใจไทยส่งร่างแก้ไข รธน.256 ในนามพรรคร่วมรัฐบาลถึงมือ “วันนอร์” รอถกสรุปยึดร่างใครเป็นหลัก สว.ร่วมเสนอโมเดลก้าว 2 ขา บันได 2 ขั้น ที่มา 200 ส.ส.ร. “พิสิษฐ์” แย้มพร้อมเปิดไฟเขียวปล่อยผ่านวาระแรก แต่ห้ามแตะหมวด 1-2 “ณัฐวุฒิ” แซะ ภูมิใจไทย-ประชาชน ไปหลอมรวมร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมกันมาเป็นร่างเดียว ครม.ชุดใหม่คึกคักตบเท้าเข้าทำเนียบ นายกฯ “หนู” ครึ้มใจแซวทีม “หนู-นัส-เฮ้ง” “สุชาติ” เครื่องร้อนสั่งปลัด ทส.-อธิบดีดึงมือดีมาทำงาน ขอเคลียร์พื้นที่ทับซ้อนก่อนซบ ภท. “โกหน่อ” เผย “เสี่ยต่อ” ทิ้ง ปชป.แน่ หลังส่ง “มาร์ค” รีเทิร์นหัวหน้าพรรค ยันแตกหัก “เดชอิศม์” “มาดามแป้ง” มีแววนั่งเลขาฯพรรคภูมิใจไทย ส่ง น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในนามพรรคร่วมรัฐบาล ส่วน สว.ร่วมเสนอโมเดล ที่มา ส.ส.ร. พร้อมเปิดทางโหวตผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระแรกภูมิใจไทย-พรรคร่วม รบ.ยื่นร่างแก้ รธน.เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 ก.ย. ที่รัฐสภา น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร น.ส.แนนกล่าวว่า ในนามพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้พรรคภูมิใจไทยมายื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256 มีรายชื่อ สส.กว่า 100 รายชื่อเพื่อเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้บรรจุระเบียบวาระต่อไป เป็นประเด็นที่พรรคภูมิใจไทยมีการนําเสนอไปแล้วส่วนหนึ่ง รอเพียงบรรจุเข้าระเบียบวาระเพื่อพิจารณาพร้อมกับร่างของพรรคการเมืองอื่นต่อไปจ่อสรุปอีกรอบยึดร่างใครเป็นหลักน.ส.แนนกล่าวว่า สาระสำคัญหลักของร่างฯเป็นเรื่องที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่จะมีสัดส่วนทั้งการเลือกโดยรัฐสภา ซึ่งสมัครผ่านตัวแทนจังหวัด และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เช่น นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ผู้ที่เคยร่างรัฐธรรมนูญหรือผู้เชี่ยวชาญรัฐธรรมนูญด้วย ส่วนจะผลักดันร่างของพรรคใดเป็นร่างหลักนั้น ต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้ง วันนี้เราพร้อมยื่นตามที่สัญญาไว้ว่าจะทําเรื่องนี้ ฉะนั้น นี่ไม่ใช่สัดส่วนเฉพาะพรรคภูมิใจไทย แต่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคในการร่วมลงชื่อ เมื่อถามว่าถือเป็นการยืนยันว่าพรรคทําตาม MOA แน่นอนใช่หรือไม่ น.ส.แนนตอบว่า ใช่ พูดแล้วทํา สว.ร่วมเสนอโมเดลที่มา ส.ส.ร.นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา แถลงถึงการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของหลายพรรคการเมืองว่า กมธ.ตั้งใจศึกษาแนวทางร่างรัฐธรรมนูญทุกพรรค ขณะนี้รอคำวินิจฉัยฉบับเต็มจากศาลรัฐธรรมนูญ กมธ.ยืนยันว่าประชาชนมีอำนาจอธิปไตยสถาปนารัฐธรรมนูญ ควรมีสิทธิเลือก ส.ส.ร.โดยตรง จากการลงพื้นที่ทุกภาค ประชาชนเกือบ 100% อยากเลือก ส.ส.ร.ด้วยตนเอง ต้องการ ส.ส.ร.ที่เป็นตัวแทนจังหวัด กมธ.จึงทำร่างโมเดล ส.ส.ร.แบบก้าว 2 ขาบันได 2 ขั้น ให้มี ส.ส.