“กฤษฎางค์ นุตจรัส” ทนายความศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน เดินทางมาทวงไฟล์กล้องวงจรปิดในวันที่ “บุ้ง ทะลุวัง” เสียชีวิต แต่ผิดหวังไม่ได้รับ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์อ้างเหตุอาจสร้างความเสียหายกับผู้ตายและผู้เกี่ยวข้อง เผยรายงานจาก รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มีความสมบูรณ์มากพอที่จะระบุว่า น.ส.เนติพรเสียชีวิตที่ไหน ขอเวลารวบรวมข้อมูลอีก 2-3 วัน จะตั้งโต๊ะแถลงที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 24 พ.ค. นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด้วง ทนายความศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน เดินทางมาทวงถามขอไฟล์กล้องวงจรปิดในวันที่ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง เสียชีวิตกับเจ้าหน้าที่ของทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยใช้เวลาในการเข้าพบพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นนายกฤษฎางค์ออกมาเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ไม่ให้ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ ให้เหตุผล 3 ข้อ คือ 1.ภาพเคลื่อนไหวระหว่างการรักษามีภาพของพนักงาน เจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขัง เกรงจะกระทบกับบุคคลเหล่านั้น 2.เพื่อความมั่นคง เพราะภาพในทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ คือ เรือนจำ อาจเกี่ยวข้องกับความมั่นคง 3.กลัวว่าจะเกิดความเสียหายแก่คนตาย โดยกรมราชทัณฑ์แจ้งทำหนังสือถึงพ่อ-แม่ของ น.ส.เนติพรแล้ว ระบุว่าหากต้องการมาดูภาพวงจรปิดให้ประสานเข้ามาภายหลัง ขอยืนยันว่ายังเห็นหนังสือดังกล่าวและพ่อ-แม่ของ น.ส.เนติพรยังไม่ได้รับ ตนยังตกใจอยู่ที่วันนี้ไม่ได้รับไฟล์ภาพวงจรปิด คิดว่าจะมีการเบลอหน้า ผู้ไม่เกี่ยวข้องแล้วมอบให้ตามที่ตกลงไว้นายกฤษฎางค์กล่าวต่ออีกว่า กรมราชทัณฑ์เกรงหากได้ภาพวงจรปิดไปแล้ว ตนจะนำไปเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนจึงไม่ให้ หากต้องการภาพวงจรปิดต้องไปร้องอุทธรณ์ต่อสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ และฟ้องศาลปกครอง ตนอยากรู้ ว่าในช่วงเวลาเกิดเหตุ ก่อน น.ส.เนติพรจะเสียชีวิต เกิดอะไรขึ้นเหตุการณ์ตรงกับที่กรมราชทัณฑ์ชี้แจงหรือไม่ มีการพาไปเอ็กซเรย์ ทำซีทีสแกน และปั๊มหัวใจ รวมถึงมีการรักษาตามมาตรฐานจริงหรือไม่ เราต้องการความจริง สำหรับข้อกังวลของราชทัณฑ์ที่เกรงว่า เมื่อได้ภาพวงจรปิดมาแล้วจะนำไปเผยแพร่นั้น ตนยืนยันว่าจะไม่เผยแพร่ต่อสื่อมวลชนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการนำมาวิเคราะห์ร่วมกับเอกสารทั้งหมด เพื่อนำภาพเคลื่อนไหวมาประกอบว่าตรงกันหรือไม่เท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ได้ขอเอกสารการรักษาบางส่วนมาได้แล้ว ขอถามไปถึงรัฐบาลและผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมว่าแน่ใจแล้วหรือที่จะไม่ให้ภาพจากกล้องวงจรปิด เท่ากับปิดโอกาสตัวเองในการชี้แจงความบริสุทธิ์ ตนเข้าใจและไม่ถือโทษกับเจ้าหน้าที่ กรมราชทัณฑ์ เพราะพวกเขาต้องปฏิบัติตามคำสั่งการมาอีกทีหนึ่ง เชื่อว่าน่าจะมีคำสั่งจากใครบางคนที่มีอำนาจเหนือกรมราชทัณฑ์ ทั้งนี้ ตนมีผลชันสูตรของ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติค่อนข้างสมบูรณ์ เมื่อปิดโอกาสตัวเองในการตอบคำถามสังคม ตนจะเดินหน้าอธิบายครอบครัวของ น.ส.เนติพรว่าสาเหตุการเสียชีวิตเพราะอะไร นอกจากการใส่ท่อช่วยหายใจในหลอดอาหาร ยังมีประเด็นอื่นอีก โดย 2-3 วันหลังจากนี้จะรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับการรักษา น.ส.เนติพรก่อนจัดตั้งโต๊ะแถลงรายละเอียดอีกครั้ง“รายงานจาก รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มีความสมบูรณ์มากพอที่จะระบุว่า น.ส.เนติพรเสียชีวิตที่ไหน เชื่อว่าการปิดบังข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้แปลว่าจะสามารถปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือได้ สำหรับพ่อ-แม่ ของ น.ส.เนติพรเพียงแค่อยากรู้สาเหตุแท้จริงที่ลูกสาวเสียชีวิต รวมถึงการดูแลผู้ต้องขังเพื่อจะได้ไม่ต้องมีใครตายในระบอบนี้อีก เพราะราชทัณฑ์มีหน้าที่ดูแลผู้ต้องขังทุกราย ยืนยันเรื่องนี้เป็นผลเสียต่อราชการแน่นอน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พูดเองตั้งแต่วันมาร่วมงานศพ น.ส.เนติพรว่าสามารถให้ข้อมูลได้ไม่มีปัญหาและนายกรัฐมนตรีสั่งการทำเรื่องนี้ให้โปร่งใส เรื่องนี้ซุกไว้ใต้พรมไม่ได้ ถ้าเทียบกับนักการเมืองหรือเศรษฐีที่ส่งตัวไปรักษาอาการที่ชั้น 14 รพ.ตร. อาการเบากว่า น.ส.เนติพรเยอะ” นายกฤษฎางค์กล่าววันเดียวกัน กรมราชทัณฑ์ออกเอกสารชี้แจง กรณีทนายความขอรับข้อมูลภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด ของ รพ.ราชทัณฑ์ ใจความสรุปว่า ตามที่มีทนายความของ น.ส.เนติพรเดินทางไปขอข้อมูลภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ทำการตรวจรักษา น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม นั้น กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่ากรณีดังกล่าวทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แจ้งให้ทนายความได้รับทราบว่าไม่สามารถส่งมอบข้อมูลภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดให้ตามที่ร้องขอได้ เนื่องจากเป็นกรณีที่ต้องพิจารณาให้เกิดความถูกต้องตามกฎหมายและเป็นธรรมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ระหว่างการตรวจรักษา รวมทั้งภาพไม่เหมาะสมของผู้เสียชีวิต ดังนั้น จึงมี ความจำเป็นที่จะต้องแจ้งการพิจารณาการให้ข้อมูลดังกล่าวแก่บิดามารดาของผู้เสียชีวิตและเรียนเชิญนัดหมายให้ไปตรวจสอบและปรึกษาหารือร่วมกันกับทางทัณฑสถานกรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่าการเปิดเผยข้อมูลภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด ต้องยึดถือปฏิบัติตามหลักการที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอื่นและของผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย ซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์ ที่กำหนดไว้ตาม ม.15 (5) และ (6) แห่ง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2540 ประกอบกับ ม.7 แห่ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิของผู้ที่ยื่นขอข้อมูลดังกล่าวที่จะอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนั้นมีรายงานว่าเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา สมาชิกกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จัดรวมตัวเพื่อทำกิจกรรม “นิรโทษกรรมให้คนเป็น คืนยุติธรรมให้คนตาย” ก่อนเดินไปยื่นข้อเสนอต่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในประเด็นเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมในการปล่อยตัวนักโทษการเมือง ที่กระทรวงยุติธรรมอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่