ในสายตาคนเรืออวน ที่วนเวียนหาปลาใกล้ๆเกาะตะรุเตา ราวๆปี 2507 นั้น หลีเป๊ะเป็นเกาะเล็กเรี่ยน้ำซ่อนซ้อนอยู่หน้าอาดัง เกาะลูกใหญ่ ท่ีมีภูเขาสีเทาทะมึน...เราเรียก อาดังหลีเป๊ะ ฟังดูเป็นเกาะเดียวปี 2510 ผมเป็นทหารเรือกรมอุทกศาสตร์ งานรับข่าวทางโทรพิมพ์ ภารกิจ ร.ล.จันทร สมเด็จพระศรีนครินทร์ เสด็จเกาะหลีเป๊ะ พระราชทานนามสกุลให้ชาวเลหลายครอบครัว เท่าที่จำได้ ทะเลลึก หาญทะเลปี 2531 ผมเขียนเรื่อง หมาด หาญทะเล อายุ 21 ชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ถูกจับข้อหาฆ่าเจ้าหน้าที่กองอุทยานฯ ตอนนั้นยังสังกัดกรมป่าไม้ ผมสงสัย หมาด คนเดียวอายุเกิน 20 กับน้องๆอีกอายุไม่ถึง 18 ปี อีกสี่ห้าคนพวกเขามีปืนแก๊ปกระบอกเดียว...ยิงสู้เจ้าหน้าที่ที่มีปืนเอ็ม 16 1 กระบอก ปืนลูกซองทันสมัย 2 กระบอก ตาย 2 เจ็บ 4 คนได้ยังไง? ข่าวที่นักข่าวสตูลส่งมา หมาดอยู่ในเรือพร้อมอุปกรณ์ระเบิดปลาต่อมารู้ความจริงว่า ชาวเลปิดเกาะยิงปะทะเจ้าหน้าที่ เพราะทนการตามจับสารพัดข้อหาไม่ไหวผมทำนายชะตากรรม หมาด หาญทะเล ล่วงหน้า น่าจะมีคนเก่ง บนฝั่งสักคน ช่วยไม่ให้เขาเข้าหลักประหารเหตุปะทะหักหาญหนนั้น ชาวเลลี้ภัยหนีจากหลีเป๊ะไปอยู่เกาะอื่นจำนวนหนึ่ง เลือกเกาะลังกาวีของมาเลเซียที่อยู่ใกล้ ได้ข่าวว่า บ้านเมืองนั้น อุ้มชูดูแลดีกว่า ถึงวันนี้ลงหลักปักฐานกันมั่นคงเหมือนหนุ่มๆซาไก ที่ธารโต ยะลา เหมือนหนุ่มสาวมุสลิมสามจังหวัดชายแดนใต้ เลือกไปทำกิน สร้างตำนานต้มยำกุ้ง เพราะรายได้บ้านใกล้ดีกว่าบ้านเกิดนึกถึงสำนวน ไปเสียนา มาเสียเมีย ช่วงที่หนุ่มไทยไปขุดทองซาอุดีอาระเบีย ผมอายแทนคนในรัฐบาล เรามีสองมือสองเท้า แต่เหตุไฉน สมองเล็กกว่าคนในรัฐบาลบ้านเมืองอื่นผมยังตามข่าวชาวหลีเป๊ะต่อ อาจารย์สมเกียรติ อ่อนวิมล ทำสารคดีทะเลไทย...ได้ยินคำเรียกชาวหลีเป๊ะใหม่ เป็น อูรักลาโว้ย...ขณะนั้น เขาฝากชีวิตไว้ในเรือลำเล็ก ลอยหน้าชายหาดบริเวณบ้านคนอื่นย้อนนึกถึงชะตากรรมหมาด หาญทะเล มาถึงวันนั้น วิถีของชาวเล ยังไม่มีวี่แววดีขึ้น มิหนำซ้ำยิ่งตกต่ำจนถึงสถานการณ์ล่า ทางเดินไปโรงเรียนของเด็กๆถูกปิด วิถีชีวิตการทำมาหากิน ชาวเลถูกเบียดบัง ด้วยวิถีของธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งแน่ล่ะ... ย่อมไม่ใช่ธุรกิจ ที่คนเผ่าเจ้าของชื่อเกาะเข้าไปมีส่วนได้ผมดูข่าวทีวีช่องไทยพีบีเอส...มีองค์กรเอกชนไม่น้อยเข้าไปช่วย ข้อสรุปจากนายพลทหาร ที่เป็นคุณแก่ชาวเลหลีเป๊ะ มีออกมานาน แต่มีมือที่มองไม่เห็นมาสะกดไว้ทางออกที่ถูกปิด ผลักดันให้ชาวเลหลีเป๊ะดิ้นรนมาร้องขอความเป็นธรรมถึงทำเนียบฯเพื่อนรักจากเกาะหลีเป๊ะ ที่ผมเคยหมายตาไว้เมื่อวัยรุ่น วันนี้ยังไม่เคยไปถึง มาไกลจนใกล้ตัวพยายามฟื้นความหลัง ชาวเลหลีเป๊ะนี่แหละ มีคุณหนักหนาให้แผ่นดินไทย...สมัยนักล่าอาณานิคมแยกดินแดน ฝรั่งจะเอา ปะลิส ไทยบุรี กลันตัน ตารังกานู ไปให้มาเลเซียบ้านเจ๊ะเห นราธิวาส คนไทยพูดไทยสำเนียงสุโขทัย เป็นหลักฐานสำคัญ ฝรั่งบยอมรับขีดเส้น แยกดินแดนอีกฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก ให้เป็นของไทยมาถึงเส้นแบ่งทางทะเลอันดามัน เกาะลังกาวี เป็นของมาเลเซีย เกาะตะรุเตาเป็นของไทย...เอาร่องน้ำระหว่างสองเกาะนี้ขีดเป็นเส้นตรงออกไป เกาะอาดังหลีเป๊ะ อยู่ในน่านน้ำมาเลเซียแต่เพราะมีชาวเลหลีเป๊ะ แสดงตนเป็นคนไทย ฝรั่งจึงต้องขีดเส้นใหม่ เส้นตรงจึงหักเหเบนออกไป เราจึงได้อาดังหลีเป๊ะและน่านน้ำในรัศมีแถวนั้นไว้ จนถึงวันนี้ท่านนายกฯประยุทธ์ ครับ เรื่องที่ผมเล่า ไม่เลื่อนลอย สั่งเจ้าหน้าที่ค้นหาเอกสารหลักฐาน ก็เจอผมอยากเห็นท่าน ถือช่อดอกไม้ไปยื่นให้ เพื่อนรักจากทะเลใต้ ขอบคุณในคุณูปการอันยิ่งใหญ่ในอดีต...ส่วนเรื่องข้อพิพาทนั้น ไม่ต้องฟังรายงานจากบิ๊กโจ๊กให้เสียเวลา ใช้หัวใจก็ตัดสินได้แล้ว.กิเลน ประลองเชิง