ร. 200 คน ส่วนหนึ่งมาจากการเลือกในแต่ละจังหวัด โดยจังหวัดใหญ่มี ส.ส.ร.ได้ไม่เกิน 5 คน อีกส่วนมาจากบัญชีรายชื่อที่เป็นผู้เชี่ยวชาญสมัครเข้ามา เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาเลือกให้เหลือ 200 คน โดยสมาชิกรัฐสภาไม่สามารถเลือกได้ทั้งแพ็ก อาจให้เลือกในสัดส่วนคนละ 5-10 คะแนน ทำให้ ส.ส.ร.มีความหลากหลายมากที่สุด กมธ.อยากให้ส.ส.ร. 200 คน ส่วนหนึ่งไปเป็นกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ อีกส่วนเป็นกรรมการรับฟังความคิดเห็น แนวคิดนี้ยังไม่ได้เสนอวุฒิสภา เป็นการศึกษาของ กมธ. ส่วนเงื่อนไขต้องมีเสียง สว. 1 ใน 3 เห็นชอบนั้น ยอมรับมี สว.ที่มีข้อกังวลต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เกรงจะตีเช็กเปล่าแก้หมวด 1 และ 2เปิดไฟเขียวปล่อยผ่านวาระแรกนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงษ์ สว. กล่าวว่า ในวันที่ 25 ก.ย.จะมีการประชุมวิป 3 ฝ่าย หารือกรอบเวลาอภิปรายนโยบายรัฐบาล ขณะนี้มี สว.เกิน 30 คน แสดงเจตจำนงอภิปราย คาดว่ารัฐบาลชุดใหม่จะทำในสิ่งที่นำเสนอต่อรัฐสภา ทำหน้าที่ได้ดีกว่ารัฐบาลชุดที่ผ่านมา ไม่เอาแบบรัฐบาลชุดที่แล้ว เสนอไปเล่มหนามากแต่ไม่ได้ทำตามที่เสนอเลย ส่วนระยะเวลาบริหารราชการแผ่นดิน 4 เดือน เป็นเวลาที่น้อยมาก หากเวลา 4 เดือน สามารถทำชดเชย 2 ปีที่ผ่านมาได้คิดว่าคุ้ม ส่วนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ยังไม่เห็นร่างแก้ไขของพรรคการเมือง แต่หากมีประเด็นใดเสี่ยงขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ควรตัดออก พรรคการเมืองที่เสนอร่างต้องระวังเรื่องนี้ โดยเฉพาะกรณีรัฐสภาไม่สามารถให้ประชาชนเลือกส.ส.ร.โดยตรงได้ ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่เสียง สว. 1 ใน 3 จะเห็นชอบรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระแรกของพรรคการเมือง แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วย หากจะแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2เพื่อไทยไล่ ภูมิใจไทย-ประชาชน รวมเป็นร่างเดียวขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย ว่า ขอให้พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยไปหาข้อสรุปร่วมกัน เพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นร่างเดียว ลงชื่อร่วมกันของ 2 พรรค เป็นหลักประกันให้ประชาชนมั่นใจว่าพรรคแกนนำรัฐบาลและพรรคแกนนำฝ่ายค้านมีความเห็นทางเดียวกัน มีที่มา ส.ส.ร.แบบเดียวกัน ผลักดันให้เกิดผลในรัฐสภา หากต่างคนต่างเสนอจะมีปัญหา เมื่อรัฐสภาผ่านวาระแรกไปชั้นกรรมาธิการจะใช้ร่างใดเป็นหลัก และหน้าตา ส.ส.ร.ที่คนส่วนใหญ่กังวลจะเป็น ส.ส.ร.สีน้ำเงินหรือไม่ ควรไปตกลงกันให้เสร็จ และไปหารือ สว. ขอรับการสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ทั้งสองพรรคจะยื่นร่างแก้ไขไปแล้วก็ถอนได้ แล้วยื่นใหม่ร่วมกันในนาม 2 พรรค เพราะหากเริ่มต้นแนวทาง 2 พรรคไม่ตรงกัน จะมีหลักประกันใดให้เกิดความหวังว่าดีลนี้จะสำเร็จ ไม่ใช่สักแต่จะลงประชามติ แต่เนื้อหาควรตอบโจทย์พัฒนาการเมืองไปสู่ประชาธิปไตยเหน็บพรรคประชาชนคุมเกมแก้ รธน.ไม่ได้ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าพรรคประชาชนจะคุมเกมต่อรองพรรคภูมิใจไทยได้หรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า คุมไม่ได้ตั้งแต่ต้น ภาพสะท้อนดังกล่าวเกิดตั้งแต่ก่อนเซ็นเอ็มโอเอที่มีการเร่งรัดในการแถลงตอบรับตั้งรัฐบาลภูมิใจไทย นี่คือสัญญาณว่าพรรคประชาชนไม่ใช่ผู้คุมเกมตัวจริง เรื่องนี้กำลังนำพาให้แนวทางการแก้รัฐธรรมนูญกลายเป็นปัญหาใหม่และใหญ่ หากได้ ส.ส.ร.ตามสูตรที่คนกังวลว่าจะอยู่ในอิทธิพลของบางพรรค เมื่อถามถึงข้อกังวลว่าอาจล้มกลางทาง นายณัฐวุฒิตอบว่า เห็นไม่ตรงกันตั้งแต่วันยื่นแล้ว และพรรคที่เห็นไม่ตรงกันคือพรรคที่ไปทำดีลเอ็มโอเอด้วยกัน ลองประเมินดูสภาพจะเป็นแบบใด หากเห็นไม่ตรงกันและตกลงกันไม่ได้ แล้วไปเสนอร่างคนละฉบับ หากต้องเลือก สว.จะเลือกร่างพรรคใดครม.ใหม่คึกคักตบเท้าเข้าทำเนียบผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่ายเป็นไปด้วยความคึกคัก บรรดารัฐมนตรีชุดใหม่ทยอยเดินทางมาถึงตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจ ATK และถ่ายรูปเดี่ยวติดบัตรรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ มีนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข เดินทางมาถึงเป็นคนแรกตั้งแต่เวลา 12.12 น. จากนั้นรัฐมนตรีคนอื่นทยอยตามกันมาต่อมาเวลา 14.10 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เดินทางมาด้วยรถยนต์ Lexus Lm 350h Executive 7-Seater สีขาว ทะเบียน พม 28 กรุงเทพมหานคร ทันทีที่มาถึงได้ทักทายนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วานิช รมช.คมนาคม ที่มารอรับ และยังช่วยนายไชยชนกติดตะขอที่ปกคอเสื้อให้ นักข่าวจึงแซวว่าทำหน้าที่แทนพ่อ นายอนุทินถึงกับหัวเราะพร้อมกล่าวว่า “อาๆ” จากนั้นเดินเข้าตึกสันติไมตรีไปเปลี่ยนเป็นชุดปกติขาว ก่อนจะกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าไปย้อมผมดำมานายกฯอารมณ์ดีแซวทีม "หนู–นัส–เฮ้ง"จากนั้นเวลา 15.00 น. นายอนุทินนำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เสร็จแล้วทั้งหมดไปรวมตัวกันที่ห้องประชุม 510 รอเวลาเดินทางไปเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ระหว่างที่เดินมายังตึกบัญชาการ 1 นายกฯได้กวักมือเรียก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้มาเดินด้วยกันข้างๆ ก่อนแซวอย่างอารมณ์ดีว่า “หนู-นัส-เฮ้ง” ย้ำอยู่ถึง 3 รอบ กระทั่งเวลา 16.00 น. นายอนุทินนำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นรถเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลไปพร้อมกันครม.นัดพิเศษหารือร่างนโยบายนางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษว่า เป็นการประชุม ครม.นัดพิเศษ ส่วนการประชุม ครม.นัดแรก จะเกิดขึ้นภายหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ส่วนวาระการประชุมวันนี้เป็นการพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาล เพื่อส่งต่อไปยังรัฐสภา รวมถึงจะพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองในตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่วนการแบ่งงานรองนายกฯ และ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังไม่ทราบ และยังไม่เห็นเอกสารตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาฯนายกฯต่อมาเวลา 19.20 น. ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เสนอแต่งตั้ง น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล ดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี“สุชาติ” สั่งปลัด ทส.–อธิบดีดึงมือดีนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงแนวทางการทำงานว่า วันที่ 26 ก.ย. จะเข้ากระทรวง ทส.เพื่อมอบนโยบายแนวทางการทำงานแก่ข้าราชการ ได้คุยกับปลัด ทส. และอธิบดีกรมต่างๆที่มีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายคร่าวๆแล้ว ให้เอาคนที่มีคุณภาพมาทำงาน ใครที่มีปัญหาต้องย้าย ปรับหลังบ้านตัวเองให้เร็วที่สุด เอาคนที่มีคุณภาพมาทำงานให้เร็วที่สุดเคลียร์พื้นที่ทับซ้อนก่อนซบ ภท.เมื่อถามว่าในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 สส. จะไปสังกัดพรรคใด หรือไปตั้งพรรคใหม่ นายสุชาติตอบว่า เพื่อน สส.ยังสังกัดพรรคเดิม เราต้องมีมารยาท เวลาอีก 4 เดือนข้างหน้าที่ตกลงกันไว้ มีระยะเวลาไปสังกัดพรรคการเมืองภายใน 30 วันอยู่แล้ว เมื่อถามว่ากลุ่ม 16 สส.มีความชัดเจนหรือไม่ ที่จะไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย นายสุชาติตอบว่า คุยกันทุกวัน แต่ต้องดูพื้นที่ว่าไปทับซ้อนกับเขตใครหรือไม่ ยากตรงไปทับพื้นที่กัน ต้องมีการเจรจาหาที่อยู่ให้เหมาะสม เมื่อถามย้ำว่ามีแนวโน้มไปสังกัดพรรคใหม่ ไม่ให้ทับซ้อนพื้นที่พรรค ภท. นายสุชาติตอบว่า ต้องยอมรับ สส.ในกลุ่มบางพื้นที่หากอยู่พรรค ภท.ก็ง่ายในการหาเสียง เมื่อถามว่ากลุ่ม 16 สส.ไปทั้งกลุ่ม หรือแยกกันตามสถานการณ์ นายสุชาติตอบว่า น่าจะทั้งหมดเราพี่น้องร่วมกันมา เมื่อถามว่ามีการจัดสรรโควตารองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้กลุ่ม 16 สส.หรือไม่ นายสุชาติตอบว่า ไม่อยู่ในเรื่องการพูดคุยกันตอนนี้ เราไม่ได้คุยกันตรงนั้นเพื่อไทยแซะไม่ขอเป็นฝ่ายค้ำรัฐบาลช่วงสายที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หารือก่อนเข้าสู่วาระประชุมว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันทำหน้าที่เป็น สส. แต่เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในการเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคอื่นได้ จึงไม่สามารถร่วมกับผู้นำฝ่ายค้านและคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้ เพราะพรรคเพื่อไทยเลือกนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ แต่อีกพรรคเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกฯ เตรียมจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ช่วงวันที่ 29-30 ก.