เราคงจะจำกันได้ เมื่อครั้งที่บริษัทในเครือของเจ้าสัวเจริญได้สิทธิในการที่จะพัฒนาพื้นที่กว่า 108 ไร่ บนถนนวิทยุตัด พระราม 4 เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วนั้น...คนไทยต่างก็ลุ้น กันว่า โฉมใหม่ของอาณาบริเวณนี้จะเป็นเช่นไร?โดยเฉพะชาว กทม.ล้วนคุ้นเคยกับอาณาบริเวณนี้อย่างยิ่ง เพราะในอดีตพื้นที่ส่วนหนึ่งเคยเป็น โรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งทุกเย็นๆค่ำๆวันศุกร์จะมีภาพที่อยู่ในความทรงจำอยู่ภาพหนึ่งได้แก่ภาพเด็กหนุ่มวัยรุ่นอายุ 17-18 ปี แต่งชุดนักเรียนเตรียมทหารมายืนเข้าแถวรอขึ้นรถเมล์กลับบ้านยาวเหยียด เพราะช่วงเสาร์-อาทิตย์พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้ออกจากเรือนพักในโรงเรียนกลับบ้านตนเองได้ สัปดาห์ละ 2 วันต่อมาโรงเรียนเตรียมทหารก็ย้ายไปที่จังหวัดนครนายก ทำให้ตึกที่เคยเป็น อาคารเรียนของนักเรียนเตรียมทหารกลายเป็นตึกว่างเปล่า จึงมีผู้มาเช่าประกอบธุรกิจการค้าหลายๆอย่างรวมทั้งทำเป็นภัตตาคาร “หูฉลาม” มีคำว่า “หูฉลาม” ตัวเบ้อเริ่มขึ้นมาอยู่บนหลังคาอาคารเรียน ติดไฟนีออนสว่างไสวต่อมาก็มีการพัฒนาไปอีกขั้น เมื่อมีนักลงทุนมาลงทุนโครงการ สวนลุมไนท์บาซาร์ ขึ้นที่บริเวณนี้กลายเป็นตลาดกลางคืนแห่งแรกของกรุงเทพมหานครสวนลุมไนท์บาซาร์ เปิดให้บริการเมื่อ พ.ศ.2544 และปิดการให้บริการ 2554 เป็นเวลา 10 ปี เมื่อสัญญาสิ้นสุดลงมีการประมูลใหม่ และคราวนี้หวยก็มาออกที่บริษัทในเครือเจ้าสัว เจริญ สิริวัฒนภักดี พร้อมข่าวที่ว่าจะเป็น “ศูนย์การค้าแห่งใหม่” ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยต่อมาก็เริ่มมีข่าวเพิ่มเติมว่าศูนย์การค้าแห่งนี้จะไม่ใช่ “ใหญ่ที่สุด” อย่างเดียวเท่านั้น แต่จะมีอะไรพิเศษๆเหนือศูนย์การค้าทั่วไปโดยจะเป็นโครงการประเภท มิกซ์ยูส ใช้งานผสมผสานกันได้หลายๆอย่างตั้งแต่เป็นศูนย์การค้า เป็นที่อยู่อาศัยและโรงแรม และเป็นอาคารสำนักงานที่ทันสมัย ฯลฯขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีการเผยแพร่ข่าวคราวเป็นระยะๆว่า ที่นี่จะเป็น “แลนด์มาร์ก” ใหม่ของประเทศ จะเป็นโครงการที่ดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืนของโลก จะมีพื้นที่สีเขียวและที่สำหรับงานแสดงศิลปวัฒนธรรมด้วย...ฟังแล้วอยากให้เสร็จเร็วๆซึ่งในที่สุดหลังจากลงมือสร้างอย่างทุ่มเท และเร่งด่วน ตั้งแต่ พ.ศ.2561 มาถึง 15 ตุลาคม 2567 ก็เสร็จเกือบ 70-80 เปอร์เซ็นต์ และทำพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่อลังการไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอย่างที่เรียนแล้วว่าผมไปถึงวัน แบงค็อก ตั้งแต่บ่าย 3 โมง ก่อนพิธีลงทะเบียน 5 โมงเย็น ถึง 2 ชั่วโมง เพราะกลัวรถติด และก็ถือโอกาสเดินสำรวจพื้นที่โครงการไปด้วยพบว่าแหล่งช็อปปิ้ง หรือศูนย์การค้าที่ตั้งใจจะสร้างทั้งหมด 3 โซน เสร็จไปแล้ว 2 โซน ได้แก่ Parade และ The Storeysเท่าที่เดินดูก็มี King Power มาเปิดเอาไว้ถึง 2 ชั้น, มี มูจิ แบรนด์ญี่ปุ่นที่คนรุ่นใหม่ชอบ (บอกว่าที่นี่ใหญ่ที่สุดในประเทศ), มี Ari Experience Center ศูนย์ขายสินค้าเกี่ยวกับฟุตบอล ตั้งแต่ลูกบอลไปจนถึงเสื้อผ้าบอล รองเท้าบอล ใหญ่ที่สุดเช่นกัน ฯลฯมีร้าน สารพัดไทย ที่รวบรวมแบรนด์ไทยมาไว้ครบครัน, มีร้านอาหาร, มีสตรีทฟู้ด, มีสเต็กดังจากสหรัฐอเมริกา, มีร้านเทมปุระดังจากญี่ปุ่น (จำชื่อไม่ได้แล้ว) มาเปิดด้วยช่วงนี้ถ้าไปตอนคํ่าๆ ก็จะเห็นการฉายเลเซอร์ลํ้าสมัยกว่า 40 ตัว เนรมิตอาคารต่างๆให้เป็นผืนผ้าใบผืนขนาดยักษ์ ฉายภาพสวยๆให้ดูจนถึงวันที่ 30 ตุลาคมนี้ผมจดมาได้เพียงเท่านี้ ก็ขอแนะนำเพียงเท่านี้ก่อน...วิธีไป One Bangkok ที่สะดวกที่สุดก็คือนั่งใต้ดิน MRT มาที่สถานีลุมพินี ทางออกที่ 1 เขาสร้างอุโมงค์เชื่อมเอาไว้ไปออกที่ชั้น B1 ของโซน Parade พอดีเป๊ะเลยครับ."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม