ยังอยู่ในบรรยากาศกลิ่นอาย เดือนแห่งความรัก นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บอกว่า เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ “วันวาเลนไทน์” ที่ผ่านมา...“สปสช.” ได้ส่งมอบความรักและความ ปรารถนาดีในการดูแลสุขภาพให้กับคนไทยทั่วประเทศ สำหรับผู้ใช้ “สิทธิบัตรทอง” โดยจับมือกับเมืองพัทยา ร่วมกับกรมควบคุมโรค...กระทรวงสาธารณสุข เปิดตัวโครงการ “เลิฟปัง รักปลอดภัย แก้ปัญหาท้องไม่พร้อม ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์แจกยาคุมกำเนิดและถุงยางอนามัยที่จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการป้องกัน นำไปสู่การแก้ปัญหา “ท้องไม่พร้อม” โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งนี้ยังนับรวมไปถึงบริการคุมกำเนิดด้วยวิธีต่างๆ เช่น การใส่ห่วงอนามัย ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน น่าสนใจด้วยว่าในปีนี้ สปสช.ได้พัฒนารูปแบบการบริการที่เพิ่มความสะดวกการรับถุงยางอนามัยด้วย...“ตู้จ่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติ”เบื้องต้น สปสช. ได้จัดเตรียม “ถุงยางอนามัย” เพื่อให้บริการแล้วจำนวน 94,566,600 ชิ้น มี 4 ขนาดด้วยกัน เพื่อให้ประชาชนเลือกใช้อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพในการป้องกันฝากประชาสัมพันธ์บอกกล่าวกันให้รู้ว่า “ผู้ใช้สิทธิบัตรทอง” สามารถรับบริการได้ 2 ช่องทาง คือ ช่องทางแรกลงทะเบียนบนแอปพลิเคชัน เป๋าตัง และเข้ารับถุงยางอนามัยที่หน่วยบริการใกล้บ้านที่ท่านเลือก นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารีย้ำว่า...ช่องทางนี้ยังเป็นช่องทางเข้ารับบริการสิทธิประโยชน์คุมกำเนิดด้วย โดยกรณีผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถนำบัตรประชาชนไปลงทะเบียนขอรับบริการได้ที่หน่วยบริการถัดมา...ช่องทางที่สอง คือการรับถุงยางอนามัยที่ตู้จ่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติ วิธีนี้ง่ายและสะดวก เพียงใช้บัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดยืนยันตัวตนเท่านั้นปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เสริมว่า ยุทธศาสตร์และแนวทางพัฒนาของเมืองพัทยา การคุ้มครอง...ป้องกันจากปัญหาโรคระบาด โรคอุบัติใหม่ และโรคอุบัติซ้ำ เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญนอกจากนี้ปัญหาโรคติดต่อทาง “เพศสัมพันธ์” ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวทุกคน“การดูแลเพื่อให้เข้าถึงบริการป้องกันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น รวมถึงกรณีปัญหาท้องไม่พร้อม เมื่อ สปสช.มีสิทธิประโยชน์บริการถุงยางอนามัยและบริการคุมกำเนิดที่ประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทางเมืองพัทยาก็พร้อมสนับสนุนการดำเนินการในพื้นที่อย่างเต็มที่”เรามุ่งหวังให้ผู้ใช้สิทธิบัตรทองในเมืองพัทยาเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึง โดยในส่วนของ “ตู้จ่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติ” เมืองพัทยาเองมีความยินดีที่ได้เป็นพื้นที่นำร่อง เบื้องต้นได้ติดตั้งแล้วใน 2 พื้นที่ ได้แก่ อาคารท่าเรือแหลมบาลีฮาย กับที่โรงพยาบาลเมืองพัทยา และในอนาคตอาจมีการติดตั้งในพื้นที่อื่นๆต่อไป“เรื่องนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์กับประชาชนโดยตรง” ปรเมศวร์ ว่า “ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ในเชิงการท่องเที่ยว สะท้อนถึงความใส่ใจของหน่วยงานภาครัฐและเมืองพัทยาต่อการดูแลสุขอนามัยของประชาชน” ประเด็นด้านเทคนิค ดร.วชิรธร คงสุข กรรมการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) อธิบายว่า เราได้ร่วมกับ สปสช. พัฒนาระบบการแจกถุงยางอนามัยผ่านตู้อัตโนมัติ โดยนำนวัตกรรมในการจำหน่ายสินค้า อุปโภค บริโภค ผ่านเครื่องอัตโนมัติของบริษัทมาปรับกระบวนการเพื่อให้บริการให้สอดคล้องกับ “นโยบาย” และ “หลักเกณฑ์” ของ สปสช. ถือได้ว่า...เป็นอีกหนึ่งช่องทางเลือกให้กับประชาชนผู้มีสิทธิประโยชน์ “บัตรทอง 30 บาท” สามารถเข้าถึงสิทธิการรับถุงยาง โดยได้รับการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง“เรามองถึงประโยชน์ของช่องทางในการให้บริการแจกถุงยางผ่านตู้อัตโนมัติ ถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาและตอบโจทย์อุปนิสัยส่วนตัวของคนไทย ที่ส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้ามาขอรับถุงยางอนามัยผ่านเครือข่ายสถานพยาบาลที่ให้บริการในปัจจุบัน”ในอนาคตการแจก “ถุงยางอนามัย” ผ่านตู้อัตโนมัติ เรามีแผนที่จะกระจายตู้แจกถุงยางอัตโนมัติ ไปยังแหล่งชุมชนและพื้นที่สำคัญๆ กระจายไปยังทั่วประเทศจำรอง แพงหนองยาง รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) บอกว่าโครงการนี้เป็นเรื่องดีที่หน่วยงานภาครัฐได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ที่สำคัญคือ...ความตั้งใจในการพัฒนาระบบบริการเพื่อให้เกิดการเข้าถึงที่ง่ายและสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “การรับถุงยางอนามัยผ่านเครื่องจ่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิประโยชน์คุมกำเนิดอื่นๆในระบบ สปสช. ที่ขอรับบริการได้ผ่านแอปเป๋าตัง ภาพรวมมองว่าดีแต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์ประชาชนทุกกลุ่ม”อย่าง...กลุ่มพนักงานบริการ ก็อยากให้มีบริการถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิดที่ไม่ต้องแสดงบัตรประชาชนหรือเปิดเผยตัวตน เพราะแม้แต่การจ่ายผ่านตู้อัตโนมัติก็ต้องใช้บัตรประชาชนยืนยัน ถือเป็นข้อจำกัดสำหรับจำนวน 10 ชิ้นต่อครั้งต่อสัปดาห์นั้นมองว่าเป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้วปิดท้ายด้วยประเด็นย้อนแย้งที่ว่าการแจกถุงยางจะเป็นการสนับสนุนให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์หรือไม่? จำรอง บอกว่า คงแล้วแต่มุมมอง แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นการ “เตรียมพร้อม” และ “ป้องกัน” มากกว่านพ.อภิรัต กตัญญุตานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ย้ำว่า บริการถุงยางอนามัยและบริการคุมกำเนิด เป็นบริการสุขภาพที่จำเป็นที่นำไปสู่การป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณสุขไม่ว่าจะเป็นกรณีท้องไม่พร้อม หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาทิ โรคซิฟิลิส หนองใน หนองในเทียม กามโรคต่อมและท่อน้ำเหลือง และแผลเริมอ่อน เป็นต้น การที่ สปสช.บรรจุสิทธิประโยชน์เหล่านี้ในระบบบัตรทอง 30 บาท ได้ช่วยให้คนไทยมีสิทธิรับบริการและเข้าถึงบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่สำคัญ...ยังเป็นการสนับสนุนงานควบคุมโรคของหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ให้สำเร็จและบรรลุเป้าหมายกระทรวงสาธารณสุข มุมมองปิดท้ายจาก ธีรศักดิ์ ประสานพิม ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักระบบบริการสุขภาพพื้นที่ 2 สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย สำนักงานชลบุรี เขาบอกตรงๆว่า รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากๆที่ได้เห็นรูปแบบการเข้าถึงถุงยางอนามัยได้อย่างง่าย ที่ผ่านมาสมาคมทำงานกับกลุ่มความหลากหลายทางเพศทั้งเดินแจกถุงยาง การจัดค่ายทักษะชีวิตพิเศษเพื่อขยายตัวแทนในการแจกจ่ายถุงยางอนามัยลงไปในชุมชน การมี Drop In Center ในองค์กรชุมชนต่างๆ และในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาก็พัฒนาระบบบริการที่เรียกว่าคอนดอมดีลิเวอรีให้คนที่มีไลน์ส่งข้อความเข้ามาขอรับถุงยางอนามัย“การกระจายถุงยางอนามัยแม้จะยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่ก็เพิ่มโอกาสการเข้าถึง ถือเป็นหมุดหมายที่ดีว่าทุกคนจะสามารถเข้าถึงถุงยางได้ ในอนาคตคงจะมีตู้แบบนี้หลายๆจุดในทุกจังหวัด รวมถึงหน่วยบริการของ สปสช. ไม่ว่าเป็นที่...ร้านยา หรือในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล”.