คดีมือปืนยิงทิ้งนายตำรวจยศ พ.ต.ต.ต่อหน้าต่อตานายตำรวจอีก 25 คน ในงานเลี้ยงที่บ้านกำนันผู้มีอิทธิพล นอกจากจะเป็นคดีฆาตกรรมที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองแล้ว ยังบานปลายกลายเป็นคดีอื่นๆที่มีตำรวจเกี่ยวข้อง คณะนายตำรวจโดนสั่งย้ายทันที 25 คน และโดนหมายจับอีก 6 คนเป็นข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ให้ความช่วยเหลือมือปืนในการหลบหนีและทำลายหลักฐาน ส่วนนายประวีณ จันทร์คล้าย กำนันคนดังแห่งตำบลตาก้อง อ.เมืองนครปฐม ถูกจับกุมในข้อหาใช้คนอื่นฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่ให้การปฏิเสธพนักงานสอบสวนคัดค้านการให้ ประกันตัวเนื่องจากเป็นข้อกล่าวหาที่มีโทษ ถึงประหารชีวิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ผู้ควบคุมคดี ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่าตำรวจมีเส้นบางๆอยู่ ถ้าเส้นบางๆ ขาดเมื่อไหร่จะกลายเป็นโจรทันที เพราะยอมสยบเป็นลูกน้องของผู้มีอิทธิพล ส่วนตำรวจที่โดนข้อหาจะให้การโกหกอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์หลังจากเรื่องคดีอุกฉกรรจ์นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่าอาจมอบให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย จัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศ แต่ควรศึกษาบทเรียนในอดีตยุคเผด็จการ ครองเมืองมีการจับกุมกลุ่มคน “อันธพาล” มา “ขังลืม” ไว้ในเรือนจำโดยไม่ดำเนินคดีใดๆคำร้องของพนักงานสอบสวน ในการขอควบคุมตัวกำนัน ระบุว่าเป็นกำนันมา 9 ปี มีอำนาจสืบสวนในเขตพื้นที่ของตน แต่กลับกระทำตนเป็นผู้มีอิทธิพล มีความสนิทสนมกับตำรวจในหลายพื้นที่ สามารถโน้มน้าวชักชวนให้นายตำรวจผู้ใหญ่มาร่วมสังสรรค์ในโอกาสต่างๆและสนิทกับนักการเมืองนักวิชาการบางคนมองว่า เหตุที่ตำรวจตีสนิทกับผู้มีอิทธิพล เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกันในธุรกิจสีเทา เช่น ส่วยต่างๆ เพื่อแสวงหาความร่ำรวยร่วมกัน ฝ่ายตำรวจอาจต้องการสะสมความร่ำรวย เพื่อเบิกทางสู่ความก้าวหน้าหรือไม่ จะขัดต่อจริยธรรมตำรวจหรือไม่ แต่บางคนบอกว่าจริยธรรมตำรวจเป็นแค่กระดาษเปื้อนหมึกถ้าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย ปัญหาการทุจริตต่างๆจะหมดไปหรือไม่ ต้องติดตามดูกันต่อไป นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ประกาศว่ารัฐบาลจะสร้างความชอบธรรมในการ บริหารแผ่นดิน ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรม แสดงว่าขณะนี้ไม่มีนิติธรรมใช่หรือไม่.คลิกอ่านคอลัมน์ "บทบรรณาธิการ" เพิ่มเติม