ย. ดังนั้นการทำหน้าที่ระหว่างฝ่ายค้านที่แท้จริง กับฝ่ายค้ำรัฐบาลต้องแยกให้ชัดเจน พรรคเพื่อไทยขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านไม่ใช่ฝ่ายค้ำ ระหว่างการอภิปราย นายอดิศรนำภาพต้นกล้วยที่มีไม้ค้ำมาประกอบการอภิปราย พร้อมเขียนข้อความว่า อาถรรพณ์ไม้ค้ำกล้วย“เสี่ยต่อ” ทิ้งประชาธิปัตย์ส่ง “มาร์ค” ขึ้นหัวหน้าด้านนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ หรือโกหน่อ อดีต สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย ถึงอนาคตทางการเมืองว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมรับประทานอาหารที่บ้าน จ.ตรัง นั่งคุยกัน 2 ชั่วโมง ซักถามนายเฉลิมชัย 3 ประเด็น 1.ยังอยู่ประชาธิปัตย์หรือไม่ 2.ยังทำการเมืองต่อหรือไม่ และ 3.ถ้าทำการเมืองต่อแล้วไปที่ไหน คำตอบที่ได้คือคงไม่กลับประชาธิปัตย์แล้ว แต่จะช่วยดำเนินการให้เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ให้เสร็จในวันที่ 18 ต.ค. ฟังแนวโน้มแล้วนายเฉลิมชัยจะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เขานัดเจอกันแล้ว ส่วนจะทำการเมืองต่อหรือไม่ นายเฉลิมชัยขอไปพบ สส.ให้ครบทุกคนเพื่อสอบถามความคิดแต่ละคนก่อน หากทำการเมืองต่อ น่าจะมี 2 พรรค คือ พรรคกล้าธรรม และพรรคภูมิใจไทย เพราะมีกระแสในภาคใต้เผย “มาดามแป้ง” จ่อเลขาฯ พรรคประชาธิปัตย์เมื่อถามว่าอะไรที่ทำให้นายเฉลิมชัยคับแค้นใจมาก หรือแค้นใจนายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายสมชายตอบว่า น่าจะมีส่วนด้วย มีบางคนบอกว่า “หน่อแก่กว่าลำ” ก็ลำบาก เมื่อถามย้ำว่ามีข่าวนายเดชอิศม์จะยกทีมไปอยู่พรรคกล้าธรรม นายเฉลิมชัยอาจไม่ไปพรรคกล้าธรรมใช่หรือไม่ นายสมชายตอบว่า ก็ไม่แน่อาจเป็นอย่างนั้นก็ได้ ทั้งนี้นายเฉลิมชัยยังคุมเสียง สส. 18 คน และกรรมการบริหารพรรค รวมถึงประธานสาขาพรรค และตัวแทนจังหวัด ยังเป็นคนของนายเฉลิมชัย 80% ผู้ใหญ่ในพรรคดูชัดเจนแล้วว่า จะมอบให้นายอภิสิทธิ์ ทำให้โอกาสของนายอภิสิทธิ์จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคมีสูง ส่วนเลขาธิการพรรคไม่แน่ใจ อาจเป็นนางนวลพรรณ ล่ำซำ (มาดามแป้ง) หรือใคร เพราะมีตัวเลือกหลายตัว ทั้งนายชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองหัวหน้าพรรคฯ ที่เชียร์นายอภิสิทธิ์เหมือนกัน แต่มีเงื่อนไขว่าต้องเป็นเลขาธิการพรรคแล้วจะอยู่ที่นี่ต่อ แต่ถ้าไม่ได้เลขาธิการพรรคก็ไม่แน่เหมือนกันเลือกตั้งเทศบาลคา กกต. 1.3 พันอีกเรื่อง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่ความคืบหน้าการพิจารณาคำร้อง/ความปรากฏ เรื่องการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี กรณีครบวาระเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีคำร้องเรียน/ความปรากฏ เกี่ยวกับการเลือกตั้งดังกล่าวเข้ามาที่ กกต. จำนวน 1,613 เรื่อง แบ่งเป็นคำร้อง 1,508 เรื่อง และความปรากฏ 105 เรื่อง กกต.พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว 292 เรื่อง แบ่งเป็นการพิจารณาคำร้อง 275 เรื่อง สั่งไม่รับ/มีการรวม เรื่อง 182 เรื่อง ไม่มีมูล/สั่งยกคำร้อง/สั่งยุติเรื่อง 93 เรื่อง มีการวินิจฉัยชี้ขาด 17 เรื่อง คือให้มีการยกคำร้อง 2 สำนวน ระงับสิทธิ 15 สำนวน มีเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการขณะนี้เหลืออยู่ 1,321 เรื่องอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่