อากาศของประเทศไทยกำลังร้อนรุนแรง ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะร้อนแรงต่อไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ตรงกับผลการสำรวจความเห็นประชาชนของซูเปอร์ โพล คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าบรรยากาศการเมือง จะร้อนระอุ สู่ความขัดแย้งรุนแรง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา จะรุนแรงยิ่งขึ้นกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 81.8% ระบุว่าสาเหตุความรุนแรงทางการเมืองคือวิกฤติศรัทธาต่อผู้นำ 83.7% ระบุเหตุคือกระบวนการยุติธรรมล่มสลาย 66.3% ชี้ถึงความล้มเหลวในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชน 56.6% ระบุถึงความ เสื่อมศรัทธาต่อองค์กรอิสระ และ 48.9% ชี้การยุบพรรคก้าวไกลแต่ละเหตุปัจจัยที่ประชาชนเชื่อ จะเป็นชนวนของความขัดแย้งทางการเมือง ล้วนแต่เป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ กลุ่มประชาชนกับกลุ่มผู้นำประเทศ ดูเหมือนจะมองโลกต่างกันมาก เหมือนกับอยู่คนละโลก ในที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันอาทิตย์ มีการเปิดวีดิทัศน์สัมภาษณ์นายทักษิณ ชินวัตรบุคคลที่เรียกกันว่า “ผู้นำจิตวิญญาณ” ของพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธว่าพรรคเพื่อไทยไม่ใช่พรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ แต่เป็นพรรคผู้นำในการเปลี่ยนแปลง เริ่มตั้งแต่นโยบายประกันสุขภาพ กองทุนหมู่บ้าน จนถึง “ดิจิทัลวอลเล็ต” เป็นเรื่องที่โคตรใหม่ ไม่ใช่ใหม่ธรรมดา จากนั้นก็กล่าวถึงระดับผู้นำพรรคกับรัฐบาลคนแรกได้แก่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่นายทักษิณมีความมั่นใจ เพราะเป็นนักบริหาร มีประสบการณ์มาก ส่วน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มั่นใจว่ามีความสามารถนำทีม พลิกเกมได้ไม่ยาก ถือว่าเป็นความเห็นที่ขัดแย้งกับคนส่วนใหญ่ ที่มองว่าเหตุที่การเมืองร้อนระอุและขัดแย้ง เพราะวิกฤติศรัทธาต่อผู้นำรัฐบาลปัจจุบันเขาระบุหน้าที่มาแล้ว 7 เดือน นายกรัฐมนตรีเศรษฐาสัญญาว่าอีก 3 ปีครึ่งที่เหลือจะมุมานะทำอย่างเดียวในชีวิต ต้องทำให้ได้ เพื่อทำให้ชีวิตการเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น และทำให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง เรื่องที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือ ถ้ามีเลือกตั้งภายในเร็ววัน พรรคเพื่อไทยมีหวังแพ้ผลการสำรวจความเห็นประชาชน ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ผ่านมา คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย แพ้พรรคก้าวไกลอย่างหลุดลุ่ย ทั้งคะแนนนิยมพรรคและผู้นำพรรค ทั้งๆที่พรรคก้าวไกลอาจถูกยุบ ในอนาคตที่ไม่ไกล การบริหารประเทศของรัฐบาลเพื่อไทย มีทั้งที่สำเร็จและล้มเหลว ลองกลับไปสำรวจตรวจสอบดู.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม