ปลดผู้ว่าการแบงก์ชาติ รื้อกฎหมายลดความเป็นอิสระของ “วังบางขุนพรหม”อารมณ์ “เด็กแสบ” ฟ้องประจาน “เด็กแอบเดียงสา” เมื่อควันสัญญาณจากปฏิบัติการ “เด็กเล่นไฟ” ถูกดักทางโดย “ดร.ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล กัปตันทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล อ่านเกมแฝง “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งใจจุดชนวน“พ่อให้ท้าย” ลูกเล่นไฟ ไม่กลัวลามไหม้เมือง ศิริกัญญา ตันสกุลและตามอาการนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ต้องรีบปฏิเสธรัวๆ ดับข่าวลือกันจ้าละหวั่น ยืนยันไม่มีความคิดปลด “ดร.นก” นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. อยู่ในหัว ไม่กล้าแตะกฎหมายแบงก์ชาติหวาดผวาแรงกระแทก กระแสตีกลับ “อุ๊งอิ๊งค์” แทบยับเยินยิ่งเป็นอะไรที่เห็นจะจะ “หลุมพราง” ดักอยู่ข้างหน้า ตามฟอร์มเขี้ยวของคนยี่ห้อประชาธิปัตย์ที่ได้ที “เสี้ยม” ผู้นำรัฐบาลเพื่อไทยให้ปลดผู้ว่าการ ธปท.ได้เลย ถ้ามองว่าพฤติการณ์ขวางลำคิวเทกระจาดเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตเป็นความ “เสื่อมเสีย”ยั่วกดดันกันในทีหวังดี “ประสงค์ร้าย” ยุให้หายนะตามไฟต์เดิมพันบีบให้เดิน “ทางบังคับ” จากตัวอย่างคิวปรับ ครม.หมาดๆ ทีแรกนายเศรษฐาก็ยืนกรานไม่ปรับเปลี่ยน แต่พอ “เถ้าแก่ใหญ่” เดินสายไปเขย่าติ้วที่จังหวัดเชียงใหม่ อาการของ “นายกฯในตำแหน่ง” ก็ต้องเด้งรับซิกสัญญาณ ไม่อาจฝืนธง “นายกฯในตำนาน” ได้มันก็คงไม่แตกต่างกันกับควันสัญญาณ “เด็กเล่นไฟ” เผากำแพงวังบางขุนพรหม อารมณ์แบบที่ “เด็กแสบ” กองทัพส้มดักทางได้ แม้แต่สำนักข่าวระดับโลกอย่างรอยเตอร์ยังอ่านทะลุ “ลูกได้อิทธิพลจากพ่อ”ก็แค่เด้งเชือกรอจังหวะ นายเศรษฐาต้องลุยรวบ “แบงก์ชาติ”“มิชชัน” วัดดวง ท้าอาถรรพณ์ “ปู่โสมเฝ้าคลังสมบัติแผ่นดิน” ตามสถานะ “นายกฯในตำแหน่ง” ที่ต้องแบกความรับผิดชอบทางกฎหมาย เป็นหนังหน้าไฟให้ “นายกฯในตำนาน” ที่โฉบคุมเกมอยู่วงนอกภาพเชิงซ้อนทางอำนาจมันชัดตามภารกิจ “ซีอีโอ” รับจ้างบริหาร เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ“เถ้าแก่ใหญ่-ลูกสาว” กุมสภาพเบ็ดเสร็จในรัฐบาลและค่ายเพื่อไทย แต่ที่ยังคุมเกมไม่ได้ก็คือกระแสความนิยมทางการเมืองที่ไม่อยู่ในวิสัยบังคับง่ายๆเหมือนลูกหาบ ตามสภาพคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยที่ต่ำเตี้ยเรี่ยราดลงทุกขณะ โพลมาตรฐานตอกย้ำตัวเลข โพลเชลียร์ดันไม่ขึ้นเมื่อ “ตัวช่วย” กลายเป็น “ตัวถ่วง” ซะอย่างนั้นบนพื้นฐานความเชื่อและมั่นใจในตัวเอง “ทักษิณ ชินวัตร” ที่คิดว่าจะเป็นตัวประคอง แถมดีเอ็นเอสายตรงอย่าง “อุ๊งอิ๊งค์” มาเสริมพลัง เติมความหวังฟื้นกิจการกงสีตระกูลชินที่เสี่ยงล้มละลายทางการเมืองกลายเป็นเรื่องที่คิดเองเออเองในหมู่คนเพื่อไทยและฝ่ายอนุรักษ์นิยมอารมณ์ของนักเลือกตั้งอาชีพพันธุ์เก่า ตามไม่ทันพัฒนาการทางการเมือง สนามเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปไว เอื้อต่อนักเลือกตั้งพันธุ์ใหม่มุกเก๋า ลูกเขี้ยวเดิมๆใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปโฟกัสจากเกมเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาที่กำลังคึกคัก ตามอาการฝ่ายคุมกติกา โดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด่านหน้าของทีมอนุรักษ์นิยมต้องวิ่งสกัด ไล่บล็อกแนวร่วมกองทัพส้ม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจตามดมกลิ่นที่ “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้นำจิตวิญญาณค่ายก้าวไกล เดินสายปลุกระดมผู้ร่วมอุดมการณ์ให้ยอมจ่าย 2,500 บาท ลงสมัครรับเลือก สว.ซื้อตั๋วไปช่วยกันสู้เกมฮั้ว บี้กับระบบจัดตั้งของบ้านใหญ่ ตามรูปเกม “ค่ายกล” ของ “ซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์” ไม่อาจต้านทานพลังของฝ่ายเสรีนิยม ทั้งนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย ศิลปินนักร้อง สื่อมวลชนคนดัง ฯลฯ ที่ต้องการลุยล้างอำนาจอนุรักษ์นิยมอารมณ์เดียวกับสนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่กำลังฝุ่นตลบ ตามจังหวะแชมป์เก่า ตัวเต็งบ้านใหญ่ แท็กทีมกันไขก๊อกก่อนหมดวาระ นัยว่าชิงแต้มต่อ เล่นเกมไวจังหวะคู่ต่อสู้ตั้งหลักไม่ทัน เอาตัวรอด ในสถานการณ์กระแสกองทัพส้มล้อมทุกทิศทุกทางโดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ พื้นที่ปริมณฑล นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี หัวเมืองใหญ่ทางเหนือ อีสาน หรือใต้อย่างจังหวัดภูเก็ต ที่พรรคก้าวไกลกวาดที่นั่ง สส.ยกจังหวัด หรือครองเก้าอี้ส่วนใหญ่แต้มไหลเข้าทางทีมเด็กรุ่นใหม่ ไม่ต้องออกแรงซิกแซ็กมากมายตรงกันข้ามกับพรรคเพื่อไทยที่จัดอีเวนต์ใหญ่ โชว์แคนดิเดตตัวเต็งเปิดโพยไม่เปรี้ยงปร้าง ตีกินได้แต่สนามไกลปืนเที่ยง.ทีมข่าวการเมือง รายงาน