หนังสือ “ชื่อ แซ่ และระบบตระกูลแซ่ อัตลักษณ์สำคัญเบื้องต้นของคนจีน” ถาวร สิกขโกศล เขียน (แสงดาว พิมพ์ ครั้งที่ 2 พ.ศ.2567) ผมเลือกหัวข้อ สะดุดใจ กระหายจะรู้ สื้อเฮ่า...สมัญญาลักษณะสำคัญของสมัญญามี 2 ประการ ประการแรก เกิดจากคนรอบข้างร่วมกันพิจารณาให้ หลังจากเจ้าตัวล่วงลับไปแล้ว ประการที่ 2 เป็นการสรุปปฏิปทาและผลงานในชีวิตอย่างสังเขปของบุคคลนั้นไว้ในสมัญญาที่ตั้งให้ตัวอย่างของ จูล่ง กวนอู เปรียบเทียบกันหลังจากกวนอูพ่ายศึกจนตัวตาย เล่าปี่มิได้ตั้งสมัญญาให้ พงศาวดารสามก๊กจี่ บันทึกว่า “ในรัชกาลเล่าปี่ พระราชทานสมัญญาให้แต่หวดเจ้ง” จนถึงรัชกาลพระเจ้าเล่าเสี้ยน จึงพระราชทานสมัญญาให้กวนอูว่า “จ้วงมิ่วโหว”โหว เป็นบรรดาศักดิ์เทียบได้กับพระยา ตัวสมัญญา คือจ้วงมิ่ว จ้วงในที่นี้หมายถึงแกล้วกล้า แต่การศึกไม่สัมฤทธิผล มิ่วในที่นี้หมายถึงผิดพลาด คลาดเคลื่อน รวม 2 คำมีความหมายทั้งชม เห็นใจ ชีวิตกวนอูอยู่พร้อมในตัวถึงยุคราชวงศ์ซ่ง พระเจ้าซ่งฮุยจงพระราชทานสมัญญาใหม่ และเลื่อนบรรดาศักดิ์กวนอูเป็น “จง ฮุ่ยกง” แปลเอาความได้ว่า “เจ้าพระยาจงรักการุณย์” ต่อมาเลื่อนเป็นอ๋องยุคหลังๆผู้คนยกย่องกวนอูสูงส่งขึ้นเรื่อยๆ สมัญญาก็สูงตาม จนมีลักษณะเป็น “จุนเฮ่า” (อภิไธย) กวนอูกลายเป็นเทพเจ้าส่วนจูล่ง พอล่วงลับพระเจ้าเล่าเสี้ยนประชุมขุนนาง ตั้งสมัญญาให้ว่า “ซุ่นผิงโหว” ซุ่น สุขุมปรีชา อันเป็นปฏิปทาของจูล่ง ผิง ขจัดเภทภัยให้สันติสุข รวม 2 คำ หมายถึง สุขุมปรีชา ขจัดภัยได้สันติ ตรงกับนิสัยและผลงานจูล่งวีรชนอีกคน เย่ว์เฟย (งักฮุย) ถูกฉินฮุ่ยกำจัดและใส่ร้าย จนไม่ได้รับพระราชทานสมัญญาจากพระเจ้าซ่งเกาจง จนถึงรัชกาลพระเจ้าซ่งเซียวจง จึงได้รับพระราชทานสมัญญา อู่มู่กง เจ้าพระยาสง่ายุทธ์ในรัชกาลพระเจ้าซ่งหนิงจง เลื่อนเป็นอ๋อง เทียบได้กับ สมเด็จเจ้าพระยาต่อมารัชกาลพระเจ้าซ่งหลี่จง เปลี่ยนสมัญญาจาก อู่มู่ เป็นจงอู่ (ภักดียุทธิ์) เหมือนขงเบ้งเย่ว์เฟย (งักฮุย) กับฉินฮุ่ย (ฉินไคว่) เป็นคนร่วมสมัยกัน แต่ปฏิปทาและผลงานต่างกัน เย่ว์เฟยได้กิตติสมัญญา ตราบุญ ฉินฮุ่ยได้ทุรสมัญญา ตราบาป ฝากชื่อดีงามและโฉดชั่วไว้ในประวัติศาสตร์จีนฮ่องเต้ส่วนมากจะได้สมัญญาเชิงสดุดีหรือเห็นใจ สมัญญาตำหนิมักเป็นฮ่องเต้สิ้นชาติหรือสิ้นราชวงศ์บางองค์บ้านเมืองเสื่อมโทรม แต่ตัวเองไม่ชั่วร้ายเหลือแสน รัชกาลต่อมาและขุนนางก็ยังพลิกแพลงหาสมัญญาที่พอจะสอดคล้อง กับคุณสมบัติหรือโทษสมบัติของพระองค์ถวายพระเจ้าจิ้นอันตี้เป็นคนปัญญาอ่อน สมัญญา “อัน” หมายถึงดีงามแต่ไม่แก่งแย่งชิงดีคนปัญญาอ่อนย่อมไม่มีความชั่วร้ายอื่นจะไปแก่งแย่งชิงดีกับใครได้สมัญญาหรือสื้อเฮ่าของฮ่องเต้เป็นอันมาก จึงไม่ค่อยตรงตามพระจริยาวัตร มักตั้งอย่างหาแง่สดุดีหรือเลี่ยงความชั่วร้ายเท่าที่พอจะทำได้ กลายเป็นแบบแผนประเพณีนี้ นับแต่ราชวงศ์ซ่งเป็นต้นมาอาจารย์ถาวรบอกว่า ไทยเราก็มีการถวายสมัญญาตามพระราชจริยาวัตรแด่พระมหากษัตริย์คล้ายจีน ต่างกันแต่พระสมัญญาของไทย ถวายทั้งเมื่อมีพระชนม์ชีพอยู่่และเมื่อเสด็จสวรรคตแล้วเช่น พระปิยมหาราช ถวายเมื่อปลายรัชกาล พระมหาธีรราชเจ้า ถวายเมื่อเสด็จสวรรคตแล้วพระสมัญญามีทั้งแง่ดี แง่ร้าย หรือไม่ดีไม่ร้าย เช่น สมเด็จพระมหาบุรุษ (พระเพทราชา) ขุนหลวงขี้เรื้อน (พระเจ้าเอกทัศ) ขุนหลวงหาวัด (พระเจ้าอุทุมพร)พระสมัญญาพระมหากษัตริย์มิได้มีทุกพระองค์อย่างพระสมัญญาของฮ่องเต้จีน.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม