เป็นอันว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกเพื่อเลือก “ประธาน” ก็ผ่านไปด้วยดี แม้จะได้ตัวท่านประธาน ที่ผิดไปจากความคาดหมายในช่วงแรกๆแบบชนิดหน้ามือเป็นหลังมือก็ตามไม่ใช่ทั้งท่าน ส.ส.พิษณุโลก ปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่มีข่าวว่าพรรคก้าวไกลจะเสนอ และก็ไม่ใช่ทั้งอดีตรองประธานสภาสมัยที่แล้ว สุชาติ ตันเจริญ ที่มีข่าวลือว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอกลายเป็น ท่าน “วันนอร์” หรือ ท่านวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้า พรรคประชาชาติ นักการเมืองนํ้าดีรุ่นเก่าไปในที่สุดทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นผลมาจากการเจรจาต่อรองจากตัวแทนของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยนั่นเอง เพื่อหลบเลี่ยงความแตกหักที่อาจเกิดขึ้นได้...หากทั้ง 2 พรรคยังยืนกรานในข้อเสนอดั้งเดิมของตนซึ่งส่วนหนึ่งของผลการเจรจาต่อรอง นอกจากจะเสนอคนนอก ห หรือคนกลางมาเป็นประธานสภาดังกล่าวแล้ว ก็ยังตกลงกันได้ในตำแหน่งรองประธานทั้งอันดับ 1 และอันดับ 2 ที่ออกมาเป็นของพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยตามลำดับแม้กูรูทางการเมืองส่วนใหญ่จะมองว่าผู้ชนะที่แท้จริงของการเลือกประธานสภาครั้งนี้ก็คือพรรคเพื่อไทยนั่นเอง เนื่องจากท่านวันนอร์นั้น โดยประวัติก็เป็นคนสนิทชิดเชื้อของอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณ ทักษิณ ชินวัตร มาหลายปีดีดักบ้างก็ว่าพรรคประชาชาติของท่านวันนอร์ก็คือพรรค “แบงก์ย่อย” ที่แตกออกจากพรรค “แบงก์ใหญ่” หรือพรรคเพื่อไทยนั่นเอง ย่อมมีสายสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยอย่างลึกซึ้งส่งผลให้การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้พรรคเพื่อไทยกินรวบ ได้ทั้งตำแหน่งประธานสภาและรองประธานอันดับ 2 ทำให้สามารถควบคุมการประชุมสภาอย่างได้เปรียบเหนือพรรคก้าวไกลนับแต่นี้ไปแต่สำหรับผมเองไม่คิดลึกอะไรมากมาย เพราะมองที่ตัวบุคคลและอุดมการณ์ของบุคคลนั้นๆเป็นหลัก เมื่อประจักษ์มาตลอดว่าท่านวันนอร์เป็นคนดีคนหนึ่งของแผ่นดิน และเคยดำรงตำแหน่งด้านบริหารมาก็หลายตำแหน่งโดยไม่มีประวัติด่างพร้อยที่สำคัญเป็นที่ประจักษ์ว่าท่านรักและเทิดทูนระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขทั้งตลอดมาและตลอดไป เช่นนี้ ผมก็ถือว่าเป็นโชคดีของประเทศไทยที่ได้ท่านมาดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของบรรยากาศทางการเมืองที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่จากนี้ไปก็มารอกันว่าผลการเลือกนายกรัฐมนตรีจะออกมาอย่างไร? โดยเฉพาะแคนดิเดตคนที่ 1 ที่จะเสนอชื่อโดยพรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1 คือ นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะได้รับคะแนนจากที่ประชุมรัฐสภาเกินกว่ากึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภาหรือไม่?จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงเวลานั้น คงต้องรอลุ้นกันต่อไปขณะที่ผมเขียนต้นฉบับนี้ยังต้องรอขั้นตอนการนำรายชื่อประธานสภาท่านใหม่ขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้ง จากนั้นเมื่อเรียบร้อยแล้วท่านประธานฯก็คงจะได้นัดหมายประชุมสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีตามลำดับผมจึงยังไม่อยากคิดไกลให้กลัดกลุ้ม จนเกิดภาวะจิตตกไปเสียเปล่าๆอย่างที่ผมอ้างถึงข้อเสนอแนะของกูรูด้านเศรษฐกิจ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล เมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าเป็น “โค้งอันตราย” ที่ถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง จึงอยากเห็นการเมืองไทยนิ่ง และมีรัฐบาลหรือผู้นำที่จะนำประเทศไทยของเราผ่านโค้งอันตรายไปได้อย่างปลอดภัยไม่ใช่กูรูท่านนี้เพียงท่านเดียวที่ห่วง เท่าที่ติดตามข่าวการวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจโลกจากกูรูอื่นๆก็ล้วนเป็นไปในทำนองเดียวกันผมจึงไม่อยากคิดอะไรไปไกลนักอย่างที่ว่า...ขอคิดใกล้ๆแบบวันต่อวันต่อวันไปก่อน...และถือว่าในช่วง 2-3 วันนี้ ซึ่งเป็นช่วงเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้นเป็นช่วงที่ดีงาม จบลงอย่างสวยงาม ก็ขอตักตวงความสุขเอาไว้ก่อนว่างั้นเถอะขอแสดงความยินดี และขอต้อนรับท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภาคนใหม่ ท่านวันมูหะมัดนอร์ มะทา ไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่งนะครับ.“ซูม”