หลังจากรัฐบาลเปิดยุทธการตีรังแตนศูนย์กลางของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเขตแดนเมียนมา เบื้องต้นถือว่าได้ผลตรงเป้าตรงประเด็นเพราะทำให้เกิดการแตกกระเจิงของแก๊งอาชญากรรมเศรษฐกิจด้วยการหนีจากจุดนี้ข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งคือปอยเปต กัมพูชาเพราะไม่โดนตัดไฟ น้ำมันและอินเตอร์เน็ต ทำให้สามารถติดต่อสัมพันธ์กับบรรดาเหยื่อ เมื่อเป็นเช่นนี้ธุรกิจต้มตุ๋นหลอกลวงก็ทำต่อไปไม่ได้แรงกดดันต่างๆที่ตามมาก็คือปฏิกิริยาจากชาวเมียนมา ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นที่แสดงออกไม่พอใจรัฐบาลไทยประกาศไม่ซื้อสินค้านั่นก็เป็นผลจากการที่ได้รับความเดือดร้อนความจริงแล้วปัญหานี้มันอยู่ที่พวกเขาเองนั่นแหละที่ต้องต่อต้านแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มที่เข้าไปอาศัยพื้นที่ตรงนั้นเพื่อสร้างความเดือดร้อนแก่คนไทยและประเทศอื่นๆในทางที่ถูกต้องก็คือการจับไล่พวกนี้ออกจากพื้นที่มากกว่าไม่ใช่มาประท้วงประเทศไทย!โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อยซึ่งรับผิดชอบพื้นที่เหล่านี้จะต้องรับผิดชอบ แต่เนื่องจากคงได้ผลประโยชน์มากจึงไม่กล้าไปแตะต้องเท่ากับส่งเสริมสนับสนุนก็ต้องดูกันต่อไปว่าจากมาตรการแรก รัฐบาลไทยจะมีมาตรการอื่นตามมาหรือไม่ เพราะนี่เป็นเพียงขั้นต้นเท่านั้นมีนักวิชาการแนะนำว่ารัฐบาลควรจะตั้งทีมเฉพาะกิจประกอบไปด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเกาะติดสถานการณ์และความเป็นไปเพื่อจะได้ประเมินผลและเพิ่มมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาสำเร็จลุล่วงคือให้จบจริงๆ...นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศจีน พร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจความสำเร็จ โดยเฉพาะคำชมจาก “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดี ว่าไทยกล้าตัดสินใจแก้ปัญหาก็ดีที่ทำให้เห็นว่าเดินถูกทางแล้ว แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะเรื่องยังอีกยาว โดยนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าจะเดินทางไปกัมพูชาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ต่อไปในเร็วๆนี้ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่แก้เร็วเรื่องก็จบเร็ว ที่สำคัญถ้าไม่ทำอย่างต่อเนื่องก็เท่ากับเป็นการต่อชีวิตให้กับพวกนี้ปอยเปตนั้นถือเป็นแหล่งใหญ่จุดเริ่มต้นแก๊งนี้เพราะพื้นที่อำนวยทุกอย่าง ไม่ต่างกับอีกฝั่งหนึ่งที่เข้าออกได้ง่ายและรัฐบาลก็ไม่ค่อยเอาจริงเอาจังกับพวกกระทำผิดกฎหมายเพราะทุกอย่างได้ผลประโยชน์ร่วมกันกัมพูชานั้นผู้มีอำนาจแท้จริงก็สนิทสนมกับ “พ่อ” ของนายกรัฐมนตรีไทย หากไปขอร้องให้ช่วยเหลือจะทำให้หรือไม่?ก็ต้องวัดใจกันแหละครานี้!เห็น “ทักษิณ” บอกว่ารู้ตัวว่าใครเป็นเจ้าของตึก 25 ชั้น ซึ่งเป็นที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปอยเปต และบอกด้วยว่าจะถอนสัญชาติเท่ากับว่ามีข้อมูลปรุโปร่งว่าใครเป็นใครก็เร่งทำให้จริงเถิดเพราะฝั่งประเทศลาวก็ทำให้เห็นแล้วในการสนับสนุน ประเทศไทยด้วยการไม่เพิ่มไฟฟ้าจากคำร้องขอจากฝั่งท่าขี้เหล็กความจริงปัญหานี้เป็นเรื่องร้อนของไทย ดังนั้นถ้ารีบตีเหล็กกำลังร้อนก็เป็นการดี ยิ่งใกล้วันที่ฝ่ายค้านกำลังจะเปิดซักฟอกหากไม่ทำให้จบก่อนคงถูกยำเละแน่เพราะฝ่ายค้านน่าจะมีข้อมูลแบบเจาะลึกที่นายกรัฐมนตรีอาจถูกถล่มเละได้!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม