ขอบคุณและชื่นชม “ไอเดีย” ของ คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีสาธารณสุข ที่เสนอให้ “เพิ่มค่าปรับผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในอาคารสนามบินจาก 5,000 บาท เป็น 10,000 บาท” โดยให้เหตุผลที่เป็นอารยะว่า“สนามบินไทยควรจะเป็นสนามบินที่ปลอดบุหรี่ 100%” ซึ่งก็เป็นมาแล้วตั้งแต่ปี 2562 แต่ นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย (AOT) ทำเรื่องถึงกระทรวงสาธารณสุข ขอให้แก้ไขกฎกระทรวง เพื่อสร้าง “ห้องสูบบุหรี่” ภายในอาคารผู้โดยสารของ สนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งสนามบินที่ ทอท.บริหารอีก 5 แห่งคือ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่คุณกีรติ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ให้เหตุผลที่ขอสร้างห้องสูบบุหรี่ในสนามบิน ทั้งที่ไทยมีกฎหมายยกเลิกห้องสูบบุหรี่ในสนามบินมาตั้งแต่ปี 2562 ว่า การห้ามสูบบุหรี่ในอาคารผู้โดยสาร “อาจเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้โดยสาร” นึกไม่ถึงว่าผู้อำนวยการใหญ่ สนามบินแห่งชาติของประเทศไทยจะมีความคิดย้อนแย้งกับสังคมโลกได้ขนาดนี้ท่านไม่รู้หรือว่า “สิทธิเสรีภาพของประชาชน” คืออะไร รัฐธรรมนูญ 2560 ก็บัญญัติไว้ใน หมวด 3 และ หมวด 5 ถึงสองหมวด หัวใจหลักคือ “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกัน ชาย และหญิงต่างมีสิทธิเท่าเทียมกัน” โดยมีรายละเอียดมากมาย ท่านสามารถไปศึกษาได้ นอกจากนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council) ก็ได้บัญญัติไว้ว่า “สิ่งแวดล้อมที่ดี รวมถึงอากาศที่ดี เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์” คนสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในอาคารผู้โดยสาร เป็นผู้ทำผิดกฎหมาย แถมยังทำให้อากาศในอาคารผู้โดยสาร เป็นพิษ สมควรลงโทษตามกฎหมาย ไม่ใช่ขอแก้กฎหมายเพื่อให้สิทธิพิเศษแก่ผู้โดยสารที่ทำผิดกฎหมายเหนือผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่ทำถูกกฎหมายสนามบินใหญ่ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น นครนิวยอร์ก ชิคาโก ลอสแอนเจลิส ลอนดอน ซิดนีย์ อัมสเตอร์ดัม ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ที่มีผู้โดยสารปีละหลายร้อยล้านคน ล้วนห้ามสูบบุหรี่ในอาคารสนามบิน 100% ทั้งบุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีควัน บางแห่งห้ามสูบนอกอาคารด้วย ไม่เห็นมีชาติไหนเสนอ “แก้กฎหมาย” เพื่อ “เอาใจขี้ยาไม่กี่คน” อย่างที่ ทอท.กำลังทำคุณกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผอ.ใหญ่ ทอท. แถลงเองว่า ปีงบประมาณ 2567 ระหว่าง ต.ค.66–ก.ย.67 มีผู้โดยสารมาใช้สนามบิน 6 แห่งของ ทอท.เพิ่มขึ้นเป็น 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 19.22% เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% เป็น ผู้โดยสารในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.01% แต่ข้อมูลที่ ทอท.เสนอ คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติระบุว่า ระหว่างปี 2561–2567 มีผู้แสดงความจำนงอยากให้มีห้องสูบบุหรี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ 165 ราย ระหว่างปี 2562–2566 มีผู้โดยสารฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในอาคารสนามบินจนต้องเข้าระงับเหตุ 69 ราย เป็นชาวต่างชาติ 66 รายทอท.จึงขอสร้างห้องสูบบุหรี่เพื่อแก้ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เอาอะไรคิดไม่ทราบ ทอท.กำลังเสนอให้แก้กฎหมายของประเทศเพื่อเอาใจคนฝ่าฝืนสูบบุหรี่เพียง 69 คนในรอบ 5 ปี เฉลี่ยปีละ 13.8 คน อย่างนั้นหรือก็ต้องขอบคุณ คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรียุติธรรม ประธานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ ที่ไม่เห็นชอบในการประชุมคณะกรรมการฯเมื่อ 7 ก.พ. และตั้ง คณะทำงาน 5 ท่าน ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ไปดูข้อเท็จจริงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งที่ควรจะตีตกไปด้วยซ้ำ และเสนอว่า อาจแก้ระเบียบให้เจ้าหน้าที่การท่าฯปรับผู้ฝ่าฝืนได้หรือไม่ หรือเพิ่มค่าปรับจาก 5,000 บาท เป็น 10,000 บาท ในสหรัฐฯเขาปรับตั้ง 5,000 เหรียญ 170,000 บาท คนก็หลาบจำไม่กล้าฝ่าฝืน เมื่อเร็วๆนี้คนไทยเพิ่งได้ชื่นชม แอร์โฮสเตสนกแอร์ ที่ให้ รปภ. เชิญฝรั่งขี้นกที่ฝ่าฝืนสูบบุหรี่ไฟฟ้าลงจากเครื่องบิน ทำไม ผู้บริหารท่าอากาศยานไทย ไม่สร้างจิตสำนึกแบบ แอร์โฮสเตสนกแอร์ บ้าง?“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม