วงแตก กำลังฉลองข่าวดี ประกาศชัยชนะทีมประชาธิปัตย์รักษาแชมป์ไว้ได้ แต่ข่าวร้าย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แม่ทัพใหญ่คุมเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา ตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้พวกอยู่ในข่ายใกล้ชิด เสี่ยงติดเชื้อทั้งทีมหาเสียง น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครและเป็นว่าที่ ส.ส.สงขลารวมไปถึง “เสี่ยต่อ” นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ เลขาธิการพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรค ที่ร่วมช็อตตั้งโต๊ะเรียงหน้าแถลงข่าวโชว์ความสำเร็จต้องรีบแจ้นไปตรวจหาเชื้อ และโดนกักตัวตามมาตรการงานนี้เลยต้องฉลองกันแบบเสียวๆ เฮไป ลุ้นผลแยงจมูกขึ้น 1 ขีดหรือ 2 ขีด หายใจไม่ทั่วท้องลูกติดพันศึกเลือกตั้งซ่อมปักษ์ใต้ยังมีต่อเนื่อง ตามท้องเรื่องที่ผู้นำอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ต้องรีบออกมาห้ามทัพ หย่าศึก ฟาดปากกันเองในพรรคร่วมรัฐบาล ตามรูปการณ์ มวยแพ้ พี่เลี้ยงไม่แพ้ อารมณ์แบบที่ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มั่นใจ คนชุมพร เขต 1 เตรียมเลือกตั้งใหม่ได้เลย เพราะโกงกันแบบไม่เคยเห็นมาก่อนและก็โดนย้อนศรทันทีทันควัน ทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ มอบหมายให้ทีมทนายความของพรรค ดำเนินคดีกับ “เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี ตัวจี๊ดของ พปชร.ที่โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิง ปชป.ให้เสียหาย “เหตุผลเดียวประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งซ่อม 2 เขต คือซื้อเก่งกว่าค่ะ”นี่แค่ประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐที่ฟัดกันไม่เลิกเกมติดพัน ยังลามมาถึงอาการกรุ่นๆขยายรอยร้าวศึกในค่ายพลังประชารัฐ อารมณ์แบบที่ “เสี่ยเฮ้ง” นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน แม่ทัพคุมเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา ยอมรับตรงๆเหตุที่ทำให้คนของ พปชร. แพ้สนามปักษ์ใต้ มาจากวาทกรรมของ “ผู้กองนัส” ที่ขึ้นเวทีปราศรัย บอกให้ประชาชนเลือกคนมีตังค์เหมือนจงใจตอกย้ำ ชี้เป้าคนทำพัง ตามเหลี่ยมเบี่ยงตัวหลบความรับผิดชอบสถานะแม่ทัพเลือกตั้งพ่ายศึก มันยิ่งย้ำแผลลึกถึงกระดูก เบื้องหลัง “เสี่ยเฮ้ง” กับ “ผู้กองนัส” ที่ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบเทียบกันตามเงื่อนไขสถานการณ์ เดิมพัน “ได้ไม่คุ้มเสีย” แรงสั่นสะเทือนจากศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 และ ส.ส.สงขลา เขต 6 ทำให้ขุมข่ายอำนาจ 3 ป. ต้องขัดลำกับ “เพื่อนกิน” แตกคอกับพรรคร่วมรัฐบาล ยากจะเคลียร์กับประชาธิปัตย์ แล้วลูกหาบในค่ายยังหันมาฟัดกันเอง โบ้ยความผิดพลาดพลังประชารัฐ สภาพเสียหายยับเยิน ตามเหลี่ยมเขี้ยวที่พรรคประชาธิปัตย์รีบตีปี๊บ อารมณ์แบบที่นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช เคลมชัยชนะสนามเลือกตั้งซ่อมชุมพร สงขลา คนใต้สั่งสอนพรรคพลังประชารัฐ ยี่ห้อ พปชร.ขายยากแล้วในสนามปักษ์ใต้และนั่นก็เป็นอะไรที่ยิ่งเพิ่มแรงกดดัน กับศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขตหลักสี่ แทนตัวจี๊ดอย่างนายสิระ เจนจาคะ ไฟต์บังคับค่ายพลังประชารัฐในฐานะแชมป์เก่า ต้องชนะสถานเดียวเท่านั้นไม่เช่นนั้นจะเป็นปรากฏการณ์ แพ้แบบ “แลนด์สไลด์” แรงสั่นสะเทือนระดับ 6-7 แมกนิจูด กับเส้นทางไปต่อของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังพยายามยื้อยุดใช้ค่ายพลังประชารัฐเป็นฐาน เสนอชื่อในบัญชีนายกฯ ศึกเลือกตั้งรอบต่อไปในเมื่อยี่ห้อ “พปชร.” ขายไม่ออก “บิ๊กตู่” ก็ต้นทุนหน้าตักเหลือน้อย ตามรูปการณ์ที่เซียนการเมือง นักเลือกตั้งอาชีพมองทะลุ เกมนี้ถ้าไม่ขยับเปลี่ยนกระดานเล่น โดยเฉพาะ “ขุน” อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ดันทุรังไป มีแต่จะโดนรุกฆาต ส่อจนกลางกระดานคิวนี้ “ฝ่าย เสธ.ตึกไทยฯ” ต้องปรับแผนใหม่ ก่อนสายเกินกาลและอย่างที่เห็นเริ่มมีจังหวะ “ชิ่ง” กันแล้ว กับการไขก๊อกของนายสุพล ฟองงาม และนายสันติ กีระนันทน์ พร้อมใจกันยื่นลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทิ้งพรรคพลังประชารัฐ โชว์กันชัดๆไปร่วมเปิดตัวกับพรรค “สร้างอนาคตไทย”ยี่ห้อป้ายแดงที่นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง กับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน โพสต์เฟซบุ๊ก ร่อนสารเชิญสื่อมวลชน แจ้งข่าวกับประชาชนเปิดฟลอร์แถลงใหญ่ ฤกษ์ตัดริบบิ้นพรรคใหม่ในวันที่ 19 มกราคมนี้ตามข่าวที่เป็นกระแสมาเป็นระยะ ค่ายใหม่ของ “สี่กุมาร ภาค 2” ภายใต้การกำกับของ “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ มือเศรษฐกิจ จะเป็นการฟอร์มดรีมทีมเศรษฐกิจ ประสานคนรุ่นใหม่ รุ่นกลาง รุ่นใหญ่ ขายความเป็นมือบริหารอาชีพ มุ่งภารกิจฟื้นประเทศจากมหาวิกฤติเศรษฐกิจโควิดขันอาสาเป็นทางเลือกใหม่ อยู่ตรงกลาง ไม่ติดเงื่อนไขเป็นขั้วขัดแย้งกับใครมาในจังหวะสถานการณ์ หมูแพง ไก่ ไข่ แข่งกันขึ้นราคา กระแสแพงทั้งแผ่นดิน ผู้คนเดือดร้อนปากท้อง สังคมโหยหามือบริหารอาชีพมากู้เศรษฐกิจ ยี่ห้อ “สร้างอนาคตไทย” น่าจะติดตลาดไวแต่เรื่องของเรื่อง การเมืองไทย ณ วันนี้ พรรคตรง “กลาง” ไม่อาจยืนง่ายๆทีม “สร้างอนาคตไทย” มีหวังโดน 2 ขั้ว 2 ฝ่าย รุมเตะตัดขาน่วมแน่.ทีมข่าวการเมือง