ความจริงเวลา 60 วัน หรือ 2 เดือนในการบริหารราชการแผ่นดินนั้นคงไม่สามารถที่จะนำมาวัดผลงานโดยรวมหรือเฉพาะตัวของแต่ละรัฐมนตรีได้ช่วงเวลามันสั้นเกินไป แค่โหมโรงเท่านั้นเองแต่นายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ตัดสินใจออกมาแถลงด้วยตัวเองแบบโชว์เดี่ยวไม่ให้นักข่าวสัมภาษณ์ คือแถลงเสร็จปึ๊บก็จบกันเลยพูดง่ายๆก็คือต้องการสื่อเพียงด้านเดียวเลือกวันก่อนวันแถลงเรื่อง “ดิจิทัลวอลเล็ต” งานใหญ่เพียงวันเดียว อ้างว่าไม่ต้องการให้ประชาชนสับสนเน้นเป็นเรื่องๆไปรูปการณ์ดูไม่ต่างไปจากเป็นการปูพื้นก่อนจะถึงงานจริงๆความจริงแล้วผลงานของรัฐบาลตามที่แถลงมานั้นคงจะให้คะแนนอะไรไม่ได้ เพราะเป็นงานรูทีนจากนโยบายที่ประกาศเอาไว้ อย่างลดราคาพลังงาน 20 บาทตลอดสายรถไฟฟ้า ก็เป็นเรื่องพื้นๆที่ไม่ยากเพียงแต่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลทำแล้วนะ...แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนหน่อยก็ตรงที่นายกรัฐมนตรีได้แสดงให้เห็นว่า เป็นคนที่มีแนวคิดแบบบูรณาการคือมองปัญหาแบบรอบด้านซึ่งเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง!อันหมายถึงว่าเป็นคนที่มองปรากฏการณ์ต่างๆอย่างครบเครื่อง ไม่ใช่แค่ด้านหนึ่งด้านใดเท่านั้นอันนี้แหละคือจุดเด่นของผู้นำแต่นั่นเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เพราะรัฐมนตรีที่ร่วมบริหารงานด้วยนั้นจะเป็นแบบนี้ อาจจะมีแต่คงไม่กี่คนอย่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฐานะตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุข ลักษณะงานเหมาะกับคุณสมบัติแต่แนวคิดดูจะไม่ใช่อย่างนั้น เพราะแค่เสนอไอเดียเรื่อง “ยาบ้า” กับการครอบครองจาก 5 เม็ด เป็น 10 เม็ด ถือเป็นผู้เสพไม่ใช่ผู้ค้าปรากฏมีเสียงคัดค้าน เพราะการแก้ไขปัญหายาเสพติดไม่ใช่ประเด็นนี้ อันแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีแนวคิดด้านบูรณาการแต่อย่างใดความยากง่ายในก้าวต่อไปก็คือ การทำอย่างไรให้รัฐมนตรีมีความคิดเชิงบูรณาการ เพื่อจะได้มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันที่บ่งบอกว่ามีความสามารถจริงๆไม่ใช่เป็นเพียง “รัฐมนตรี” ตั้งให้เต็มหรือมาจากโควตาเท่านั้นจริงๆแล้วหากจะวัดผลงานให้ชัดๆน่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 100 วัน หรือ 3 เดือน ที่ทำงานเป็นรูปเป็นร่างสามารถนำมาวัดได้ว่าแต่ละคนนั้นเป็นอย่างไร?รวมถึงตัวนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำด้วย เพราะการนำพาคณะรัฐมนตรีให้ทำงานเป็นทีมได้หรือไม่ มีงานใหม่ๆที่แสดงถึงความสามารถให้ปรากฏหรือไม่เพราะแค่ 2 เดือนนั้นคือการเดินทางไปต่างประเทศเท่านั้น นี่ก็เดินทางไปสหรัฐอเมริกาอีกแล้ว 12-19 พ.ย.66 หลายวันเสียด้วยแต่ก่อนจะไปได้ประกาศนโยบายประชานิยม “ดิจิทัลวอลเล็ต” ชัดเจนไปแล้วท่ามกลางความไม่แน่ใจว่าจะไปรอดหรือไม่เป็น “เดิมพัน” ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและความเป็นไปของรัฐบาล เป็น “ของร้อน” ที่ “เศรษฐา” รับมาจาก “เพื่อไทย” จะต้องการหรือไม่ต้องการก็ตามเพื่อแลกกับเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เพราะทุกอย่างล้วนมีราคา...ไม่ใช่ “ของฟรี”!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ "กล้าได้กล้าเสีย" เพิ่มเติม