รักร้าวของพี่น้อง 3 ป. “ลุงป้อม-ลุงป๊อก-ลุงตู่” (อายุ 76-72-67) คงไม่จบลงง่ายๆ แค่การแสดงฉากรักโชว์สื่อที่หน้าทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินประคองพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินไปส่งขึ้นรถที่หน้าทำเนียบหลังการประชุม ครม.ละครฉากนี้ พล.อ.ประยุทธ์เล่นไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ คงเป็นเพราะไม่เคยเล่นบทหวานแบบนี้กับใครแต่ที่เล่นจริงไม่ใช่ละครคือ การประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ของ พล.อ.ประวิตร ที่รัฐสภา เมื่อเช้าวันพุธที่ 15 ก.ย. ผลการประชุมที่ คุณวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคที่กำลังถูกดำเนินคดีทุจริตแถลงก็คือ พล.อ.ประวิตร แจ้งต่อที่ประชุม ส.ส.ของพรรคว่า จะไม่ลาออกจากหัวหน้าพรรค เพราะรักพรรคพลังประชารัฐมาก ไม่มีเรื่องการปรับกรรมการบริหารพรรค ขอให้ ส.ส.ทุกคนลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในช่วงเวลาที่เหลืออีกปีเศษ และฝากรัฐมนตรีของพรรคให้ลงพื้นที่คู่กับสมาชิกพรรคด้วยเป็นอันว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ สองลูกรักลุงป้อมที่ถูกน้องเล็กปลดออกจากรัฐมนตรีด้วย ม.171 ยังคงเป็น เลขาธิการพรรค และ เหรัญญิกพรรค ต่อไป ลุงป้อมยังแต่งตั้งคนสนิทอีกคน พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา นั่งเป็น ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. เพื่อเดินหน้าสู้การเลือกตั้งต่อไปเมื่อ พล.อ.ประวิตร สนับสนุนให้ ร.อ.ธรรมนัส และ นางนฤมล อยู่ในตำแหน่งสำคัญของพรรคต่อไป ทั้งที่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีของพรรค ใช้อำนาจ ม.171 ปลดออกจากรัฐมนตรี แสดงให้เห็นชัดเจนว่า พล.อ.ประวิตร พร้อมที่จะเดินหน้าชนกับ พล.อ.ประยุทธ์น้องเลิฟแล้ว ไม่ใช่ภาพอย่างที่เห็นกันที่ทำเนียบรัฐบาลมาถึงตรงนี้ก็เกิดคำถามที่น่าสนใจว่า พล.อ.ประวิตรจะส่งชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ เพราะการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจม.171 ปลด ร.อ.ธรรมนัส และ นางนฤมล คนใกล้ชิดของ พล.อ.ประวิตร พ้นจากรัฐมนตรี โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ทำให้ พล.อ.ประวิตร เสียหน้าอย่างมากดังนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้า แม้ พล.อ.ประวิตร อยากจะส่งชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯของพรรคอีกครั้ง แต่ ส.ส.ในพรรคคงไม่ยอมแน่นอน โดยเฉพาะ ส.ส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัสคำถามที่น่าสนใจตามมาก็คือ ถ้า พล.อ.ประวิตร ไม่ส่ง พล.อ.ประยุทธ์ ลงเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งสมัยหน้า พล.อ.ประยุทธ์จะไปลงพรรคไหน? แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.อนุพงษ์ จะเดินเกมการเมืองต่อไปอย่างไร หรือจะเลิกเล่นการเมืองไปเลย ซึ่งอาจจะมีการเช็กบิลตามมามากมาย กลายเป็น “ปัญหาชีวิต” ครั้งใหญ่ของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ ที่ไม่แตกต่างไปจากละครน้ำเน่าในทีวีทางเดียวที่เหลือของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ ก็คือกลับไปขอคืนดีกับพี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร ซึ่งก็ต้องมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยนมากมายแน่นอนพี่น้อง 3 ป. จะกลับมารักกันอีกหรือไม่? เป็นละครการเมืองที่น่าติดตามยิ่งกว่าละครฮิตในทีวี เพราะ ละครการเมือง ต่อให้เกลียดแค่ไหนเจ็บแค่ไหน ถ้า “ผลประโยชน์แบ่งกันลงตัว” ก็รักกันง่ายกว่าละครทีวี เพราะมีเงื่อนไขเดียว คือ “ผลประโยชน์” ไม่มีเงื่อนไขอื่นที่ซับซ้อน ถ้าจบลงแบบนี้ก็เป็นเรื่องเศร้าของคนไทยและประเทศไทยต่อไปไม่รู้จบการเร่งเครื่อง ปฏิรูปการเมืองไทย ปฏิรูปรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งของ คนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน เพราะ มันเป็นอนาคตของพวกคุณจะปล่อยให้ อนาคตประเทศไทย ตกอยู่ในกำมือของ “ลุงแก่ๆ 3 คน” ต่อไปอีกห้าปีสิบปี ในโลกยุคดิจิทัล ยุคเอไอ เออาร์ เราจะอยู่กันแบบนี้ไหวหรือ แล้วจะอยู่กันยังไง.“ลม เปลี่ยนทิศ”