“อนุทิน” แจงจำกัดวงดินเนอร์พรรคร่วม เก็งข้อสอบถูกซักฟอกปมเขากระโดง ห่วงคอนโทรลอารมณ์ไม่ได้ ขู่พรรคร่วมไม่โหวตหนุนเดี๋ยวเจอกัน เปรยขออีกสมัยวางมือการเมือง ผู้นำฝ่ายค้านตอกลิ่มรัฐบาลไร้เอกภาพ รอยร้าวยิ่งชัด ยัน “ทวี” อยู่ในบัญชีซักฟอก เนื้อหาเข้มข้น ลั่น ปชน.ไม่สังฆกรรมกับรัฐบาลชุดนี้ กลุ่มพันธุ์ใหม่หนุนสอบฮั้วเลือก สว. เย้ยก๊วนสีน้ำเงินร้อนตัวไปเอง “ทักษิณ” ลงนราธิวาสในรอบ 19 ปี หวังดับไฟในรัฐบาลนี้ โอ่เห็นแสงสว่างสันติสุขที่ปลายอุโมงค์ ขออภัยเหตุผิดพลาดกรณีตากใบ โพลจี้ผู้นำเร่งแก้ปัญหาปากท้อง ชี้ดราม่า พท.-ภท.เดี๋ยวก็จูบปากกันนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร่ายยาวเส้นทางการเมืองในอนาคต ยืนยันพรรคภูมิใจไทยจะอยู่หรือไปจากรัฐบาล คุยกับนายกฯคนเดียวจบ ส่วนศึกซักฟอกถ้าพรรคร่วมไหนไม่โหวตหนุนเดี๋ยวเจอกัน พร้อมเปรยขอเล่นอีกสมัยก่อนวางมือทางการเมือง“หนู” แจงจำกัดวงดินเนอร์พรรคร่วมเมื่อวันที่ 23 ก.พ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเป็นเจ้าภาพจัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล วันที่ 25 ก.พ. กำหนดให้มาร่วมงานพรรคละ 2 คน ว่า ไม่ใช่ งานนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ บอกว่า “อาเป็นเจ้าภาพ เดี๋ยวแขกท่านเชิญเอง” นายกฯเป็นหัวหน้ารัฐบาลมีสิทธิกำหนด ไม่ใช่ตน เลี้ยง 30-40 คนพอไหว แต่จำนวนเท่าไหร่อยู่ที่นายกฯ เพราะท่านรู้สึกว่ามีคนมาร่วมมากคนจะมากความหรือไม่ ในเมื่อเป็นรัฐบาลผสมถ้ามาสักพรรคละ 5 คน ก็ต้องเลี้ยงโต๊ะจีน ต้องนั่งคนละโต๊ะคงไม่เหมาะ คาดว่านายกฯคงคิดแบบนี้ เลยกำหนดเป็นพรรคละ 2 คน เป็นหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค แบบนี้งานจะมีแค่ 15 คน แต่นายกฯบอกว่าขอเอา นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช เลขาธิการนายกฯ มาด้วยเก็งข้อสอบถูกซักฟอกเขากระโดงผู้สื่อข่าวถามว่า เจอตรวจสอบที่ดินของครอบครัวที่เขาใหญ่ถึงขั้นใช้คำสบถแรงมาก นายอนุทินตอบว่า อย่าไปเล่นอะไรกับครอบครัวที่เขาไม่รู้เรื่อง ถ้ามีอะไรให้มาเล่นตน ถ้าทำบ้างล่ะ แต่ไม่เคยคิดทำร้ายคนอื่น ทำอะไรต้องดูเขามีมือมีเท้า มีมีด ปืน ระเบิดหรือเปล่า ทั้งหมดที่ถูกกล่าวหาทั้งกรณีที่ดิน ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สุดท้ายทำอะไรเราไม่ได้ แม้เขามีฝีมือเต็มร้อย แต่ที่สำคัญเราไม่เคยทำผิดถึงไม่กลัวอะไร เมื่อถามว่าหวั่นเรื่องถูกซักฟอกหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ถ้าเก็งข้อสอบ เที่ยวนี้คงถูกอภิปรายประเด็นเขากระโดง ก็ชี้แจงตามหลักฐานที่มีตอนนี้รอคำสั่งศาลปกครองว่าจะให้ทำอย่างไรต่อ กรณีที่ดินอัลไพน์ไม่มีปัญหา ปฏิบัติตามกติกาเคร่งครัด แต่ที่หวั่นไหวคือ กลัวตอบไม่ดี กลัวคอนโทรลอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ไม่ห่วงเรื่องข้อมูล ห่วงเรื่องการสื่อสารขู่พรรคร่วมไม่โหวตหนุนเจอกันเมื่อถามว่ามองว่ารัฐบาลอยู่ครบเทอมหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ต่างคนต่างมีความหนักแน่นดีพอ ก็ควรอยู่ครบเทอม ไม่ค่อยกังวล ยิ่งอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลยิ่งไม่ต้องกังวล “ได้ข่าวว่านายกฯถูกอภิปรายด้วย ถ้านายกฯไม่โดนมันก็ตลก เพราะรัฐมนตรีทุกคนทำตามคำสั่ง พรรคภูมิใจไทยยังไงก็ต้องสนับสนุนนายกฯเป็นคนแรก ไม่ต้องบอกว่าเดี๋ยวคนนี้ พรรคนี้ พรรคนั้นจะไม่ยกมือให้ผม ก็ไม่เป็นอะไร พรรคภูมิใจไทยมี 70 เสียง พรรคอื่นน้อยกว่า ผมเป็นรองนายกฯถูกโหวตก่อน ถ้าใครไม่ยกให้ผมก็จุดๆๆ มันก็แค่นี้”จะอยู่จะไปคุยนายกฯคนเดียวจบผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทยมีมุมมองหลายเรื่องไม่ตรงกัน เช่น แก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอนุทินตอบว่า เป็นเรื่องปกติ ถ้าเห็นตรงกันทุกอย่างป่านนี้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว ไม่ต้องไปอยู่พรรคภูมิใจไทยให้ปวดหัว รัฐบาลพรรคร่วมในสภาฯมันต้องเห็นต่างมองให้เป็นประโยชน์ “ที่มี สส.บางคนบอกเห็นต่างก็ต้องถอนตัวออกไป เอาอย่างนั้นเลยเหรอ แน่ใจเหรอ จะทำกันจริงเหรอ แล้วคุณเป็นใครมาพูด รัฐบาลนี้โชคดีมีนายกฯเป็นหัวหน้าพรรคด้วย ไม่ต้องไปหาคนอื่นแล้ว คุยกับหัวหน้าพรรค คุยกับนายกฯต้องจบ ไม่จบไม่ได้ จะจบอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง จบแบบไปกันต่อหรือจบแบบพอแค่นี้ มันก็ต้องจบที่สองคนนี้ แต่วันนี้ผมก็ดูผมอยู่กับนายกฯยังไม่เห็นมีประเด็นนี้ ทำงานด้วยความสุข หารือปรึกษากันตลอด”เปรยอีกสมัยวางมือทางการเมืองเมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยเตรียมพร้อมเลือกตั้งใหญ่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า เตรียมมาตั้งแต่เข้ามาวันแรกแล้ว เป็นพรรคการเมืองโดยเฉพาะคนที่มีพื้นฐานแบบตน คิดเสมอว่าพุร่งนี้เลือกตั้ง ไปถามลูกพรรคดูว่าได้พูดกับเขาอย่างไร เมื่อถามว่าเลือกตั้งสมัยหน้ามองถึงขั้นเป็นพรรคชิงเบอร์หนึ่งเลย นายอนุทินตอบว่า ได้แค่นี้ก็บุญแล้ว แต่ทำให้ดีที่สุด ถามว่าอยากเป็นเบอร์ 1 มี สส.มากที่สุดหรือไม่ อยากสิ แต่คนที่ทำให้ไปถึงตรงนั้นคือประชาชน ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยดีขึ้นตลอด ใครจะพูดอะไรก็แล้วแต่มันยังไม่กระดกลง มีแต่กระดกขึ้น สำหรับตนอีกเที่ยวก็จบแล้ว ถึงได้เตรียมอนาคตพรรคภูมิใจไทย กรรมการบริหารพรรคเป็นคนรุ่นใหม่หมด บ้านใหญ่ที่มีความรู้ ความสามารถ เก่ง ถ้าเอาผ้าคลุมป้ายพรรคภูมิใจไทยนึกว่าเดินเข้าพรรคประชาชน คนพวกนี้ไม่ได้ทำการเมืองโดยอาศัยความเก๋าอย่างเดียว เขาทำการเมืองโดยใช้ข้อมูล เทคโนโลยี ดังนั้น ใครบอกว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคเฉพาะกิจ กาลเวลาพิสูจน์แล้ว 17 ปี โตขึ้นทุกปี ผู้ใหญ่ในพรรคถึงอยากให้เป็นสถาบันการเมืองที่แท้จริง ก็ใกล้ถึงเวลานั้นเข้าไปทุกที วัตรปฏิบัติที่เห็นเขาทำทำให้มั่นใจว่ารับภาระพรรคนี้ต่อไปได้ฝ่ายค้านตอกลิ่มรัฐบาลไร้เอกภาพที่ร้าน wind & wild cafe สะพานใหม่ กทม. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมของรัฐบาลว่า เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลไม่มีความเป็นเอกภาพ ล่าสุดกรณีสภาล่มในวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 2560 ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจยังมีอีกหลายประเด็นที่เราได้ข้อมูลมา บางส่วนได้รับมาจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง สิ่งเหล่านี้ชี้ชัดว่าเมื่อรัฐบาลขาดความเป็นเอกภาพ ทำให้การดำเนินนโยบายหลายเรื่องที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ไม่สามารถเดินหน้าเพื่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะอยู่รอด 4 ปีหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า การจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ผิดพลาดมาตั้งแต่ต้นเป็นการผสมพันธุ์ข้ามขั้ว เลยไม่เชื่อว่าจะช่วยผลักดันนโยบายสำคัญให้กับประชาชนได้ ครึ่งเทอมที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นชัดที่สุดและเชื่อว่าตอนนี้รอยร้าวยิ่งแสดงให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ“ทวี” อยู่ในบัญชีซักฟอกเข้มข้นแน่ผู้สื่อข่าวถามว่า ความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม สว.สายสีน้ำเงินกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะมีข้อมูลลับหลุดมาถึงฝ่ายค้านให้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ในส่วนของดีเอสไอที่จะดำเนินคดีการฮั้วเลือก สว. เป็นไปตามกระบวนการสามารถดำเนินการได้ จะเห็นว่า สว.มีการโต้ตอบขู่กลับว่าจะร่วมลงชื่อถอดถอน รมว.ยุติธรรม ถือเป็นการตอบโต้ทางการเมือง คิดว่าประชาชนไม่อยากเห็น แต่อยากเห็นการเมืองที่ตรงไปตรงมา ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม อยู่ในกรอบญัตติแน่นอน จะมีเรื่องความไม่โปร่งใส การไม่ลงรอยกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และปัญหาอื่นๆยังไม่ขอลงในรายละเอียด ให้รอติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกือบจะ 100% แล้ว เนื้อหาเข้มข้นลั่นคำ ปชน.ไม่เข้าร่วมรัฐบาลชุดนี้เมื่อถามย้ำว่า ความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลจะมีการซื้อ สส.งูเห่าพรรคประชาชนไปโหวตหนุนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ไม่คิดว่าพรรคประชาชนเป็น 1 ในกระบวนการอย่างนั้น อาจมีได้ แต่เชื่อมั่นว่าไม่มี สส.พรรคประชาชนคนไหนไปโหวตสวนหรือถูกซื้อตัวไปโหวตให้ฝั่งรัฐบาลแน่นอน สิ่งที่ประชาชนคาดหวังจากฝ่ายค้านคือการตรวจสอบรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ตรวจสอบเพื่อใช้เป็นผลประโยชน์ หรือข้อต่อรองทางการเมือง เมื่อถามย้ำว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่สูตรรัฐบาลใหม่จะมีพรรคประชาชนจะเข้าร่วมแทนภูมิใจไทย นายณัฐพงษ์ตอบทันทีว่า คงเป็นไปไม่ได้ เราประกาศชัดในหลักการในสมัยสภาชุดนี้ พรรคประชาชนจะไม่ไปร่วมเป็นฝ่ายบริหารแน่ ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้เราเสียเวลาประเทศไปมากแล้ว และไม่เชื่อว่าด้วยระยะเวลาที่เหลืออยู่เราจะสามารถผลักดันอะไรได้ ดังนั้น พรรคประชาชนไม่มีวันไปร่วมรัฐบาลนี้แน่นอนกลุ่มพันธุ์ใหม่หนุนสอบฮั้วเลือก สว.วันเดียวกัน น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ กล่าวถึงคดีฮั้วเลือก สว.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำลังพิจารณาจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ว่า ที่ดีเอสไอแสดงท่าทีเข้ามารับทำคดีนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนที่มีข้อสงสัยถึงการได้มาซึ่ง สว.ชุดนี้ หากเข้ามาทำให้คลายข้อสงสัยได้ก็เห็นด้วย เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากปัญหาบานปลายอาจกระทบ สว.ชุดนี้ทั้งหมด น.ส.นันทนาตอบว่า กระบวนการได้มาซึ่ง สว.มันวิปริตบิดเบี้ยว เป็นกระบวนการที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วม หากกระบวนการไปถึงขั้นตอนที่พบว่ามีความผิดปกติ ต้องมีการล้มกระดาน แต่ก่อนที่จะล้มกระดานควรแก้รัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง สว. เพื่อเปลี่ยนกติกาก่อน หากมีการล้มกระดานแต่ยังใช้กติกาเดิม ก็จะเหมือนเดิมไม่เกิดประโยชน์เย้ย สว.เสียงข้างมากร้อนตัวไปเองน.ส.นันทนากล่าวต่อว่า ส่วนที่ สว.กลุ่มหนึ่งขู่ยื่นญัตติเปิดอภิปราย รมว.ยุติธรรม หากเชื่อว่าตัวเองมาถูกต้อง ก็ควรให้กระบวนการยุติธรรมตรวจสอบ ไม่ควรใช้วิธีฟ้องปิดปาก เพราะประชาชนจะเสียโอกาสรับรู้ ไม่ควรทำ คนทำหน้าที่ด้านนิติบัญญัติควรตรวจสอบได้ เมื่อถามว่ามีมาขอร้อง สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ให้ร่วมลงชื่อเปิดอภิปรายด้วยหรือไม่ น.ส.นันทนาตอบว่า เราเป็น สว.เสียงข้างน้อยไม่เคยถูกเห็นหัว ไม่เคยได้มีส่วนร่วมคัดสรรบุคคลในองค์กรอิสระ คงไม่ไปสนับสนุน เป็นเรื่องที่เขาเดือดร้อน หรือใช้คำว่าร้อนตัวก็ได้ เพราะดีเอสไอยังไม่ได้เปิดชื่อมา“ทักษิณ” ลงนราธิวาสในรอบ 19 ปีเมื่อเวลา 09.50 น.ที่ จ.นราธิวาส นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาประธานอาเซียน พร้อมนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เดินทางถึงท่าอากาศยานนราธิวาส มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผวจ.นราธิวาส รอต้อนรับ มีประชาชนที่มารอรับกล่าวทักทายนายทักษิณว่า “ยังดูหนุ่มเหมือนเดิม” ขณะที่นายทักษิณกล่าวตอบว่า “คนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นที่กลับมาในรอบ 19 ปี” จากนั้นนายทักษิณเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ตำรวจไปยังสนามกีฬา อบต.สุไหงปาดีหวังยุติปัญหาให้ได้ในรัฐบาลชุดนี้ต่อมาเวลา 10.34 น. นายทักษิณและคณะ เดินทางโดยรถยนต์ถึงวัดประชุมชลธารา ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี เป็นจุดแรก เข้ากราบพระธรรมวัชรจริยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา และที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และพบปะผู้นำท้องที่ ผู้นำเครือข่ายชาวไทยพุทธ หารือถึงการแก้ปัญหาและพัฒนาในพื้นที่ นายทักษิณกล่าวว่า ลงพื้นที่ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียนที่ให้ความสำคัญกับสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงตั้งใจมาดูสถานการณ์ในปัจจุบันและอยากมาดูมารับฟังด้วยตัวเอง รวมถึงมาสานงานที่ทำไว้ เมื่อครั้งเป็นนายกฯ เพราะการแก้ไขปัญหาใช้เวลานานมากยังไม่ยุติเสียที ควรยุติได้ในสมัยรัฐบาลนี้ ที่มีลูกสาวเป็นนายกฯ อยากเห็นการทำงานร่วมกันตอนสมัยเป็นนายกฯน้อมนำ แนวทางพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา คิดว่ายังเป็นหลักการที่สำคัญแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดีที่สุดคือการพูดคุย หันหน้ามาพูดคุยกันเริ่มต้นชีวิตใหม่ ก่อนจะร่วมชมการแสดงรำหมอลำจากกลุ่มสตรีเห็นแสงสว่างสันติสุขปลายอุโมงค์จากนั้นนายทักษิณเดินทางต่อมายังโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง พบปะพูดคุยกับผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ถึงแนวทางการพัฒนาการศึกษา มีนางแวตีเยาะ อาแว ผู้บริหารสถานศึกษา และนักเรียนต้อนรับ โดยนายทักษิณและคณะ ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่ ต่อมานายทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งใจอยากเห็นสันติสุขเกิดขึ้น ได้รับความร่วมมือดีจากผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน ทุกคนอยากเห็นประเทศไทยและอาเซียนสงบสุข เชื่อมั่นว่าเราน่าจะแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ดี 20 กว่าปีที่ผ่านมา มั่นใจว่าจะหาข้อยุติได้ รู้สึกดีใจเหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และปีหน้า (2569) น่าจะจบ เดินทางมาครั้งนี้มาใน 3 บทบาท ทั้งเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน อดีตนายกฯ และผู้สนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มีลูกสาวเป็นนายกฯ มีความรู้สึกว่ายังทำงานไม่จบ อยากจะเห็นสันติสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยากให้จบขออภัยผิดพลาดเหตุการณ์ตากใบนายทักษิณยังกล่าวถึงเหตุลอบวางระเบิดในรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ภายในสนามบินบ้านทอน อ.เมืองนราธิวาสว่า เป็นการเเสดงเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น อยากทำให้ตกใจ เเต่เป็นคนใจแข็งถูกลอบฆ่ามา 4 ครั้ง ยังเฉยๆไม่เป็นไร แค่นี้ไม่กลัว ใครจะต้อนรับวิธีไหนรับได้หมด เมื่อถามว่าชาวบ้านในพื้นที่อาจยังมีความรู้สึกคาใจกรณีเหตุการณ์ตากใบ นายทักษิณตอบว่า เรื่องตากใบตอนเป็นนายกฯมีความตั้งใจห่วงใยพี่น้อง 100% แต่การทำงานมีความผิดพลาดได้บ้าง “ถ้าผมมีอะไรผิดพลาดไม่เป็นที่พอใจ ก็ขออภัยด้วย เพื่อเราจะได้หันกลับมาช่วยกันแก้ปัญหาด้วยกัน พี่น้องมุสลิมมีสิ่งที่สำคัญมาก ถูกสอนมาว่า ความเข้าใจ เกรงใจ รักสันติสุข การให้อภัย เพราะฉะนั้นเมื่อเราขออภัยในสิ่งที่ผมอาจจะทำสิ่งที่ไม่ถูกใจหรือผิดพลาดบ้าง ผมต้องขออภัยด้วย”แวะกินมื้อเย็นบ้าน “วันนอร์” ก่อนกลับกระทั่งเวลา 16.30 น. นายทักษิณเดินทางถึงโรงเรียนสายบุรีอิสลามศึกษา อ.สายบุรี จ.ปัตตานี พบผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ได้ร่วมเซลฟี่กับเด็กนักเรียน นายทักษิณกล่าวว่า สมัยเป็นนายกฯอาจทำงานด้วยความตั้งใจ แต่บางทีด้วยความไม่เข้าใจอาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ แก้ปัญหาด้วยความใจร้อนบ้าง ฉะนั้นสิ่งที่ทำไปในอดีตอะไรที่ทำให้โกรธเคือง วันนี้ขออภัย ทราบดีว่าพี่น้องชาวมุสลิมสอนให้รู้จักสันติสุข และการให้อภัยกัน ถือโอกาสมาขออภัยกับพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อจะได้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งช่วยพัฒนาให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ น่าลงทุน และน่าท่องเที่ยว เชื่อว่า 3 จังหวัดชายแดนใต้จะกลับไปสู่สันติสุขเหมือนเดิม มีความมั่งคั่งยิ่งใหญ่กว่าเดิม จากนั้นนายทักษิณเดินทางไป จ.ยะลา เยี่ยมชมกิจกรรมอุทยานการเรียนรู้ยะลา หรือ TK Park Yala และไปบ้านศรียะลา ของนายวันมูหะมัดนอร์ ประชุมหารือและร่วมรับประทานอาหาร ก่อนเดินทางกลับ กทม.“อิ๊งค์” บินร่วมงาน ITB Berlin 2025ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางเยือนกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 3-8 มี.ค.โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องร่วมคณะ ทั้งนี้ สำหรับภารกิจเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นายกฯจะเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2025 ที่จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 4-6 มี.ค. ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์ สาธารณรัฐเยอรมนี และพบปะนักธุรกิจชั้นนำอุตสาหกรรมด้านแฟชั่นของเยอรมัน อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักร ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้นร้อง ป.ป.ช.นายกฯซุกรองเท้าหรู 4 คู่ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือถึง ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ว่าการแจ้งรายการทรัพย์สินในส่วนของรองเท้าถูกต้องครบถ้วนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือไม่ เนื่องจากพบว่าไม่มีการแจ้งรายการรองเท้าไว้ ทั้งที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีรองเท้าหลายคู่ ตามข่าวมีภาพรองเท้าที่มีราคาสูง 4 คู่ ควรนำไปแจ้งรวมในบัญชีทรัพย์สินด้วย หากไม่แจ้ง ป.ป.ช.ควรร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อวินิจฉัยว่า น.ส.แพทองธารควรถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดไปหรือไม่โพลจี้ผู้นำเร่งแก้ปัญหาปากท้องขณะที่สวนดุสิตโพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,141 คน เรื่อง “คนไทยกับภาวะเศรษฐกิจ ณ วันนี้” วันที่ 18-21 ก.พ. พบว่า ร้อยละ 51.01 มองว่าส่งผลกระทบทำให้ใช้จ่ายเดือนชนเดือน ต้องระมัดระวังการใช้จ่าย โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากที่สุด ร้อยละ 82.94 คือ ค่าครองชีพสูง คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย กำลังซื้อในประเทศไม่ขยายตัว มีร้อยละ 69.50 ที่เห็นว่ามาตรการรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจยังไม่มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 76.58 ระบุว่า นายกฯและรัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน เมื่อถามว่าหากอดีตนายกฯนายทักษิณ ชินวัตร จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ร้อยละ 41.63 มองว่าสถานการณ์น่าจะเหมือนเดิม รวมถึงการคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2568 นี้ ส่วนใหญ่มองว่าน่าจะเหมือนเดิมเช่นกันดราม่า พท.-ภท.เดี๋ยวก็จูบปากกันด้านนิด้าโพล เปิดผลสำรวจของประชาชน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ รวม 1,310 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “เพื่อไทย VS ภูมิใจไทย” วันที่ 17-18 ก.พ. พบว่าร้อยละ 38.85 เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยมีความขัดแย้งกันจริงในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แต่ไม่ค่อยจริงจังเท่าไร ร้อยละ 32.91 มองว่า มีความขัดแย้งกันจริงจังพอสมควร และส่วนใหญ่ร้อยละ 38.09 เชื่อว่าทั้งสองพรรคจะตกลงกันได้ ยุติความขัดแย้ง ร้อยละ 37.40 ระบุว่า ความขัดแย้งจะมีต่อไปเรื่อยๆ แต่ยังอยู่ร่วมรัฐบาลกันเหมือนเดิม ร้อยละ 10.31 เชื่อจะมีการปรับ ครม. ดึงกระทรวงสำคัญออกจากพรรคภูมิใจไทย มีแค่ร้อยละ 7.10 ที่ชี้ว่านายกฯีจะประกาศยุบสภาอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่