ผมกับนายกฯไม่เคยมีปัญหา พูดแค่นี้พอ!!”นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย (มท.) หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) คลายข้อข้องใจที่หลายฝ่ายจับตาพรรคภูมิใจไทย หลังมีหลายประเด็นที่สะดุดเดินคู่ขนานระหว่างพรรค ภท. กับ พรรคเพื่อไทย (พท.)แม้ระดับคีย์แมน 2 พรรคนี้ได้พูดคุยกันเป็นประจำ จนมักได้ยินจากปากของรองนายกฯ และ รมว.มท. เป็นประจำว่า “ถ้าท่านนายกฯสั่ง ผมมีหน้าที่ทำให้สำเร็จเท่านั้น” บางทีอาจถามว่าเรื่องนี้ทำแบบนี้ดีหรือไม่ หรือผมคิดว่าอย่างนี้ครับ แต่ถ้าท่านบอกว่าขอให้เป็นอย่างนี้ ผมก็ต้องทำตาม“ผมเป็นลูกน้องท่านในความเป็นนายกฯ นายกฯเป็นผู้บังคับบัญชาคนเดียว ท่านสั่งเฉพาะด้านการบริหาร ต้องทำ ถ้าไม่ทำคุณขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ในสภาท่านก็ไม่เคยสั่งขอให้เป็นอย่างนี้”เห็นได้จากล่าสุดประเด็นดราม่าชาวอิสราเอลปักป้ายที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ไม่ให้คนไทยเข้า นายอนุทิน เด้งรับลูกสั่งการ ผวจ.แม่ฮ่องสอน นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทุกคนเอกซเรย์พื้นที่ทันทีไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นที่ อ.ปาย หรือที่อื่นๆก็ตาม และเตรียมลงพื้นที่ไปตรวจสอบให้เห็นด้วยตาตัวเองเช่นเดียวกับร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน เพิ่มโทษการพนันผิดกฎหมาย เสนอเข้า ครม.สัปดาห์นี้รองรับการพนันออนไลน์ถูกกฎหมายตามนโยบายรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตรที่ มท. และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกันทำ ดีอีดูเรื่องแพลตฟอร์ม เทคโนโลยี มท.ดูตาม พ.ร.บ.การพนันเกี่ยวกับการอนุญาตการพนันออนไลน์ผูกโยงกับกาสิโนในเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ อย่างไร และเจ้ามือรัฐเป็นเองหรือเปิดให้เอกชนเข้ามา นายอนุทิน บอกว่า กฎหมายคนละฉบับ เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ มีกาสิโนแค่ 10%ตรงนี้รัฐต้องเป็นเรกูเลเตอร์ ส่วนเป็นเจ้ามือเองหรือไม่ อาจเป็นผู้กำกับควบคุมในส่วนของการพนัน ส่วนเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เป็นอีกกิจการหนึ่ง ตรงนี้ไม่พ้น มท. ไม่ว่าใครเขียนอะไรขึ้นมายิ่งเขียนให้พ้น มท. เดี๋ยวยิ่งไม่ได้สร้างเพราะเกี่ยวข้องกับ มท.ทั้งใบอนุญาตผังเมือง ควบคุมอาคารส่งกระแสไฟ แต่เห็นว่าจะมีสำนักงานทำครบวงจร สุดท้ายมันก็ต้องมี มท.อย่าทำให้เหมือนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีกฎหมายให้เป็นเอกเทศ สุดท้ายต้องมาที่ มท.อยู่ดี จะปล่อยให้เป็นรัฐซ้อนรัฐไม่ได้พรรค ภท. กับพรรคแกนนำรัฐบาลมองเรื่องนี้ไม่ตรงกัน นายอนุทิน บอกว่า วันนี้ไปมองว่า มท. กับ พรรคแกนนำเป็นคนละพรรคกันบางทีเขาก็คงคิดแต่คิดอย่างนี้ “ผมน่าจะดีใจ แสดงว่าผมจะอยู่ที่นี่ได้นานหรือเปล่า” เลยพยายามจะต้องไปอยู่ตรงโน้นตรงนี้“วันหนึ่งเขาต้องมาอยู่ตรงนี้ ต้องมองว่านี้คือกลไกรัฐ สมมติกฎหมายนี้ผ่านแปลว่าต้องผ่าน ครม. ก่อน ผมก็นั่งอยู่ใน ครม. ถ้าไม่ผ่านก็ต้องไม่ผ่าน ครม.ถ้ามันผ่านไม่ว่าใครมาอยู่ มท.ต้องเซ็นหมด ไม่เซ็นเดี๋ยวเจอละเว้น แต่มีความพยายามขอให้นายกฯเป็นผู้รับผิดชอบในกฎหมายท่านเดียว จริงๆมันต้องนายกฯ และ รมว.มหาดไทยเพราะคนอนุญาตทั้งหมดอยู่ที่ มท. เลี่ยงอย่างไรก็ไม่พ้น อย่างน้อยรับผิดชอบเรื่องใบอนุญาต ไปมอบให้นายกฯรับผิดชอบคนเดียวแฟร์กับท่านไหมถ้าทำแล้วต้องเชื่อใจ เรื่องนี้ถือเป็นนโยบายรัฐบาลท่านนายกฯ แม้ รมว.มท.มาจากคนละพรรค ผมก็ต้องเอาด้วยถ้าไม่เอาก็ต้องไม่เห็นชอบตั้งแต่แรก”ทุกอย่างต้องจบในรัฐบาลนี้ บนกติกาต้อง “รักษาการร่วม” ควรพูดคุยด้วยเหตุด้วยผล ทำทุกอย่างให้เรียบร้อยตั้งแต่แรกมันไปได้อยู่แล้วอย่ามาเสียเวลากับเรื่องพวกนี้ แม้ถึงเวลาแปรญัตติใน ครม. ในสภา ถ้าเกิดโหวตแพ้ พรรคภท.ไม่เห็นด้วย คราวนี้ยาวผ่านสภาไปเข้าวุฒิสภา เกิดวุฒิสภาเห็นพ้องตรงกัน ต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วมสองสภาอีก เกิดไม่เห็นชอบอีก ต้องรออีก 180 วัน มันเลยรัฐบาลนี้ไปแล้วหลายประเด็น พรรค ภท.ไปทาง พรรค พท.ไปทาง ควรพูดคุยกันอย่างไรให้ไปในทิศทางเดียวกัน นายอนุทิน บอกว่า ต้องคุยกันมากกว่านี้ที่ผ่านมาก็เรียนนายกฯแล้ว บางทีไม่ได้คุยกันไปคิดว่าถ้าอยู่พรรคร่วมรัฐบาล ถ้าพรรคการเมืองเสนอก็ต้องเห็นด้วย มันไม่ใช่ แต่ถ้าฝ่ายบริหารเรื่องผ่าน ครม. มันผ่านตลอดไม่เคยไปแย้งปรากฏการณ์การเมืองดูเหมือนรองนายกฯ และ รมว.มท.โดนเจาะยาง นายอนุทิน บอกว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมืองแสดงว่ามีคนไม่แฮปปี้ จากที่นายกฯกับผมสามารถทำงานด้วยกันได้ดี มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเป็นรองนายกฯ ถ้าจะเคารพต่ออำนาจหรือสั่งการใดๆ ผมเคารพนายกฯท่านเดียว ใครมาเจาะยางคิดร้ายหรือทำอะไรก็แล้วแต่ ผมนำพาไม่ได้ นายกฯคือคนบอกให้ถอย ให้หยุด ให้ทำในส่วนของบริหารแต่ทำไมถูกปล่อยข่าวโยกนายอนุทินพ้น รมว.มหาดไทย นายอนุทิน บอกว่า เคยได้ยินนายกฯพูดไหม ประเด็นคือนายกฯยังไม่พูดกับผม ได้แต่สั่งงานระยะยาวให้ทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็ทำงานเสิร์ฟท่าน พร้อมมีข้อเสนอในเรื่องต่างๆ นายกฯก็สนองตอบอย่างดี ทั้งแก้ปัญหาฝุ่นมรณะ การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยขอย้ำในรัฐบาลผมมีผู้บังคับบัญชาคนเดียวผมไม่เคยมีปัญหากับนายกฯแพทองธารมีร้อยร้าวหรือจุดแตกหักหรือไม่ นายอนุทิน บอกว่า ธรรมชาติของคนที่มั่นใจ เชื่อมั่น มีความมั่นคง เขาจะนิ่ง ผมอยู่ มท.มีความมั่นคงดี ไม่เคยไปวุ่นวายตรงโน้นตรงนี้ หาเรื่องคนนั้นคนนี้ ไปเตะเจาะยางสั่งลูกน้องทำนั้นทำนี่วันนี้มั่นใจเป็นพรรคร่วมรัฐบาลลำดับ 2 พร้อมสนับสนุนนายกฯ ให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างราบรื่นที่สุด โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีการแหกคอกเหมือนพรรคอื่นทำงานร่วมกับภูมิใจไทยเอาใจให้เกินร้อยส่วนใครคิดทำอย่างอื่น ขอให้ดูว่าคนที่ทำร้ายผมอยู่ใน ครม.ได้หรือไม่ ทำไมไม่คิดอย่างนี้บ้างหรือเป็นพรรคที่ใหญ่กว่าผมหรือเปล่าการสื่อสารระหว่างรองนายกฯ และ รมว.มท.กับนายกฯเป็นอย่างไร นายอนุทิน บอกว่า เหลือพอ เพราะไม่มีคนกลาง แต่ผมกับท่านไม่ใช่เพื่อนกัน ผมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาคุยแต่เรื่องงานอาจมีความห่วงใยบ้าง นอนพอเปล่า ดูวันนี้เหนื่อย มันแค่นั้น แต่ไม่ใช่แบบท่านกินข้าวหรือยังวันนี้ อยากกินอะไรไหม ไม่มี เพราะเป็นความสัมพันธ์ของ “บอสกับลูกน้อง”ขณะนี้การสื่อสารระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเป็นอย่างไร นายอนุทิน บอกว่า ตรงนี้ต้องเป็นเรื่องของพรรคแกนนำ หากพรรคร่วมรัฐบาลไปแอบคุยกันเองก็ซวยอีก หาว่าคิดต่อรองอยู่นิ่งๆดีที่สุดรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลเป็นอย่างไร นายอนุทิน บอกว่า เป็นธรรมดาแต่อย่าให้กระทบงาน มท.ดีอย่างหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นกระทรวงอื่นต้องมาขอความร่วมมือผมจึงไม่มีปัญหา ให้ความร่วมมือหมดที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านเมืองเป็นไปตามอำนาจของ มท. อย่างเข้าจังหวัดนี้ กรมไหนก็ต้องผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ถึงทำงานอย่างเข้าใจและเป็นฝ่ายให้มากกว่า “มือผู้ให้สูงกว่ามือผู้รับตลอด” ถึงไม่คิดเล็กคิดน้อย ไม่ค่อยแคร์อะไรเป้าประสงค์เจาะยางรองนายกฯ และ รมว.มท.คืออะไร นายอนุทิน บอกว่า อาจติดเบรก ไม่ชอบที่เราใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้กุมอำนาจสูงสุดในรัฐบาลหรืออาจมีความประสงค์ในหน่วยงานที่เรากำกับดูแลอยู่ ซึ่งมันคิดได้หมด เวลาไม่ได้คุยกันมันก็ต่างคนต่างคิด เราทำให้ดีที่สุด“สุดท้ายต่อให้อยากอยู่แค่ไหนนายกฯไม่ให้อยู่ ก็อยู่ไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นควรคุยกับใครล่ะ จบ ไม่มีรัฐมนตรีคนไหน หัวหน้าพรรคคนไหน ผู้นำจิตวิญญาณคนไหน จะเสนอให้รัฐมนตรีพ้นตำแหน่งได้ มีนายกฯคนเดียว ในโหมดของผมต้องคุยกับนายกฯ คนเดียว”ถ้านายกฯบอกให้ไปมันก็ต้องไปมีแค่นั้น.ทีมการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม