พท.โต้ปัดแจกเสื้อ จ่ายเงินจ้างคนมาร่วม “ไล่หนูตีงูเห่า” บอก คนศรีสะเกษตื่นตัวหลังห่างหายบรรยากาศหาเสียงมานาน โวยยังไม่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งไม่ผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง “ตรีชฎา” จวกลิ่วล้อ “ลุงตู่” มโนใส่ร้าย “อุ๊งอิ๊ง” ด้าน “น้องแรมโบ้” ส่งไม้ต่อ “สนธิญา” ร้อง กกต.ฟัน พท. “ธนกร” ย้อน 8 ปี พท.ไปดูตัวเองทำอะไรไว้ หยันถึงเวลาจริงข้อมูลฝ่ายค้านไม่เด็ดจริง “ประเสริฐ” แจงชื่อ “สุชาติ” ติดโผเชือดตลอด เหน็บรีบโวยวายกลัวแต้มขี้เหร่ “ชัยวุฒิ” ดักคอไม่ถูกต้องขย่มเรื่องส่วนตัว กังวลพรรคเล็กโหวตสวน แบะท่าเจรจา “พิเชษฐ” “เทือก” ต้านนายใหญ่ส่งลูกสาว นั่งนายกฯ ฝันอยากเห็นทุกฝ่ายจับมือกู้วิกฤติชาติ “ม็อบไล่ตู่” ไปไม่ถึงหน้าบ้านนายกฯใน ร.1 ทม.รอ. คฝ.ตั้งแนวสกัดเข้มบล็อกอยู่แยกดินแดงกรณีน้องชายนายเสกสกล อัตถาวงศ์ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุจะยื่นร้อง กกต. เอาผิดพรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรมไล่หนู ตีงูเห่า ที่ จ.ศรีสะเกษ มีการซื้อเสียงล่วงหน้า แจกเสื้อและจ่ายเงินเกณฑ์คนฟังปราศรัย ที่ จ.ศรีสะเกษ ขณะที่พรรคเพื่อไทยยืนยันไม่ได้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และขณะนี้ยังไม่มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง พท.โต้ “ไล่หนูตีงูเห่า” ไม่ผิดกฎหมายเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีนายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น้องชายนายเสกสกล อัตถาวงศ์ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขู่ร้อง กกต. เอาผิดพรรค พท. ลงพื้นที่หาเสียง ล่วงหน้า ที่ จ.ศรีสะเกษ อ้างมีการเกณฑ์คนไปฟังปราศรัยโดยจ่ายเงินค่าจ้างและแจกเสื้อว่า พรรคไม่ได้ ทำอะไรผิด ยังไม่มีการเลือกตั้งจะผิดกฎหมายเลือกตั้งได้อย่างไร และไม่มีการขนคนมาฟังการปราศรัยโดยให้ค่าจ้าง เหตุที่คนมาฟังปราศรัยเป็นหมื่นๆคน เพราะห่างหายจากบรรยากาศการหาเสียงแบบนี้มานาน จึงตื่นตัวมาฟังปราศรัยจำนวนมาก มาด้วย ความสมัครใจ ไม่ใช่เฉพาะแค่ชาวศรีสะเกษ แต่มีประชาชนจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมฟังปราศรัยจำนวนมาก พรรคเพื่อไทยพร้อมชี้แจงต่อ กกต. อย่าไปคิดมาก ไม่มีการทำผิดกฎหมายแน่นอนแจงชื่อ “สุชาติ” ติดโผเชือดตลอดนายประเสริฐกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ระบุการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้ วางใจรัฐมนตรีของพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นญัตติเถื่อน เพราะไปเพิ่มชื่อรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายเป็น 11 คน จากเดิม 10 คน โดย ส.ส.ที่เข้าชื่อยื่นอภิปรายไม่รู้ ล่วงหน้าว่ายืนยันการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านทำถูกต้องทุกขั้นตอน ไม่ได้เป็นอย่างที่ นายสุชาติกล่าวหา ชื่อนายสุชาติอยู่ในโผถูกยื่นซักฟอก ตั้งแต่รอบแรกๆที่มีเสนอชื่อเข้ามา 13-14 คน แต่ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่ามากเกินไป อยากให้เอาเฉพาะคนที่มีหลักฐานชัดเจนจริงๆ การมีรายชื่อ รัฐมนตรี 10 คนที่จะถูกยื่นซักฟอกตอนนั้น ก็ยังไม่นิ่ง ชื่อนายสุชาติก็เข้าๆออกๆตลอดเวลา แต่สุดท้ายเมื่อผู้อภิปรายยืนยันจะอภิปรายและที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านก็เห็นด้วย จึงใส่ชื่อนายสุชาติเข้าไปเป็นคนสุดท้าย สามารถทำได้ตราบใดที่ยังไม่ยื่นญัตติต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรออกตัวโวยวายกลัวแต้มขี้เหร่นายประเสริฐกล่าวต่อว่า ส่วนที่อ้างว่า ส.ส. ที่เข้าชื่อยื่นญัตติเข้าใจว่ามี ส.ส.ถูกยื่นอภิปรายแค่ 10 คน ไม่ใช่ 11 คน ตอน ส.ส.ลงชื่อไม่มีใครทราบ จะมีรัฐมนตรีคนใดถูกยื่นอภิปรายบ้าง ต้องเก็บรายชื่อ ผู้ถูกอภิปรายเป็นความลับ ไม่ให้ข้อสอบรั่วไหล กลัวจะมีการเจรจาให้ถอนชื่อหรือให้อภิปรายเบาๆ ชื่อที่จะยื่นอภิปรายตอนนั้นยังไม่นิ่งจะมีแค่ 10 คน หรือไม่ ยืนยันตอน ส.ส.ลงชื่อทุกคนไม่รู้จะมีกี่คนถูกยื่นอภิปราย เพราะชื่อยังไม่ชัดเจน จะทราบชัด คือตอนยื่นชื่อต่อประธานสภาฯ แต่ทุกคนรู้ว่าจะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่ ญัตติการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจะสมบูรณ์ ไม่สามารถแก้ไขได้ต่อเมื่อ ประธานสภาฯรับญัตติไปแล้วเท่านั้น แต่ก่อนยื่นญัตติ อย่างเป็นทางการจะเพิ่มหรือลดรายชื่อเป็นการคุยกัน ระหว่างพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายสุชาติเดินเกมเช่นนี้ ไม่รู้เพราะอะไร หากกลัวจะได้คะแนนอภิปรายน้อยที่สุดแล้วอาจถูกปรับออกจาก ครม. ไม่น่าจะใช่ เพราะ เป็นคนใกล้ชิดนายกฯ โอกาสถูกปรับออกคงยาก แต่ถ้าได้แต้มน้อยเกินไปคงดูไม่สวยเท่าไรซัด “เฮ้ง” เลิกดิ้นไปเตรียมคำตอบนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อกล่าวหาของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ไม่เป็นความจริง ไม่ใช่ญัตติเถื่อนตามที่กล่าวหา วันที่ 15 มิ.ย. ก่อนยื่นอภิปรายญัตติยังไม่สมบูรณ์ 100% ตอนที่ ส.ส.ฝ่ายค้านลงชื่อ รู้แค่มี ส.ส.ถูกยื่นซักฟอกหลายคน แต่ไม่ทราบจำนวนแน่ชัด กี่คน ถึงชื่อนายสุชาติจะเข้ามาเป็นคนที่ 11 ทำได้ ปรับเพิ่มหรือลดได้ก่อนยื่นญัตติเป็นทางการ รอบที่แล้ว ชื่อนายสุชาติเข้ามาเป็นคนสุดท้ายเช่นกัน ยื่นร้องเรียนทำได้ แต่คงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงอะไรได้ มั่นใจไม่ได้ ทำผิดขั้นตอน หากผิดขั้นตอนก็แค่ยื่นใหม่ เสียเวลาไปเล็กน้อยเท่านั้น นายสุชาติไม่ควรกังวล ไม่ต้องดิ้น ควรเอาเวลาไปรวบรวมตอบคำถามดีกว่า จวกลิ่วล้อลุงตู่มโนใส่ร้าย “อุ๊งอิ๊ง”น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พูดบนเวทีคือความจริง มุ่งมั่นนำแนวนโยบาย แนวความคิดใหม่ๆ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น ไม่ต้องจมปลักอยู่กับความจน จากการบริหารราชการผิดพลาดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ การเข้าสู่การเมืองของ น.ส.แพทองธารเป็นความ ปรารถนาดีต่อบ้านเมือง ไม่เคยคิดหวังล้างคดีให้นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายชนะศักดิ์ไม่ควรโหนกระแสพรรค พท.ลงพื้นที่ มีประชาชนมาร่วมงานกันมาก เกิดจากกระแสความนิยมต่อพรรค ที่มุ่งหวังพรรคคือที่พึ่งหวังยามบ้านเมืองสิ้นหวัง นายชนะศักดิ์จะชอบพรรคใดเป็นสิทธิ ไม่ควรปรามาสดูหมิ่นด้อยค่าพรรค พท.ไปพบปะประชาชน ถ้า พปชร.อยากทราบความนิยมที่แท้จริงจัดงานแบบ พท.ได้ จะได้ทราบว่าประชาชนรู้สึกเช่นไร ควรหาวิธีช่วยพรรค พปชร.หาคะแนนช่วยนายกฯ แทนการมโนเกินจริงปลื้มเสียงตอบรับศรีสะเกษล้นหลามน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า “ครอบครัวเพื่อไทยไปศรีสะเกษ ไล่หนู ตีงูเห่า” เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ครบทุกเขตเป็นจังหวัดแรก เป็นคำมั่นสัญญากับชาวศรีสะเกษว่า พรรค พท.เดินหน้าสร้างบ้านให้แข็งแกร่ง สู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย ไม่ทรยศศรัทธาที่ประชาชนมอบให้ ไม่หวั่นไหวกับอำนาจและกล้วยหวีใหญ่ที่มีคนหยิบยื่นให้แล้วแปรพักตร์ โดยได้รับการต้อนรับจากชาวศรีสะเกษและจังหวัดใกล้เคียงอย่างอบอุ่น ประชาชนร่วมกิจกรรมล้นหลาม แสดงให้เห็นคนพื้นที่สนับสนุนพรรค ไม่หวั่นไหวต่อการย้ายพรรคของ ส.ส.ไปพรรคอื่น ฝากความหวังให้เลือก ส.ส.เพื่อไทยให้ชนะขาดได้เป็นรัฐบาล คนที่ให้ร้ายว่าไม่สร้างสรรค์ อ่านหนังสือให้จบตอน อย่าอ่านแค่บรรทัดเดียวแล้วต่อว่า ต้องการบอกชาวศรีสะเกษว่าเรามีแนวคิด นโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชนอย่างไรพร้อมยืนหยัดไปกับชาวศรีสะเกษ เลือกเฟ้นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ครบทุกเขตที่มุ่งมั่นตั้งใจ จะเดินหน้าไปด้วยกัน“สนธิญา” รับไม้ร้อง กกต.เอาผิด พท.นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่าได้มอบหมายให้นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาฯ ไปยื่นเรื่องกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เอาผิดพรรค พท.จากกิจกรรมไล่หนู ตีงูเห่า ฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลว่าทำผิดกฎหมายหรือเงื่อนไขข้อใดบ้าง ทำไม กกต.ปล่อยให้มีการขนคนเข้ามา ยังสถานที่ราชการ ลักษณะเช่นนี้คงไม่มีชาวบ้านคนใดมาด้วยความสมัครใจ และใส่เสื้อสีเดียวมาพร้อมกันทั้งหมด เป็นลักษณะการเกณฑ์และขนคนมา ต้องมาดูว่าจ้างกันอย่างไรหรือไม่ ยิ่งเลขาธิการพรรคเพื่อไทยระบุว่า เมื่อยังไม่มีการเลือกตั้งการกระทำดังกล่าว ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย ต้องถาม กกต. ถ้าเช่นนั้นตนไปซื้อเสียงหัวละ 1,000 บาทก่อนจะมีการเลือกตั้งก็ไม่ผิดอย่างนั้นหรือ การจ่ายเงินกันโจ๋งครึ่มอย่างนี้ถือว่าไม่ผิดใช่หรือไม่ หรือจำเป็นต้องรอให้มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งออกมาก่อนหรือ ถึงจะมีความผิด เป็นหน้าที่ กกต.ต้องออกมาชี้แจง เราจะไปยื่นเรื่องเพื่อให้มีต้นเรื่องเสียก่อน “ธนกร” ย้อน 8 ปี พท.ทำอะไรไว้นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยระบุประชาชนทนไม่ไหวกับสถานการณ์และเศรษฐกิจปัจจุบัน ตลอด 8 ปีไม่ได้ทำดีอะไรให้ประเทศว่า พรรค พท.ควร ย้อนดูตัวเองว่าที่ประเทศไทยต้องเจอกับสถานการณ์และเศรษฐกิจทุกวันนี้ เพราะรัฐบาลไหนทุจริต คอร์รัปชันมโหฬาร ชนิดอดีตนายกฯหนีออกนอกประเทศ อดีตรัฐมนตรีติดคุกไม่รู้กี่คนต่อกี่คน หากนายกฯไม่เข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ วันนี้ประเทศคงแบ่งสีแบ่งฝ่ายกันอีกนาน คงถูกการทุจริตกัดกร่อนพรุนยิ่งกว่าบ้านถูกปลวกแทะไปนานแล้ว หรือที่ผ่านมาพรรค พท.มัวแต่สนใจว่าต้องช่วยใครคนใดคนหนึ่งให้ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีไหน หรือทำใจไม่ได้ที่เห็นประชาชนเริ่มสนใจนโยบายรัฐบาลมากขึ้น กลัวคะแนนนิยมตัวเองจะตกลง อยากให้พรรค พท.ย้อนถามตัวเองก่อนเชิญชวนแกนนำคนเสื้อแดงกลับมาร่วมงาน เพื่อช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนจริงหรือไม่ หรือกำลังทำเพื่อใครเย้ยถึงเวลาข้อมูลไม่เด็ดจริงนายธนกรกล่าวอีกว่า กรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า ให้ชาวบ้านจับตาการอภิปรายไม่ไว้วางใจให้ดี จะเปิดเผยข้อมูลที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหมคาดไม่ถึง เข้าใจว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 4 ลำปาง จึงพยายามคุยโวไว้ก่อนว่ามีข้อมูลอย่างนั้นอย่างนี้ หวังจะให้ชาวลำปางเลือกผู้สมัครพรรคตัวเอง หลังพ่ายแพ้ย่อยยับมาแล้วไม่รู้กี่สนาม หาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มีข้อมูลเด็ดจริงขอให้นำมาอภิปรายในสภาฯ ถ้ามีข้อเท็จจริงหรือหลักฐานที่เชื่อถือได้ รัฐบาลพร้อมนำไปตรวจสอบและขยายผลต่อไปอยู่แล้ว กลัวอย่างเดียว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อภิปรายแต่เรื่องเดิมๆที่สภาฯไม่อนุญาต แต่ยังจะดันทุรังพูดจนถูกปิดไมค์หรือเชิญออกจากห้องประชุมแล้วมาอ้างทีหลังว่าเสียดายข้อมูลเด็ดที่ไม่ได้อภิปราย ทั้งที่ทำตัวเองแท้ๆ จะถูกมองว่าไม่มีข้อมูลเด็ดจริงต้องเอาตัวรอด“ชัยวุฒิ” ดักคอไม่ถูกต้องขยี้ปมส่วนตัวนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงความพร้อมชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า คิดว่าการอภิปรายไม่น่าห่วงอะไร โดยหลักคงจะชี้แจงเอง เพราะรู้ข้อมูลอยู่แล้วว่าเราทำอะไรไปแล้วมีประเด็นอะไรที่เขาสงสัย ส่วนพรรคจะมีทีม ส.ส. ค่อยช่วยประท้วงหรือควบคุมการประชุม หากมีการพูดอะไรผิดข้อบังคับ เพื่อให้บรรยากาศการประชุมเดินหน้าไปได้ราบรื่น เมื่อถามว่ากังวลว่าจะถูกนำเรื่องส่วนตัวมาอภิปรายในสภาฯหรือไม่ เนื่องจากฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายมีความประพฤติเสื่อมเสียทางศีลธรรมอันดี นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องอะไร แต่การพูดเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับประเด็น ไม่น่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องในการอภิปรายในสภาฯ ส่วนเสียงโหวตเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. แต่ในภาพรวมเสียงของรัฐบาลเยอะกว่าอยู่แล้ว มีเสียงเพียงพอจะผ่านอยู่แล้ว แต่ต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันกังวลโหวตสวนเล็งหารือ “พิเชษฐ”ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีชื่อเป็น 1 ใน 4 รัฐมนตรีที่นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 ส.ส.ระบุจะไม่โหวตให้ และจะโหวตไปทิศทางเดียว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย กังวลหรือไม่ นายชัยวุฒิตอบว่า ก็ต้องกังวล หากโหวตสวนมันไม่ดี ต้องไปทำความเข้าใจกันว่ามีประเด็น มีข้อมูลอะไรที่ทำให้ไม่ไว้วางใจเรา ต้องชี้แจงกันและดูตอนอภิปรายด้วย ทั้งนี้ การโหวตเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.แต่ละคน คงไม่สามารถใช้มติพรรคบังคับได้ “นิพนธ์” โว ปชป.จะกลับมาอีกครั้งนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี พบปะแกนนำและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มพี่น้องไทยพุทธ ที่โรงแรมเซาท์เทิร์นวิว อำเภอเมืองปัตตานี มีนายสุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปัตตานี พรรค ปชป.ทั้ง 4 เขต กรรมการสาขาพรรคในพื้นที่เข้าร่วม โดยนายนิพนธ์กล่าวถึงนโยบายของพรรคตอนหนึ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์มีผลงานจับต้องเป็นรูปธรรมมาตลอด ตั้งแต่ยุครัฐบาลชวน หลีกภัย ริเริ่มการประกันสุขภาพประชาชน นมโรงเรียนฟรีมาสู่อาหารกลางวันเด็กในโรงเรียน รัฐบาลอภิสิทธิ์ทำโครงการเบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยตอบแทนอสม.ปัจจุบันยุคนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ทำนโยบายประกันรายได้เกษตรกรช่วยสินค้าเกษตร 5 ชนิด วันนี้เราต้องเตรียมทำนโยบายใหม่ จังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อก่อนติดกับดักความมั่นคง ใช้ความรุนแรงใช้อาวุธ จากนี้ไปจะมองมิติภาคใต้เมืองชายแดนใหม่ให้เป็นเมืองความมั่นคงทางอาหาร เป็นนโยบายสำคัญเลี้ยงคนทั้งประเทศและทั้งโลกได้ เชื่อมั่นว่าพรรค ปชป.จะกลับมาอีกครั้งเป็นงงนำร่องไม่ไว้วางใจล่วงหน้าต่อมานายนิพนธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 ส.ส. ระบุจะไม่ยกมือสนับสนุนโหวตให้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า แปลกใจที่ให้ข่าวไม่ไว้วางใจนำร่องกันเช่นนี้ เพราะยังไม่ทราบจะอภิปรายเรื่องอะไร ยังไม่ได้รับฟังเหตุผลการชี้แจงหนำซ้ำยังไม่มีการอภิปรายเกิดขึ้น แต่บางกลุ่มกลับมีมติออกมาแล้วว่าจะไม่ยกมือโหวตให้รัฐมนตรีคนนั้นคนนี้ เช่น นายพิเชษฐ ระบุมี 2 ประเด็น ที่ไม่อาจไว้วางใจตนได้คือ 1.กรณีที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ และการบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ หัวหน้ากลุ่มก็เป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลด้วย แต่พร้อมตอบทุกเรื่อง มั่นใจว่าจะชี้แจงข้อแคลงใจได้ ไม่หนักใจสอท.ลุยกาฬสินธุ์-มหาสารคามวันเดียวกันพรรคสร้างอนาคตไทยอยู่ระหว่างจัดกิจกรรม “สอท.สัญจร” เป็นวันที่ 2 นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายสุพล ฟองงาม ประธานภาคอีสาน ลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่ อ.หนองกุงศรี และ อ.กุฉินารายณ์ และ อ.เมืองมหาสารคาม เปิดตัวผู้แสดงเจตจำนงลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรค ประกอบด้วย นายจำลอง ภูนวนทา กาฬสินธุ์ เขต 3 นายนิพนธ์ ศรีธเรศ กาฬสินธุ์ เขต 5 และ น.ส.นงลักษณ์ ทุงจันทร์ มหาสารคาม เขต 1 แต่ละพื้นที่มีประชาชนร่วมกิจกรรมราว 500-600 คน นายอุตตมกล่าวว่า การลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และจ.มหาสารคามต่อเนื่องจาก จ.อุดรธานี มีเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนอย่างดี โดยเฉพาะการเสนอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีต รองนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกฯ เนื่องจากชาวอีสานรับรู้ว่า นายสมคิดเป็นมือเศรษฐกิจที่อยู่เบื้องหลังนโยบายสำคัญๆในรัฐบาลมาหลายยุคหลายสมัย วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องต้องดูแลแก้ไขเป็นอันดับแรก พรรคมีบุคลาการเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมากที่สุด โดยเฉพาะว่าที่แคนดิเดตนายกฯของพรรค เป็นที่รับรู้ว่า คือเหมาะสมที่สุดที่จะมาแก้ไขสถานการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ขณะนี้มั่นใจ “สมคิด” ทำอีสานกระเพื่อมนายสนธิรัตน์กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทยเล็งส่งผู้สมัคร ส.ส. ลงในภาคอีสานให้ครบทุกเขต โดยไม่สนใจว่าพื้นที่นั้นจะมีเจ้าของพื้นที่เดิมเป็นใครหรือพรรคใด พื้นที่อุดรฯ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ที่เพิ่งเปิดตัวไปนั้นเป็นตัวอย่างว่า เรามั่นใจในตัวผู้แสดงเจตจำนงลงสมัคร ส.ส. ของเราทุกคนว่าเป็นคนดี มีความรู้ความสามารถ เป็นปากเสียงให้พี่น้องประชาชนได้จริง พรรคพร้อมจะส่งลงเป็นตัวแทน โดยไม่เอาเรื่องพื้นที่นั้นเป็นของใคร หรือของพรรคไหนมาเป็นเงื่อนไขด้านนายสุพลกล่าวว่า หลังจากพรรคลงพื้นที่ต่อเนื่อง ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนมากขึ้นเป็นลำดับ วันนี้คนอีสานเบื่อหน่ายกับความขัดแย้งทางการเมือง หรือการเล่นการเมืองแบบเก่าๆ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง วันนี้ ประชาชนต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถทางเศรษฐกิจเข้ามาช่วยแก้ปัญหา จึงมั่นใจว่านายสมคิด จะสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในภาคอีสานได้อย่างแน่นอน “เทือก” ค้าน “ทักษิณ” ส่ง “อุ๊งอิ๊ง” นั่งนายกฯวันเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลัง กล่าวถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองภายใต้สองขั้วทางการเมือง เพื่อทำให้ประเทศเดินต่อไปได้ว่า ควรหันหน้ามาคุยกัน มีสติ ลดอัตตาลง มาช่วยกันคิด รักประเทศไทยให้มากขึ้น ส่วนที่ไม่ดีของคนอื่นไม่ต้องเอามาพูด แล้วเดินในกรอบที่สร้างกติกากัน เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ามาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายสุเทพตอบว่า ขอต่อต้านระบบความคิดของเขาที่เอาลูกสาวมาเป็นนายกฯ ไม่เกรงใจประชาชนกันบ้าง วิธีการของเขามันไม่ใช่แล้ว ส่วนกรณีที่กระแส น.ส.แพทองธารกำลังไปได้ดี นายสุเทพตอบว่า เราไม่ไปสบประมาทฝันทุกฝ่ายจับมือกู้ชาติ“ถ้าพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ไม่ได้ก็น่าจะแย่กว่าเดิม แต่ถ้าแลนด์สไลด์ได้ จะได้รู้กันอีกทีว่า พอระบอบทักษิณกลับมาผลจะเป็นอย่างไร เที่ยวนี้จะรู้ว่าออกหัวหรือก้อย ส่วนสมรภูมิการเมืองเลือกตั้งครั้งต่อไป มันมีการเปลี่ยนแปลงตลอด ถ้าวันนี้ทุกคนมีสติ ไม่ยึดถือตัวกู ของกูมาก สละบางส่วน ออกไป เอาไว้เฉพาะส่วนที่เห็นพ้องต้องกัน แล้วมาจับมือกันทำได้ พาประเทศไปข้างหน้ากัน นี่เรียกว่าเป็นวิธีสุดยอดในฝัน ทำไมกลุ่มคุณทักษิณวันนี้ไม่เห็นสัจธรรม อย่างนี้ไปไม่รอด มาจับมือกัน” นายสุเทพกล่าวม็อบบุกบ้าน “บิ๊กตู่” จอดแค่ดินแดงเมื่อเวลา 16.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่มมวลชนชายหญิงอดีตแนวร่วมม็อบเสื้อแดง ราว 40 คนใช้เฟซบุ๊กเพจ “ราษฎรไล่ตู่คนแดงปฏิวัติ” นัดรวมตัวจัดคาร์ม็อบบุกบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ตั้งอยู่ใน ร.1 ทม.รอ. ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อขับไล่พ้นจากตำแหน่ง เป็นการเคลื่อนไหวครั้งที่ 3 ของกลุ่มหลังเครือข่ายราษฏรที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาต้องยุติการเคลื่อนไหว บนถนนไปเนื่องจากถูกดำเนินคดีจากการชุมนุมไปนับร้อยคน หลังเฝ้ารอแนวร่วมมาสมทบราว 1 ชั่วโมง ไม่ปรากฏว่าจะมีขบวนรถมาเข้าร่วมเป็นคาร์ม็อบ กลุ่มผู้ชุมนุมจึงเปลี่ยนไปเดินเท้ามุ่งหน้ามายังแยกดินแดง ชูป้ายข้อความเรียกร้องให้ปล่อยผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุแก๊ส 11 คนที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ตะโกนขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อมาถึงแยกดินแดงไม่สามารถเดินต่อไปได้ เพราะมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) นับร้อยนายพร้อมอาวุธครบมือ ทั้งโล่ กระบอง ปืนยิงกระสุนยาง แก๊สน้ำตา และรถควบคุมผู้ต้องหา ยืนตั้งแนวขวางอยู่ที่แยกดินแดงด้วยท่าทีขึงขัง ผู้ชุมนุมจึงปักหลักนั่งพักอยู่ริมถนนหน้าปากซอยโรงเรียนนิธิปริญญา ส่งเสียงตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ที่ขนกำลังมาทำไมมากมายมีแต่คนแก่ๆ คฝ.จึงถอยไปคุมเชิงอยู่ห่างๆตร.แจ้งมีโยนระเบิดปิงปองป่วนจากนั้นนายไพศาล จันปาน หนึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุมได้ชวนให้ทั้งหมดร่วมกันยืนชู 3 นิ้ว ตะโกนคำว่า ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยผู้บริสุทธิ์ คืนสิทธิการประกันตัวยกเลิก 112 และประยุทธ์ออกไป พร้อมประกาศแยกย้ายกลับ กระทั่งเวลา 18.42 น. ก่อนกลุ่มม็อบยุติการชุมนุมที่แยกดินแดง แต่ได้มีเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้น 1 ครั้ง คฝ.ที่เตรียมกำลังอยู่ในที่ตั้งออกมารวมตัวกัน ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมบางคนสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขว้างระเบิดปิงปองใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ผู้ชุมนุมยุติแยกย้ายกลับ ขอให้สื่อมวลชนถอยห่างไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่ตกลงกันไว้ ทำให้แยกดินแดงตึงเครียดขึ้นทันที ผู้ชุมนุมที่ตอนแรกเตรียมกลับบ้านเปลี่ยนใจอยู่ดูสถานการณ์ต่อโจ๋ขี่ จยย.ปาประทัดข้ามฝั่งใส่ คฝ.ต่อมาเวลา 19.15 น. มวลชนม็อบไล่ตู่ ที่ส่วนใหญ่เป็นคนวัยกลางคน เริ่มทยอยออกจากพื้นที่ แล้วได้เริ่มมีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่จักรยานยนต์จำนวนหนึ่ง มาจอดหน้าเกล้าสยามคอนโด แล้วเริ่มปฏิบัติการก่อเหตุยั่วยุเจ้าหน้าที่ ด้วยการระดมขว้างปาประทัด ข้ามฝั่งไปหากำลังตำรวจควบคุมฝูงชน ที่ประจำการอยู่ที่ใต้อาคารบริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์ตร.กระชับพื้นที่สลายม็อบจับได้ 3 คนผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น 19.45 น. ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่การชุมนุม กลุ่มผู้ชุมนุมวัยรุ่นจึงเริ่มแยกย้ายหาที่หลบฝน ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยุติลงชั่วคราว ต่อมาเมื่อฝนเริ่มซากลุ่มผู้ชุมนุมวัยรุ่นจึงออกมาขว้างปาวัตถุเสียงดังคล้ายระเบิดเข้าใส่เจ้าหน้าที่อีกครั้ง กระทั่งเวลา 20.15 น. กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ.ในชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมโล่และปืนยิงกระสุนยาง ขึ้นรถกระบะมุ่งหน้าจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เข้าสลายกลุ่มชุมนุมที่รวมตัวกันอยู่ที่ตามซอกซอยต่างๆ โดยเฉพาะที่บริเวณตลาดศรีวนิช เกล้าสยามคอนโด อีกด้านหนึ่งตั้งแถวบีบกระชับพื้นที่เข้ามาจากบริเวณแยกดินแดง จนผู้ชุมนุมวัยรุ่นต้องทยอยหลบหนี โดยถูกควบคุมตัวไว้ได้ราว 3 คน