ทุกเรื่องที่ผมอ่านแล้วเอามาเขียนต่อ...สารภาพ มักมีจุดหมายมุ่งไปถึงใครบางคน อาจเป็นคำสอน คำแนะนำ คำด่า และบางครั้งก็แค่อยาก “บ่นบ้า” ไปวันๆลองอ่านเรื่องกาที่ถูกรังเกียจ...ใน “เรื่องคมๆ ความหมายชวนคิด” (สุริยเทพ ไชยมงคล สำนักพิมพ์อินสไปร์ พ.ศ.2553) กันดูอีกสักที แล้วลองเดากันดู เรื่องนี้ผมตั้งใจสื่อถึงใครกาตัวหนึ่งเบื่อถิ่นฐานหากินทางทิศตะวันตก ตัดสินใจบินไปตะวันออก ระหว่างทางสวนกับนกพิราบตัวหนึ่ง...สบตาผูกมิตรกันแล้ว ก็ชวนกันบินลงมาหยุดพักใต้ต้นไม้ใบหนาท่าทางของกาบินมาเหน็ดเหนื่อยมาก นกพิราบจึงถาม “นายจะบินไปไหน”กาบอกว่าจะไปตะวันออก และเหตุที่ต้องไปก็เพราะผู้คนแถวนั้น รังเกียจเสียงร้องของมัน พูดเหมือนๆกันว่า “เสียงฉันไม่เป็นมงคล ฉันไปอยู่ที่ไหนก็ต้องย้ายหนีไปเรื่อยๆ”นกพิราบเพิ่งบินมาจากตะวันออก มันรู้ดีแถวนั้นไม่มีอะไรดีกว่าถิ่นที่กาหนีมา“อย่าคิดมากไปเลยเพื่อน” นกพิราบปลอบ “ปัญหาของนาย ไม่ได้อยู่ที่ถิ่นที่อยู่ แต่อยู่ที่เสียงร้องของนายเอง ถ้าเสียงร้องของนาย ยังเป็นเช่นนี้ จะไปอยู่ที่ไหนก็ต้องย้ายหนีไปไม่มีสิ้นสุด”จบเรื่องคมๆ มีคำอธิบายความหมายชวนคิด เป็นปรัชญาลึกซึ้งน่าคิด...น้ำนิ่งย่อมกลายเป็นน้ำเน่า หากเราไม่ปรับตัวไม่ขยันเปิดรับสิ่งใหม่ ในที่สุดเราก็จะล้าหลัง พ่ายแพ้ และเหมือนกา ถูกรังเกียจคนที่ประสบความสำเร็จ มีจุดเด่นเห็นชัด มักแสวงหาความก้าวหน้า คนพวกนี้กลัวการไม่สามารถปรับสิ่งที่กำลังทำให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลง กลัวความสามารถในการแข่งขันของตัวเองจะลดลงเลือดในร่างกายมนุษย์ยังต้องสร้างใหม่อยู่เสมอ จึงจะรักษาสุขภาพกายที่ดีไว้ได้ เช่นเดียวกันหากต้องรักษาระดับการทำงานไม่ให้ถอยหลัง ก็ต้องใช้วิธีใหม่ ความคิดใหม่ๆอยู่เสมอคนที่ต้องการความก้าวหน้า จำเป็นต้องสัมผัสความเป็นไปของโลกภายนอกให้มาก ควรไปเยี่ยมเยือนเพื่อนร่วมธุรกิจ พยายามค้นหาวิธีการทำงานใหม่นี่คือการเพิ่มเม็ดเลือดใหม่ในกระแสหมุนเวียนของร่างกายตื่นเช้า ก่อนเริ่มงานใหม่ ควรถามตัวเอง การทำงานที่จบไปเมื่อวันวาน วันนี้มีส่วนต้องเปลี่ยนแปลงหรือไม่?เรื่องเล่าเรื่องนี้ ผมมีคำตอบ...ตั้งใจอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อทบทวนตัวเองที่จะรับนัดหมายเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันนาน หรือเพื่อนใหม่ที่อยากคุยด้วย...สักคนแต่ก็นั่นแหละ...การพบปะเพื่อหาสิ่งใหม่ๆ เป็นวิสัยโลก...นี่คือคำสอนให้คนเดินไปข้างหน้า...แต่สำหรับบางคน คนที่แก่แล้วทั้งเหนื่อยล้า...บทสรุปของคนที่อยากหนีไปให้พ้นโลกวุ่นโลกุตรธรรม คำของพุทธศาสนา แปลว่า คนเหนือโลกหรืออยากจะแปลว่า คนหลุดโลก ก็น่าจะได้คำสอนหนึ่งของ “เซน” จงอยู่อย่างก้อนเมฆบนท้องฟ้า หรืออยู่อย่างน้ำก้นแจกันมีคำอธิบายเมื่อเป็นเมฆบนท้องฟ้า ก็ไม่ต้องปรารมภ์ว่าวันเวลาใดจะกลายเป็นน้ำ เมื่อเป็นน้ำใต้แจกัน ก็ไม่ปรารมภ์ว่าวันหนึ่งจะระเหยเป็นไอ กลายเป็นเมฆบนฟ้าเขียนถึงตรงนี้ ผมมีทางเลือกให้ตัวเอง อยู่ในโลกก็เหนื่อยกับความเปลี่ยนแปลงของโลก ขอเลือกอยู่อย่างคนหลุดโลก...นิ่งอยู่กับคำสอน “มันเป็นเช่นนั้น” น่าจะเป็นความสงบเย็นเป็นสุขกว่าผมอยากจะรู้อยู่เหมือนกัน หากมีวันที่จะหลุดจากโลกไปได้จริงๆ จะลอยไปถึงไหนสวรรค์เขาว่ามีเจ็ดชั้น พรหมมีถึง 16 ชั้น.กิเลน ประลองเชิง