นิทานที่เด็กๆรุ่นผมได้ฟังและฝังใจ คือในป่าหิมพานต์มีต้นมักกะลีผล ออกลูกเป็นผู้หญิงสวย มีอายุใช้งานได้เจ็ดวัน จึงมีพวกนักสิทธิ์พิทยาธร ฤาษีชีไพร ไปรอรุมชิงกันอยู่โคนต้นรู้แล้วก็เล่าต่อๆกันไป ไม่ได้จำแนกแยกว่าที่จริง นักสิทธิ์เป็นเทวดาพวกหนึ่ง พิทยาธรก็เป็นอีกพวกหนึ่งพวกนักสิทธิ์ทำท่าจะคล้ายไปทางฤาษี...มีเรื่องเล่าไปทาง ส่วนพวกพิทยาธรก็มีเรื่องเล่าไปอีกทางอาจารย์ ส.พลายน้อย รวบรวมเล่าไว้ในหนังสือ อมนุษย์นิยาย (สำนักพิมพ์รวมสาส์น พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ.2544) ว่า พิทยาธร มีอีกสองชื่อ เขจร และนภาจร ซึ่งแปลว่าเคลื่อนไปในอากาศ เวลาจะไปไหน แค่แกว่งพระขรรค์ ก็เหาะลิ่วปลิวไปได้ดังใจปรารถนาถ้าเป็นเพศหญิง เรียกพิทยาธรีเป็นบริวารพระอินทร์ มีที่อยู่เป็นวิมานอากาศอยู่บนยอดเขาวินธัย มีราชาของตนเอง เหาะเหินเดินอากาศได้ด้วยฤทธิ์ของพระขรรค์ซึ่งทำจากเหล็กกายสิทธิ์โดยปกติพวกพิทยาธรปากหวาน เจรจาพาทีรื่นหู จีบหญิงเป็นเมียได้ง่ายๆ จึงถูกเรียกอีกชื่อพวก “ปริยัม-วาท”แต่พวกพิทยาธรี คือพวกผู้หญิงไม่มีพระขรรค์ จึงต้องมีปีกหางช่วยให้เหาะได้...นางมโนห์รา ที่ถูกพรานยึดปีกหาง จึงถูกถวายให้เป็นชายาพระสุธน น่าจะเป็นพิทยาธรีนี่เองเรื่องของพิทยาธร นอกจากปรากฏในเรื่องแย่งมักกะลีผลแล้วก็ยังมีเรื่องแย่งเมียพิทยาธรด้วยกันในสมุทรโฆษคำฉันท์ พิทยาธรชื่อรณบุตร เหาะกลางอากาศเจอพิทยาธรธรรณาภิมุขกับเมีย เห็นเมียเพื่อนสวยถูกใจ ลองอ่านสำนวนฉันท์สักบท...“จึงร้องว่าเหวยมึงใคร อุ้มเมียมาในหนทางกูทักบมิหยุด...”อ่านคำฉันท์ พอแปลได้ว่า รณบุตรพิทยาธร โคตรนักเลงโต ประกาศทางเดินบนฟ้าเป็นของตัวเองพิทยาธรด้วยกัน มีฤทธิ์เดชเหมือนกัน ใครจะยอมยกเมียให้กันได้ง่ายๆ เรื่องของเรื่องก็ต้องรบกันรณบุตรเก่งกว่าชิงเมียเพื่อนไปได้ ธรรณาภิมุขถูกฟันหล่นแผละไปนอนบนดิน พระสมุทรโฆษพบเข้าช่วยรักษาแผลให้ พิทยาธรธรรณาภิมุขสำนึกคุณจึงถวายพระขรรค์ให้พระเอกมนุษย์สมุทรโฆษของเรา เมื่อได้พระขรรค์ กลายเป็นเทวดาเหาะได้ ไปด้วยประการฉะนี้เรื่องอื้อฉาวคาวๆสวาทของพวกพิทยาธร จึงมีเล่าสู่กันมาก พวกมนุษย์นั่นล่ะ เล่าๆกันไป ก็กลัวกันไป เป็นความเชื่อจริงจังทำนองว่า ลูกสาวบ้านไหนสวยๆ ระวังตัวไว้ให้ดี พิทยาธร จะเหาะเข้ามาหาทางหน้าต่างยิ่งเป็นสาวที่เข้าพิธีแต่งงาน ระหว่างการเข้าหอ รอฤกษ์ส่งตัวของเจ้าบ่าวนั้น ก็เชื่อกันว่าพิทยาธร บางหมู่บ้านเรียกเพชรพญาธร บางหมู่บ้านเรียก เพทยาธรทิดเพ็ด จะเหาะมาแอบบนขื่อหลังคาบ้านหาช่องทางเจาะไข่แดงเจ้าสาวก่อนเจ้าบ่าวให้จงได้นี่ไม่ใช่เรื่องเล่า หยอกเย้ากันเล่นๆ แต่เป็นความจริงๆถึงขั้น ต้องหาหมอผีมาอ่านโองการไล่มนต์หรือคาถาที่ใช้...อาจารย์ ส.พลายน้อย ก็อุตส่าห์ค้นมาบอกไว้ ดังต่อไปนี้“โอม พิทยาธร ขี่ม้าพอนมาซอกวอกซอกวอก ไม้ค้อนกูจะตอกหัวพิทยาธร”ให้อ่านมนต์ด้วยเสียงดังๆสามครั้งว่ากันว่าพิทยาธร จะทนตื๊อเกาะขื่อต่อไปไม่ไหว ต้องเหาะหนีเรื่องราวของพิทยาธร มีไม่มากนัก ในหนังสือ อมนุษย์นิยาย อาจารย์ ส.พลายน้อย ท่านรวบมาเขียนไว้ในบทนำ เป็นพวกเดียวกับ อัปสร ยักษ์ รากษส คนธรรพ์ กินนร ปิศาจ คุหยัก สิทธ (นักสิทธ์ิ) และภูตเรียกอมนุษย์ ก็จริง แต่ความจริง เป็นเทวดาพวกหนึ่ง แต่เป็นเทวดาระดับรองเพราะฉะนั้น เมื่ออ่านเรื่องไม่เข้าหลักเกณฑ์ศีลธรรมจรรยา...ก็ขอให้เข้าใจตรงกันว่าโดยปกตินิสัย พวกเทวดา เขาเป็นเช่นนี้เองอย่าไปเอากฎกติกาอะไรไปตีกรอบเขาไว้นักเลย.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ "ชักธงรบ" เพิ่มเติม