บ้านเมืองสมัยโบราณ ไม่ต้องเลือกตั้งผู้นำให้มากเรื่อง นอกจากเป็นเพราะราชรถมาเกยแล้ว ยังมีผู้นำที่เป็นด้วยความไม่เต็มใจ เจ้าของไร่ ชื่อนายแตงหวาน พระราชาขโมยแตงเขากิน ต้องเป็นพระราชาแทนอีกหนึ่งผู้นำ ได้ตำแหน่งมาแบบไม่เหมือนใคร ผมเพิ่งอ่านเจอในหนังสือ “(30 ชาติในเชียงราย บุญช่วย ศรีสวัสดิ์ สำนักพิมพ์ศยาม พิมพ์ครั้งที่ 9 พ.ศ.2557) หัวข้อเรื่อง ไทยเขินชาวไทยเขิน เป็นพลเมืองส่วนใหญ่ในเมืองเชียงตุงของพม่า ประวัติเมืองคงพอได้อ่านกันบ้าง แต่เรื่องต่อไปนี้ เป็นเรื่องเก่าแก่ ระดับตำนาน เล่าขานต่อๆกันมาครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว ยังมีหนุ่มเลี้ยงวัวคนหนึ่ง เป็นคนใจโอบอ้อมอารี ตอนกินอาหารมื้อกลางวัน มีกาบินมาร้องกาๆๆ หนุ่มก็แบ่งอาหารให้กิน กาเห็นหนุ่มใจดี ก็เรียกเพื่อนๆมา หนุ่มมีอาหารเท่าไหร่ ก็โยนให้หมดเลี้ยงกาหลายๆวัน กาสำนึกบุญคุณก็ถาม “ชีวิตท่าน ปรารถนาสิ่งใด” หนุ่มตอบ “อยากได้เป็นพระราชา”อีกาแยกย้ายบินไปยังเมืองต่างๆ ทุกเมืองมีพระราชาครอง จนไปถึงเมืองปะจันตะคาม เจ้าเมืองเพิ่งตาย และยังหาผู้สืบทอดตำแหน่งไม่ได้ ชาวเมืองปรึกษา “คนต่างเมืองคนไหนก็ได้ ถ้าก้าวเข้า “หอคำ” จะยกตำแหน่งให้”กาส่งสัญญาณเรียกพวกพ้อง บินไปหาหนุ่มเลี้ยงวัว ถามว่า “ถ้าได้เป็นพระราชา ขอเนื้อวัวปีละหนึ่งตัวได้หรือไม่” “ข้าจะไม่ให้เนื้อวัวพวกเจ้าปีละหนึ่งตัว” หนุ่มเลี้ยงวัวว่า“แต่ข้าจะหาเนื้อวัวให้พวกเจ้ากินวันละหนึ่งตัว”กาตกลง แนะให้หนุ่มตัดหวายฝ่าสานให้เป็นซองขนาดตัวคน ทิ้งปลายซองเป็นเส้นเชือก หนุ่มทำตาม กาทั้งฝูงรวมกันหนึ่งพันตัว ช่วยกันเอาปากจิกปลายซองที่เจ้าหนุ่มอยู่ บินขึ้นฟ้าพาไปถึงหอคำ เมืองปะจันตะคามหนุ่มคนยากจึงเปลี่ยนฐานะ เป็นพระราชาผู้โอ่อ่าอัครฐาน ไปทันทีแต่ราชกิจของพระราชาองค์ใหม่ แปลกกว่าพระราชาองค์ก่อน ราษฎรมีภาระจะต้องล้มวัวให้ฝูงกาหนึ่งพันกินวันละตัวตอนแรกๆ ก็ทำกันไปได้ แต่พอนานวันเข้า ราษฎรเริ่มไม่เห็นประโยชน์ของการฆ่าวัวให้กากิน พอๆกับรังเกียจกาฝูงใหญ่ดำมืด รุมจิกกินเนื้อควาย ดูไม่เป็นมงคลกับบ้านเมืองไม่นานพระราชาเองก็เบื่อ...เลิกสั่งให้หาวัวควายให้กากิน กาโกรธแต่เก็บอาการ ได้โอกาสก็เข้าไปบอก ยังมีเมืองอีกเมืองใหญ่ ข้าวปลาอาหารสัตว์เลี้ยงบริบูรณ์ทุกอย่าง แต่อยู่ไกลสุดขอบฟ้า“ท่านสนใจ จะเป็นพระราชาเมืองใหญ่หรือไม่” กาถามพระราชาปะจันตะคาม ตอบทันที “อยากเป็น”กาได้ทีขอให้พระราชาใช้แม่ไม้เก่า สั่งคนฝ่าหวายทำซองขนาดตัวคน ให้พระราชาสอดตัวเข้าไปอยู่ในซองอีกสักที แต่คราวนี้กาไม่คาบซองพระราชาไปเมืองใหญ่อย่างที่ว่ามันบินไปไกลสุดขอบฟ้า ทิ้งพระราชาไว้ที่เกาะเล็กๆกลางมหาสมุทรใหญ่เมื่อสิ้นพระชนม์ ดวงวิญญาณพระราชาผูกพันกับเมืองปะจันตะคาม จึงล่องลอยกลับ แต่เมืองหายไป มีแต่บึงน้ำขนาดใหญ่ วิญญาณพระราชาหาที่เกิดไม่ได้ จึงต้องเข้าไปเกิดในท้องปู กลายเป็นปูทองเหตุที่เมืองปะจันตะคามหายสาบสูญ เพราะฝูงกาโกรธแค้น พระราชาไร้สัจจะ จึงสาปแช่งให้น้ำท่วมใหญ่ เป็นเหตุให้เมืองทั้งเมืองกลายเป็นบึงต่อมามีพระฤาษีตุงกะระ ใช้ไม้เท้าวิเศษชี้ให้ภูเขาที่มีเป็นช่องกั้นน้ำพังทลาย น้ำในบึงจึงระบายออกจนเหลือแผ่นดินแห้ง ผู้คนก็พากันหลั่งไหลมาอาศัย จนเป็นเมืองอีกครั้ง ครั้งนี้เมืองชื่อ ”เชียงตุง“ ตามชื่อฤาษีตุงกะระอ่านตำนานเมืองเชียงตุงแล้ว ผมใจคอไม่ดีแทนบ้านเมืองใกล้ๆ พวกผู้นำเปลี่ยนคำพูดตามฤดู การเมืองมีสามฤดู เขาหาเรื่องเปลี่ยนเผ่าเปลี่ยนพรรคสามครั้ง โชคดี! เมืองแถวนั้นไม่มีอีกา.กิเลน ประลองเชิง