ตั้งแต่เกิดมา ผมเชื่อว่ามนุษย์ไม่เคยเห็น “งูกินหาง” ด้วยตา แต่ซึมซับรับรู้ภาพไว้ เอาไปเชื่อมโยงกับเรื่องราวในโลก เช่นระบบแชร์ลูกโซ่ แชร์แม่ชะม้อย ดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อเดือน แค่ 14 เดือน เงินต้นก็ได้คืนเอาความเชื่อบวกความโลภ บอกต่อๆกันไป ผู้คนก็ขนเงินเอามาให้...หลอกกันอยู่หลายปี กว่าจะเจ๊งกันไปพื้นความรู้เรื่องงูกินหาง มีผลให้ตั้งใจอ่าน เรื่อง “งูกินหางสัญลักษณ์ชวนคิด” หนังสือ “ถอดรหัส สัญลักษณ์ปริศนา” (สำนักพิมพ์สารคดี พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2562) ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ เขียนไว้ลึกซึ้งซับซ้อนหลายแง่มุมผมขอเลือก เรื่องง่ายๆ พอทำความเข้าใจได้ มาถ่ายทอดต่ออียิปต์โบราณกล่าวถึงงูกินหาง ไว้เมื่อ 1,600 ปีก่อนคริสต์ศักราช งูเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นนิรันดร์แห่งเทพเจ้า พวกฟินิเชียน รับต่อไปให้กรีก กรีกเรียก โอโรโบรอส แปลตรงตัวว่า งูกำลังเขมือบเพลโต นักปรัชญากรีก กล่าวว่า งูโอโรโบรอสเป็นสิ่งแรกที่กำเนิดขึ้น ในเอกภาพ มันไม่มีตา เพราะไม่มีอะไรที่อยู่ข้างนอกให้ดู ไม่มีหู เพราะไม่มีอะไรให้ได้ยิน ไม่ต้องการอากาศหายใจ ไม่ต้องมีอวัยวะใดๆ ที่จะรับอาหารหรือขับถ่าย เพราะไม่มีอะไรเข้าไปหรือออกในความเชื่อของเพลโต “งูโอโรโบรอส มีความพอเพียงที่สุดอยู่ในตัวเอง”ความเชื่อเรื่องงูกินหางของฝรั่ง มีหลายเวอร์ชัน ส่วนใหญ่เชื่อว่า งูขดเป็นวงกลมงับหางตัวเอง บ่งถึงเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนผ่าน แต่ในที่สุดก็จะวนกลับมาซ้ำๆที่จุดเดิม มองอีกแง่ คล้ายการเวียนว่ายตายเกิดคำถาม ภาพงูกินหางของตะวันตกมาจากไหน...เชื่อกันมาแต่โบราณ มาจากทางช้างเผือกบนท้องฟ้า มีตำนานหลายเรื่องกล่าวว่า “งูแห่งแสงสว่างที่อยู่บนสวรรค์”ก็คงเป็นทางช้างเผือกเดียวกับที่โกโบริรำพันกับอังศุมาลินก่อนตายในนิยายของทมยันตี เรื่องคู่กรรมมาถึงงูกินหางแบบไทยๆ ดร.บัญชาเล่าไว้เป็นเรื่องง่ายๆ รู้แล้วสบายใจในจารึกวัดพระเชตุพน มีกลอักษรงูกลืนหาง กลอักษรนี้วรรคหนึ่งๆ จะมีคำซ้ำอยู่สามคู่ คือระหว่างสามคำแรกกับสามคำสุดท้ายของวรรคสงสารนุชสุดแสน (สงสารนุช) จะโหยให้ไหนจะหยุด(จะโหยให้) รันทดใจให้สลด (รันทดใจ) ต้องไกลจรกรรมไฉน (ต้องไกลจร)นี่คือ งูกินหาง ในกลอักษร ที่เป็นพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 3 แต่ที่เป็นวัฒนธรรมไทย ชาวบ้านรู้จัก คือ งูกินหาง การละเล่นของเด็กๆการละเล่น มีดังนี้ สมมติให้คนหนึ่งเป็นแม่งู มีลูกงูเกาะหลังเป็นแถวยาว อีกคนหนึ่งเป็นพ่องู คอยไล่จับลูกงูที่อยู่ท้ายแถว เอามาเป็นพวกทีละตัวๆดร.บัญชาเตือนความจำ “ที่ร้องกันว่า แม่งูเอ๋ย กินน้ำบ่อไหน ...นั่นไง!”อ่านเรื่องงูกินหางมาถึงตรงนี้ ผมนึกถึงการเมืองบ้านเรา...มีคนมากมายกำลังเล่นงูกินหางในพรรคการเมืองพรรคใหญ่ แสร้งทำเป็นแยกแถว เอ๊ย! แยกไปตั้งพรรคใหม่ ทำเป็นหมางเมินห่างเหิน แล้วก็เริ่มมีข่าว ไม่ย่งไม่แยกพรรคไปไหนแล้ว อยู่กันรักกันในพรรคเก่านั่นแหละผมดูข่าวทีวี ฟังได้ว่า นายกฯประยุทธ์ กำลังซ้อมบทจูบกับคุณธรรมนัส ที่ตัวเองเพิ่งสั่งปลดเก้าอี้รัฐมนตรีเขาไปหมาดๆ ก็คงจะเป็นบทเลิฟซีน ที่ผะอืดผะอม สำหรับท่านผู้ชม....เอาการอยู่ส่วนพวกงูเห่าที่ถูกไล่ออก บางคนย้ายพรรค บางคนมีฤทธิ์ตั้งพรรคใหม่ผมนึกถึงงูกินหางเด็กเล่น แม่งูเอ๋ย กินน้ำบ่อไหน แล้วมีเสียงลูกแถวร้องรับ กินน้ำบ่อโศก โยกไปก็โยกมา พวกนักการเมืองเขาสนุกสนานกันจัง แต่ทำไมชาวบ้านแบบเราๆ จึงยังเหงาๆ กันอยู่ ก็ไม่รู้.กิเลน ประลองเชิง