หลายๆปีมานี้ คนไทยเราได้ริเริ่มกิจกรรมอันดีงามและเป็นมหากุศลอย่างยิ่งขึ้นมากิจกรรมหนึ่ง ได้แก่การออกตระเวนไหว้พระ “9 วัด” ในวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคมทุกๆก่อนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ขสมก.หรือองค์การขนส่ง มวลชนกรุงเทพ จะออกมาประกาศอยู่เสมอว่า ขสมก.ได้จัดรถ “เมล์ฟรี” ไว้บริการจากวัดนั้นถึงวัดนี้ ตั้งแต่เวลานั้นเวลานี้...ขอเชิญพี่น้องชาว กทม.ร่วมใช้บริการรถเมล์ฟรี “ไหว้พระ 9 วัด” อย่างพร้อมเพรียงกัน ในวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคมแรกๆผมฟังแล้วก็เฉยๆ เพราะมิได้มีความคิดที่จะไหว้พระมากมายถึง 9 วัด แต่อย่างใดและโดยปกติก็จะไหว้เพียง 2-3 วัดใกล้ๆบ้านเท่านั้นต่อมาคงเป็นเพราะผมแก่ตัวมากขึ้นจึงหาโอกาสที่จะเข้าวัดบ่อยขึ้นประกอบกับมีการกล่าวกันอย่างกว้างขวางว่า เราอยู่ในสมัย ร.9 การออกไหว้พระในวันปีใหม่ให้ครบ 9 วัด จะเป็นมงคลยิ่งแก่ชีวิตทำให้ผมรู้สึกคล้อยตามและในปีหนึ่งก็ชวนครอบครัวไปทดลอง โดยไปจอดรถในที่จอดรถของ กทม.แถวๆบางลำพู ตรงข้าม วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นต้นทางของรถเมล์ฟรีที่จะนำพี่น้องประชาชนเดินทางไปไหว้พระ 9 วัด ในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ปรากฏว่าผมไปจนครบ 9 วัด รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจเหลือเกิน มีความสุขเหลือเกิน ที่มีโอกาสได้ไปร่วมทำบุญไหว้พระที่ทางการจัดไว้จึงตัดสินใจเข้าร่วมเป็นประจำทุกๆปีหลังจากนั้นเป็นต้นมาจนกระทั่งในรัชสมัย ร.10 ความนิยมเปลี่ยนเป็น “ไหว้พระ 10 วัด” ตามรัชกาล ครอบครัวผมก็ออกไหว้พระ 10 วัด ในวันที่ 1 มกราคมร่วมกับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอดแต่แล้วก็เกิดภาวะโควิด-19 ระบาดอยู่หลายปี และวัดต่างๆไม่สามารถเปิดต้อนรับประชาชนได้ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อป้องกันการระบาดครอบครัวของผมก็หันมาใช้การไหว้จาก “ระยะไกล” คือขับรถผ่านหน้าวัดที่เราตั้งใจจะไหว้จนครบทั้ง 10 วัด แต่แทนที่จะลงไปไหว้ในวัด (ซึ่งส่วนใหญ่ก็ปิดวัดทุกวัด) เราก็ใช้วิธีชะลอรถหรือจอดรถไหว้ขอพรอยู่ที่ถนนหน้าวัดนั่นเอง สำหรับปีนี้แม้โควิด-19 จะซาลงไปมากแล้ว ผมก็ยังใช้วิธีผสมผสานอยู่เหมือนเดิม โดยเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 ที่ผ่านมานี้ ผมก็ยังออกตระเวนไหว้พระด้วยการไหว้ทั้งจากบนรถของเราเอง สลับกับการลงไปไหว้ในวัดร่วมกับพี่น้องประชาชนอื่นๆวัดใดพอมีที่จอดก็ลงไปไหว้ วัดใดไม่มีที่จอดและคนแน่นมากก็ใช้วิธีไหว้แบบวิถีไกล ดังกล่าวทุกๆวัดที่ผ่านไปเมื่อ 1 มกราคมปีนี้ ทั้งที่มีโอกาสลงกราบไหว้หรือกราบไหว้จากบนรถก็ตาม ล้วนเนืองแน่นไปด้วยพี่น้องประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเหลือเชื่อบางวัดก็จะได้พี่น้องแรงงานเมียนมาที่มาอยู่ประเทศไทย มาช่วยเสริมโดยแต่งชุดพื้นเมืองของพม่ามาร่วมด้วย โดยเฉพาะวัดใหญ่ๆ เช่น วัดพระแก้ว วัดพระเชตุพนฯ จะเห็นพี่น้องชาวเมียนมาแน่นไปหมดยินดีต้อนรับครับเพราะเขามาอยู่บ้านเรา ถือว่ามาช่วยเราทำงานหนักๆหลายอย่างที่คนไทยไม่ทำแล้วในยุคนี้ ถ้าไม่มีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านมาช่วยทำละก็...การพัฒนาของเราซึ่งมีทั้ง “ไฮเทค” และ “โลว์เทค” ผสมผสานกันอยู่คงจะเคลื่อนไปข้างหน้าได้ยากดังนั้นการที่พี่น้องแรงงานเพื่อนบ้านซึ่งนับถือศาสนาพุทธเช่นเดียวกับเรา และออกมาไหว้พระตามวัดต่างๆในวันขึ้นปีใหม่พร้อมๆกับพวกเราชาวไทยจึงเป็นเรื่องที่ควรชื่นชมผมเรียนท่านผู้อ่านแล้วว่าผมมีความสุขทุกครั้งที่เห็นผู้คนแน่นวัดในช่วงปีใหม่หรือเทศกาลต่างๆ เพราะการเข้าวัดนั้นถือเป็นกุศล ยิ่งคนเข้ามากเท่าไรก็ยิ่งจะดีหรือเป็นกุศลมากขึ้นอีกเท่านั้นทำให้ผมเกิดความหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่า ปีนี้...ปีที่มีผู้คนเข้าวัดมากที่สุดปีหนึ่ง ทั้งคนไทยเราเองทั้งพี่น้องเพื่อนร่วมอาเซียนที่มาทำงานในบ้านเรา และนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาเป็นจำนวนมากนั้น จะเป็นปีที่ดีงามสมดังที่นักเศรษฐศาสตร์ทุกสำนักคาดไว้อย่างแน่นอนขอ “สวัสดีปีใหม่” ต้อนรับปีมะโรงงูใหญ่ หรือปีมังกรทองที่มีคนเข้าวัดเนืองแน่นเป็นประวัติการณ์อีกครั้งนะครับ.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ "เหะหะพาที" เพิ่มเติม