พรศิริ บูรณเขตต์ เริ่มต้นเรื่อง “ตอดต่อไก่” ไว้ ในหนังสือ กับดักวิถี (มติชน พ.ศ.2550) เป็นเครื่องมือที่ทำง่าย แต่คนที่คิดทำเป็นคนเข้าใจธรรมชาติอย่างลุ่มลึกซับซ้อนชาวบ้านสมัยก่อนเข้าป่าเพื่อหาอาหาร ไก่ป่าชอบหากินเป็นฝูงตามป่าโปร่ง แต่ก็ใช่ว่าจะจับง่ายๆ จะต้องรอถึงเดือนเมษา ช่วงเวลาที่ไก่ตัวผู้อาด คือต้องการผสมพันธุ์ ไก่ตัวผู้ส่งเสียงร้องรับไก่ตัวเมียไก่ตัวเมียบางตัวผสมพันธุ์แล้ว ก็ส่งเสียงเวลาฟักไข่ เสียงไก่จะบอกให้รู้แหล่งหากินชาวบ้านมักนำไก่ต่อจากบ้านใส่กะทอเตรียมไปกัก ไก่ต่อจะส่งเสียงร้องเร้าให้ไก่ป่าเข้ามาใกล้ ไก่ป่าก็อาจติดบ่วงหรือแร้ว หรือตัง (ยางไม้เคี่ยวจนเหนียว) หรือเครื่องมืออย่างหน้าไม้ธนูที่รอยิงแต่การเอาไก่ต่อจากบ้านเข้าป่า ไก่ต่อมักเฉาตาย ทั้งยังมีภาระให้ข้าวให้น้ำ ชาวบ้านจึงคิดประดิษฐ์เครื่องมือเป่าเลียนเสียงไก่ โดยพัฒนาขึ้นจากการเป่าใบไม้ เช่น แขนงไผ่สด หรือใบไผ่อ่อนเมื่อใบไม้ถูกลมเป่า เกิดเสียงทุ้มแหลมต่างกัน ใบไผ่แคบเสียงแหลม ใบไผ่กว้างเสียงทุ้ม ได้ยินเสียง ตอด ตอด ตอด หรือเสียง กะต๊าก กะต๊าก กะต๊าก ของไก่ตัวเมียตอนไข่เสร็จหรือเสียง กัก กัก กัก กะต๊าก เมื่อไก่ตกใจตอนนี้เอง ไก่ป่าตัวผู้ก็จะร้องขานรับ นำไปสู่การติดเครื่องมือ หรือถูกยิงการใช้เสียงตัวเมียต่อได้ไก่ตัวผู้ เพราะตัวผู้เนื้อแน่นตัวใหญ่เมื่อเอาไปทำกิน แต่หากต้องการไก่ตัวผู้ไปเลี้ยง หรือผสมพันธุ์เป็นไก่ชน ต้องเปลี่ยนตัวต่อ จากตัวเมียเป็นตัวผู้ด้วยกันธรรมชาติไก่ที่หากินเป็นฝูง จึงมีจ่าฝูงเป็นตัวผู้เปลี่ยวดุเป็นเจ้าถิ่นดูแลฝูง เมื่อจ่าฝูงได้ยินเสียงไก่ต่างถิ่น ก็จะปราดเข้าไล่จิกตี เหตุนี้ชาวบ้านจึงต้องเปลี่ยนไก่ต่อตัวเมียเป็นตัวผู้และหากไม่ใช้ไก่ต่อตัวผู้ แต่จะใช้ตอด ก็ต้องทำเสียงตอดให้ทุ้มเหมือนไก่ตัวผู้ แล้วใช้บ่วงที่ทำให้ไก่ไม่ช้ำนัก แต่ที่ง่ายที่สุด เมื่อไก่ตัวผู้เข้าใกล้ก็โยนผ้าคลุมส่วนไก่ตัวเมียไม่เป็นที่ต้องการเท่าไก่ตัวผู้ หรือเป็นเพราะเสียงตัวเมียไม่เร้าใจตัวเมียเข้ามา แม้ใช้เสียงตัวผู้ ตัวเมียก็ไม่ค่อยมา การจับไก่ตัวเมียจึงต้องเปลี่ยนมาใช้ลูกไก่ต่อล่อแม้ไม่ใช่แม่ลูกกัน ไก่ตัวเมียก็มา ชาวบ้านรู้ดี ไก่ตัวเมียมีสัญชาตญาณเพศเมียเพศแม่ตอดต่อไก่ที่ทำจากใบไม้ในป่า ใช้ได้ครั้งเดียวก็ทิ้ง แล้วก็ทำใหม่ เพราะหาง่ายใกล้มือแต่กระนั้นเมื่อต้องการความทนทานเพื่อใช้ซ้ำ คนจึงประดิษฐ์เครื่องมือเลียนเสียงไก่เอาหลอดสังกะสี หรือแผ่นทองเหลือง มาบัดกรีเป็นรูปกรวยที่รูระบายลม ใช้มือป้องช่องลมระบายทั้งสองด้านขณะเป่า ทำให้เกิดเสียงก้องทุ้มตามต้องการแต่การใช้ตอดต่อไก่ไม่ว่าชนิดไหน จะใช้ได้ผลก็ต้องฝึกฝน คนที่ฝึกฝนจึงฟังเสียงไก่ติดหู ฟังเสียงแยกเพศ ลักษณะการร้องในสถานการณ์ต่างๆ จนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ตอดต่อไก่ไม่ใช่เครื่องมือหรือกลไกจับสัตว์ เป็นแค่ใช้เสียงเป็นสื่อ จึงอาจเรียกเป็นสื่อสังหาร ในกรณีที่ต้องการจับจ่าฝูงเนื้อแน่นตัวใหญ่ไปกินแต่หากต้องการใช้ไก่ป่าผสมพันธ์ุ หลังเสียงตอดส่งสัญญาณ ไก่จ่าฝูงตัวอาดก็จะแสดงปฏิกิริยา เปลี่ยนท่าทีจากการเดินคุมเชิง เป็นการบุกรุกเข้าโจมตีทันทีธรรมชาติความอาด (แปลแบบผม หยิ่งผยอง) ของจ่าฝูงอย่างนี้เอง คนจึงต้องเปลี่ยนไก่ต่อตัวเมียเป็นไก่ตัวผู้อย่ายิ้มนะครับ หากผมจะจบเรื่องวันนี้ว่า บ้านเมืองเราตอนนี้ มีไก่จ่าฝูงสำคัญสองตัวติดบ่วงใหญ่ ทำให้ต้องลุ้นกัน พวกที่ใช้ไก่ต่อ เขาจะเอาเชือดลงหม้อ หรือว่ายังเห็นเป็นพันธุ์ดุพันธุ์ดีอยากเอาไปผสมพันธุ์.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม