เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญารัชดา มีคำพิพากษา คดีม็อบพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย บุกยึดสนามบินดอนเมือง ในฐานะความผิดร่วมกันชุมนุมปลุกปั่นยุยงก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือข้อหากบฏ ประกอบด้วยแกนนำคนสำคัญของพันธมิตรในเวลานั้นและพวกรวม 67 คน ที่ตกเป็นจำเลย เพื่อเป็นการกดดันให้ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ เมื่อศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าจำเลยเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมมาจากหลายสาขาอาชีพ เพื่อคัดค้านการดำรงตำแหน่งนายกฯของ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นน้องเขยของ ทักษิณ ชินวัตร มีการทุจริตเชิงนโยบายและศาลฎีกาแผนกอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาจำคุก ทักษิณ ชินวัตร หลายคดี เป็นการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ ด้วยความสงบและปราศจากอาวุธไม่เป็นความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย หรือชุมนุมก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จึงมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมดก่อนหน้านั้น จักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯสมัยรัฐบาล สมัคร สุนทรเวช ได้เดินทางกลับมาสู้คดีอาวุธปืน อั้งยี่ ด้วยอารมณ์ยิ้มแย้มแจ่มใส่ หลังจากไปลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศถึง 15 ปี จักรภพ บอกด้วยว่า เป็นการนำร่องที่จะอาสาพาผู้ลี้ภัยการเมืองในอดีตกลับบ้าน ซึ่งมีอีกหลายคนในรุ่นเดียวกัน อาทิ จรัล ดิษฐาอภิชัย, อดีต รมว.มหาดไทย จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ, อดีต สส. สุนัย จุลพงศธร, จอม เพชรประดับ เป็นต้น หลังจากเดินทางไปมอบตัวและได้รับการประกันตัวระหว่างสู้คดี จักรภพ ประกาศจะกลับมารับใช้เมืองไทย เสียดายเวลาที่ผ่านมาที่จะได้รับใช้ประเทศชาติ ตั้งใจจะกลับมาทำงานการเมือง งานด้านต่างประเทศ ยอมรับว่ามีดีลในการกลับมาครั้งนี้ด้วยมีกระแสข่าวว่า การร้องยุบพรรคก้าวไกล ที่อยู่ในระหว่างการวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการฟันธงไปเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ก้าวไกล ถูกยุบแน่นอน หลังจากที่มีการขอหลักฐานเพิ่มเติมจากผู้ร้อง เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทำให้ แกนนำก้าวไกล เชื่อว่า จะไม่ถูกยุบเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ และมีรายงานข่าวจาก กกต. ด้วยว่า กรณีการร้องยุบพรรคภูมิใจไทย เรื่องการรับเงินบริจาคผิดกฎหมาย จะมีการยกคำร้อง เพราะไม่เข้าข่ายของกฎหมายวันนี้ไม่เฉพาะ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน เท่านั้น ที่มีเรื่องร้องเรียนการกระทำความผิดที่ค้างท่ออยู่ในการพิจารณาของ ป.ป.ช. ยังมีนักการเมืองและพรรคการเมือง ที่ถูกร้องการกระทำผิดกฎหมาย อยู่ใน กกต. ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญอีกหลายคดี เป็นชนวนที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองได้อีกหลายระลอกการขับเคลื่อนของอดีตผู้นำ ทักษิณ ชินวัตร ในหลายกิจกรรมหลายปรากฏการณ์ แม้แต่การกลับบ้านที่เชียงใหม่ หรือการเดินสายออกไปพบประชาชน คนเสื้อแดงในต่างจังหวัด การเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย พบปะกับสมาชิกพรรคแบบเปิดเผย ได้รับไฟเขียว จากกระทรวงยุติธรรมยาวไปบรรทัดนี้พอจะตีความได้ว่า การเมืองไทยกำลังจะเปลี่ยนท่ามกลางเส้นขนานระหว่างสลายความขัดแย้งกลับเข้าสู่ความสงบสุข หรือกำลังจะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากหน้ามือเป็นหลังมือ บนเส้นยาแดงผ่าแปดเป็นวิกฤติบ้านเมืองรอบใหม่.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม