น่าห่วงความเสียสละจะไร้จุดสิ้นสุด จากเหตุการณ์ที่ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ทหารพราน ร้อย ทพ.2610 เหยียบทุ่นระเบิดของกัมพูชาจนขาซ้ายขาดบาดเจ็บสาหัส ขณะลาดตระเวนในพื้นที่พรมแดนไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เป็นกำลังพลรายล่าสุดของกองทัพไทย ที่ตกเป็นเหยื่อยุทธการลอบกัดของกองทัพเขมรพาดหัวข่าวสื่อพากันใช้คำว่า “อีกแล้ว” นั่นก็เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในระยะแค่ 48 ชั่วโมง ทหารไทยต้องสังเวยข้อตกลงการหยุดยิงอย่างไร้เงื่อนไขที่ผู้นำรัฐบาลไทยเจรจากับฝ่ายรัฐบาลกัมพูชา ย้อนแย้งกับสถานการณ์หน้าแนวรบยังมีเหตุที่เขมรไม่ทำตามเงื่อนไข เมื่อทหาร 2 นายของไทยเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดหลังหยุดยิงเป็นสิ่งที่สร้างความคับแค้นใจให้ประชาชนคนไทย นั่นยิ่งไม่ต้องพูดถึงกำลังพลของกองทัพ ที่ทั้งแค้นและอัดอั้น ตันใจกับสภาพที่ต้องเสี่ยงอันตรายเกมหมาลอบกัดของศัตรู ต้องทนดูเพื่อน พี่ น้อง ในทีมตกเป็นเหยื่อ บาดเจ็บ ล้มตาย ตามสัญญาณที่มีการระบายผ่านสื่อ “พวกผมจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” กระตุกหน่วยเหนือให้สั่งลุยแต่นั่นก็ดูจะคนละอารมณ์กันเลย จับอาการนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ที่ยังมองโลกสวย แสดงท่าทีไว้ไมตรีกับกัมพูชา แทนที่จะประณามแรงๆด่าพวกหมาลอบกัด แต่กลับเน้นเตือนทหารไทยให้เพิ่มความระมัดระวังในการลาดตระเวน ลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุลีลาใจเย็นเป็นเหตุสังเกตได้ มาถึงนาทีนี้แล้วพ่อบ้านใหญ่เพื่อไทยยังเน้นรักษาน้ำใจกับผู้นำกัมพูชา มันก็ไม่แปลกที่จะกระตุกกระแสหวาดระแวงสังคมไทยให้จับจ้องไปที่เรื่องผลประโยชน์ โดยเฉพาะอภิมหาขุมทรัพย์พลังงานในอ่าวไทยทับซ้อนทะเลเขมร ที่กลุ่มทุนการเมืองทั้งไทย เขมร และทุนใหญ่ต่างชาติ จ้องแบ่งเค้กตาเป็นมันประชาชนคนไทยเริ่มจับได้ไล่ตามทัน ปะติดปะต่อเหตุการณ์ รับรู้ถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่หลังฉากการสู้รบไทย–กัมพูชา เมื่อบูรณภาพเหนือดินแดนสยาม อำนาจอธิปไตยของไทยถูกนำไปผูกโยงกับผลประโยชน์ธุรกิจข้ามชาติ แหล่งพลังงานมูลค่ามหาศาล เป็นแรงกดดันทำให้ทหารต้องเสี่ยงพลีชีพ เสียเลือดเนื้อชีวิตปกป้องมาตุภูมิและแทนคำตอบจากใจของคนไทยทั้งชาติ ตามตัวเลขสะท้อนผ่าน “นิด้าโพล” วัดผลคะแนนจากโจทย์สถานการณ์ไทย–กัมพูชา ประชาชนมากถึงร้อยละ 83.59 ระบุ “ไม่ไว้วางใจรัฐบาลไทย” ในเรื่องของการปกป้องผลประโยชน์ชาติ สวนทางกันเลยกับกองทัพไทยที่ได้รับความไว้วางใจจากคนไทย สูงสุดถึง 95.04 เปอร์เซ็นต์ เกือบเต็มร้อย.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม