การประชุมใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 80 เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.เป็นต้นมา โดยกำหนดให้มีการอภิปรายทั่วไประดับหัวข้อสำคัญในวันที่ 23 ก.ย.ไปจนสิ้นสุดสมัยการประชุมที่ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ อาทิ ความสำคัญของการปรับตัวต่อการพัฒนา การเติบโต เสถียรภาพ และความเท่าเทียมในการได้รับการสนับสนุนทางการเงิน ในวาระครบรอบ 80 ปี (วันที่ 22 ก.ย.) แห่งการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ บรรดาผู้นำประเทศต่างๆได้ไปรวมตัวกันที่ มหานครนิวยอร์ก เพื่อมีข้อตกลงที่เป็นฉันทามติและรับมือกับปัญหาความท้าทายระดับโลกที่มีความซ้ำซ้อน องค์การสหประชาชาติถือเป็นองค์กรหลักที่เดียวในโลกที่ประเทศต่างๆสามารถมารวมตัวกันเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งและหาจุดร่วมเพื่อกำหนดอนาคตร่วมกันความขัดแย้งระหว่าง อิสราเอล กับ ปาเลสไตน์ ที่ ชาติยุโรป ได้รับรองให้ ปาเลสไตน์ มีสถานะเป็นประเทศไปสดๆ ร้อนๆ เพื่อใช้สิทธิในการเจรจาข้อขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจที่จะระงับวีซ่า เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ ในการเข้าร่วมประชุมยูเอ็นในครั้งนี้ อันเป็นนัยสำคัญต่อสหรัฐฯและอิสราเอลที่จะผนวกพื้นที่ เวสต์แบงก์ มาอยู่ในการดูแลของ อิสราเอล หรือ สงครามรัสเซีย–ยูเครน ซึ่งยืดเยื้อและยังไม่มีท่าทียุติการทำสงครามจากข้อพิพาทดินแดนของทั้ง 2 ประเทศไทยกับกัมพูชาต่อข้อขัดแย้งที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติลงง่ายๆเช่นกัน ซึ่งในลักษณะความสำคัญของการประชุมใหญ่สหประชาชาติครั้งนี้ ผู้นำไทย มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าร่วมประชุมแน่นอน เพราะไม่เช่นนั้น กัมพูชา คงใช้โอกาสนี้โจมตีไทยยับเยิน ในสายตาชาวโลกมีมุมมองที่ต่างจากคนไทยตรงที่ว่า ไทยรังแกประเทศที่อ่อนแอกว่า เป็นฝ่ายใช้กำลังรุกรานกัมพูชา และถ้าจะถามต่อไปว่า มาเลเซีย ในฐานะประเทศประธานอาเซียน ญี่ปุ่น ในฐานะสมาชิกในอนุสัญญาออตตาวา จะช่วยเราชี้แจงหรือไม่ในเบื้องต้น ท่าทีก็ไม่ได้เข้าข้างเราดูเหมือนจะเห็นอกเห็นใจเขมรด้วยซ้ำไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ถ้า ประเทศไทย ฟื้นตัวจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดในอาเซียน ภาคใต้ของประเทศไทยมีแต่ปัญหาความไม่สงบ ไม่ได้รับการพัฒนาทั้งที่มีศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันมากถึงมากที่สุดความไม่พร้อมจากการเมืองภายในหลังจากกฤษฎีกาแนะนำว่า นายกฯไทยยังไปร่วมประชุมยูเอ็นไม่ได้เพราะยังไม่มีการแถลงนโยบายต่อสภา จะไปได้ต่อเมื่อมีเรื่องเร่งด่วนจำเป็นจริงๆ และที่ผ่านมาดูเหมือนว่าเราเองก็ยังอยากให้ปัญหาอยู่ในระดับภูมิภาคเท่านั้น รัฐบาลนายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล ที่มีเวลาบริหารงานเพียง 120 วันก็เป็นอีกปัจจัยของความไม่พร้อม ต้องทุ่มเทเวลาให้กับภารกิจสำคัญที่สุด คือการยุบสภาเตรียมเลือกตั้ง เป็นทางตันของแทร่.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติมอิสราเอล