สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวใหญ่โต กรณีที่ เมิ่ง หว่านโจว บุตรสาวของ เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัท หัวเว่ยเทคโนโลยี่ บรรลุข้อตกลงกับ อัยการสหรัฐฯ ยุติคดีฉ้อโกง และสามารถเดินทางออกจากการกักตัวที่ แคนาดา กลับ ประเทศจีน ได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่สหรัฐฯ ประเด็นนี้ระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน ถือเป็นเรื่องใหญ่ ก่อนหน้านี้ ทางการจีนได้มีการกักตัว นักธุรกิจแคนาดา ที่ถูกกล่าวหาว่า จัดหาภาพถ่ายอุปกรณ์ทางทหารให้กับคอวริก สงสัยว่า จะเป็นสายลับ เป็นการตอบโต้เช่นกันบรรยากาศการต้อนรับกลับบ้านของ เมิ่ง หว่านโจว ไม่ต่างจาก วีรสตรีของจีน สื่อรัฐบาลจีนยินดีกับการกลับมาของ ทายาทผู้บริหารหัวเว่ย อย่างออกหน้าออกตา โดยไม่ได้กล่าวถึง นักธุรกิจแคนาดา ที่ได้รับการปล่อยตัวหลังจาก แคนาดาปล่อยตัว เมิ่ง หว่านโจว ไม่กี่ชั่วโมงกลายเป็นว่าคนที่ถูกเพ่งเล็งในการปล่อยตัวทายาทหัวเว่ยคือ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถึงขนาด สภาคองเกรส จะเรียกไบเดน ไปชี้แจงถึงเรื่องนี้ เพราะมีเรื่องความมั่นคงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยการทำธุรกิจโทรคมนาคมของหัวเว่ยในสหรัฐฯและประเทศในยุโรปอีกหลายประเทศ ถูกมองว่าเป็นการโจรกรรมทางด้านเทคโนโลยี อาทิ เชื่อว่าเทคโนโลยีของหัวเว่ยสามารถที่จะเข้าไปเจาะข้อมูลความลับในแต่ละประเทศที่หัวเว่ยไปประกอบกิจการ หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยก็ถูกระแวงว่าฝังชิปสายลับเอาไว้ด้วยเป็นการเมืองที่กระทบความมั่นคงระดับชาติไหนๆก็ไหนๆ การร่วมมือในภูมิภาคนี้ที่ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย อินเดีย และ ญี่ปุ่น ตกลงว่าจะร่วมมือกันเพื่อสร้างให้ ภูมิภาคอินโด แปซิฟิก มีเสถียรภาพเปิดกว้างและเป็นประชาธิปไตย หรือที่รู้จักกันในชื่อ กลุ่มควอด เป็นที่เข้าใจกันดีว่า กลุ่มคว็อด ตั้งขึ้นมาเพื่อสกัดการ ครอบงำของจีน ในภูมิภาคนี้เป้าหมายยุทธศาสตร์คืออาเซียนที่จะถูกปักหมุดโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น สงครามเย็นรอบใหม่ ค่อยๆชัดขึ้นเรื่อยๆ วัคซีนโควิด-19 ก็เป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ ปักหมุด การบริจาควัคซีนระหว่างสหรัฐฯกับจีนในภูมิภาคนี้มีนัยสำคัญไม่อย่างนั้น สถานทูตสหรัฐฯและจีนคงไม่แข่งกันประชาสัมพันธ์ ในการให้ความช่วยเหลือวัคซีนโควิดกับประเทศต่างๆในภูมิภาคนี้ เสมือนเป็นการบีบให้ประเทศในอินโดแปซิฟิก ต้องเลือกข้างเพื่อความอยู่รอดได้แล้วกลุ่มควอด แถลงยืนยันว่า ได้ส่งวัคซีนให้กับ ประเทศในอินโดแปซิฟิก มากกว่า 1,000 ล้านโดสภายในปี 2022 เฉพาะ สหรัฐฯประเทศเดียว บริจาควัคซีนให้ทั่วโลกอีก 500 ล้านโดสเป็นอย่างน้อยสิ่งที่จะตามมาจากสงครามโควิดก็คือสงครามเศรษฐกิจ เทคโนโลยี ที่รวมไปถึงความมั่นคงทางไซเบอร์ เทคโนโลยี แพลตฟอร์ม ที่ล้ำสมัย จะเป็นอาวุธของสงครามเย็น เห็นได้จากที่กลุ่มควอดมีโครงการให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ เข้าเรียนต่อในสหรัฐฯชนิดไม่อั้นถ้าบ้านเรายังมัวมาสวดมนต์ไล่น้ำท่วมกันอยู่ เห็นทีจะต้องปิดประเทศล่วงหน้า.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th