ผมพอรู้อะไรทำให้เขมรเล่นเพลงเขมรไทรโยก (ไม่ใช่โยคนะครับ) กับไทย ขณะกำลังงงๆว่า ไทยกำลังเล่นอะไรอยู่กับเขมรจนกระทั่งเจอเรื่องงู นายกเทศมนตรีและพระ ที่พระอาจารย์พรหม พระฝรั่งศิษย์หลวงปู่ชาวัดหนองป่าพง...เขียนไว้ในชวนม่วนชื่น เล่มแรกจบ จึงพอเห็นลู่ทางพระอาจารย์พรหม บวชเป็นพระในไทย ปี 2517 นานกว่าแปดปีใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในวัดป่า อยู่ท่ามกลางงูร้อยชนิด มีคนแกล้งพูด 99 ชนิด มีพิษกัดถึงตาย อีกชนิดไม่มีพิษแต่รัดถึงตายช่วงเวลานั้นเจองูเกือบทุกวัน ครั้งหนึ่งเหยียบงูยาวหกฟุตในกุฏิ “เราต่างกระโดดเหยง ไปคนละทิศละทาง” เคยฉี่รดงูตอนเช้าตรู่วันหนึ่ง คิดว่ามันเป็นกิ่งไม้ “อาตมาขอโทษมัน” และงูก็อาจคิดว่าอาตมารดน้ำมนต์ให้มันครั้งหนึ่งกำลังสวดปาติโมกข์ งูตัวหนึ่งเลื้อยขึ้นหลังพระองค์ที่นั่งตรงหน้า มันเลื้อยจนขึ้นถึงบ่า ท่านจึงได้หันมามอง พระกับงูสบตา “อาตมาหยุดสวด” พระค่อยๆสะบัดผ้าสังฆาฏิ งูจึงลื่นหลุดไป จากนั้นจึงสวดมนต์ต่อเคยเจองูยักษ์สองตัว ตัวแรกงูหลามยาวราว 7 เมตร ใหญ่ขนาดขาอ่อนพระฝรั่ง งูยักษ์ตัวที่สองงูจงอาง งูดำตัวหนาบึ้ก หัวและหางมันอยู่ในพุ่มไม้ เห็นแค่ลำตัวที่เลื้อยผ่านทาง คะเนว่าตัวมันยาวกว่า 10 เมตรขณะเจอ ขนคอท่านลุกชัน ประสาทสัมผัสทั้งห้ากระตุกชาวบ้านที่เคยเจอ เรียกงูตัวนี้ว่าจงอางยักษ์ เรียกอีกชื่อว่างูก้าวเดียว เพราะฉกใคร เดินไปก้าวเดียวก็ตายพระวัดป่าได้รับการฝึกฝนให้รักและเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย โดยเฉพาะงู เราปรารถนาให้มันอยู่ดีมีสุข ด้วยเหตุนี้ในสมัยนั้น จึงไม่มีพระองค์ไหนโดนงูกัดเลยพระไทยศิษย์หลวงปู่ชารูปนั้น ขณะนี้มีชื่อเสียงมาก มีเรื่องเล่าว่า ตอนท่านนำพระปฏิบัติภาวนาในป่า งูจงอางเลื้อยเข้ามาหาท่านชูหัวขึ้นระดับเดียวกับศีรษะท่าน แผ่แม่เบี้ย พ่นน้ำลายฟู่ๆพระ “ยิ้ม” ยกมือขวาตบเบาๆที่หัวมัน “ขอบใจนะที่อุตส่าห์มาเยี่ยม” เรื่องอัศจรรย์ที่ตามมา งูหยุดเสียงฟู่ๆฟ่อๆ หุบแม่เบี้ย ลดหัวลงระดับพื้น แล้วเลื้อยไปหาพระอีกองค์พระองค์นั้นนั่งตัวแข็งเป็นหิน ภาวนาให้มันเลื้อยไปหาพระองค์อื่นจบเรื่องงูของพระวัดป่า...ฉากต่อมา พระผู้ใหญ่ที่ตบหัวงูองค์นั้น มาพักที่วัดพระอาจารย์ ที่เมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย หลายเดือน ตอนนั้นวัดกำลังสร้างศาลาใหญ่ อีกหลายโครงการ กำลังรอใบอนุญาตวันนั้น ท่านเทศมนตรีในชุดสากลโก้ แต่ไม่กลัดกระดุมเสื้อเปิดพุงใหญ่โชว์มาเยี่ยมถึงวัด เจอพระผู้ใหญ่ที่พูดอังกฤษไม่ได้เลยสักคำ ท่านเดินรี่เข้าไป ก่อนพระอาจารย์พรหมจะทันห้าม ท่านตบเบาๆเข้าที่พุงใหญ่นั้น“อาตมาตกใจ กลัวใบอนุญาตสร้างอาคารในวัด จะไม่ได้” แต่ก็เกิดปาฏิหาริย์ ยิ่งพุงโตถูกตบมากเท่าไหร่ รอยยิ้มจากนายกเทศมนตรีผู้มีอำนาจ ก็กลายเป็นหัวเราะร่วนรอยยิ้มและเสียงหัวเราะนั้นบอกว่า ทุกวินาทีที่พุงถูกตบ นายกเทศมนตรีก็รักท่านเพิ่มขึ้น แผนก่อสร้างทุกใบได้รับการอนุญาตนายกเทศมนตรีกลายเป็นทั้งเพื่อนและผู้ช่วยที่ยอดเยี่ยมที่สุด ของพระอาจารย์พรหมสาระสำคัญของความเมตตากรุณา อยู่ที่ภูมิธรรมของผู้กระทำ พระไทยที่ไม่ธรรมดาองค์นั้น ตบหัวงูจงอาง ตบพุงนายกเทศมนตรี ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ และทั้งสอง งู นายกเทศมนตรี ก็ชอบพระอาจารย์พรหมทิ้งท้าย “อาตมาไม่แนะนำให้โยมทำตาม เว้นแต่ภูมิธรรมโยมจะอยู่ในระดับเดียวกัน”ท่ามกลางสุ้มเสียงคนรักชาติที่ยุให้หักเหลี่ยมเขมร อย่าตามหลังเขมรแต่หากเห็นประโยชน์และความสงบสุขของบ้านเมืองระยะยาว ผมยังเชื่อว่ากลยุทธ์สงครามแห่งความเมตตาเท่านั้น ที่จะชนะใจเขมร เขมรที่ถนัดแต่เล่นเพลงโยกไทย เอ้ย! ไทรโยคได้ในที่สุด.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม