รอบก่อนชิงชนะเลิศ เวทีเพลงเพราะ ทีวีช่องวัน ของคุณบอย นักร้องประกวดที่ผมลุ้น แพรว รัตนาพร เลือกร้องเพลงรักต้องห้าม ตัดสินแล้วครับ แพรวหลุด...ไม่ติดกระทั่งที่สาม...ผมมีเหตุให้ค้นเรื่อง “พระพรหม” พอดี ค้นๆไป นึกขึ้นได้ เพลงรักต้องห้ามขึ้นต้นว่า“ไยพระพรหมแกล้งให้มาได้เจอ...” คนไทยคุ้นเคยพระพรหม โดยเฉพาะที่เชื่อกันว่า ทุกคนที่เกิดมา พระพรหมลิขิตชีวิตไว้บนหน้าผากสมัยวัยรุ่น ผมสนุกเล่นโคลงกลอนหลายโคลง ที่ “ศรีปราชญ์” ตอบโต้พระสนม หรือที่เขียนด้วยนิ้วเท้าไว้บนรอยทราย ก่อนถูกประหาร “ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน...” ตอนอ่านก็เชื่อเขาว่าเป็นสำนวนโคลงสมัยศรีปราชญ์แต่ต่อๆมา ยิ่งตอนแก่เชื่อสนิทเลย เป็นสำนวนสมัยใหม่ อย่างดีก็ต้นรัตนโกสินทร์เรื่องเล่าตอนหนึ่งที่เร้าใจ สมเด็จพระนารายณ์ ทรงแต่งโคลงสี่ “เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม (ท่วม) ถึงพรหม พาหมู่สัตว์จ่อมจมชีพม้วย พระสุเมรุเปื่อยเป็นตม ทบท่าว...ลงแฮ...จบสามบาท สมเด็จพระนารายณ์ทรงเจอทางตันเหล่าบริพาร ปลื้มโคลงพระเจ้าแผ่นดิน ความรักที่ยิ่งใหญ่ น้ำตาที่เกิดจากการร้องไห้ มากเสียจนท่วมถึงสวรรค์ชั้นพรหม ท่วมนานเสียจนเขาพระสุเมรุเปื่อย พังครืน...คำถามจึงมีแล้ว “เรียม” หนุ่มเจ้าของน้ำตา ผู้ร้องไห้พิไรรำพันเล่า จะอยู่ที่ไหนหลายกวี แต่งโคลงบทที่สี่ ไม่เป็นที่พอพระทัย จบลงตรง “ศรีปราชญ์” แต่ง“อกนิษฐ์มหาพรหมฉ้วย (ช่วย) พี่ไว้จึงคง”พระนารายณ์โปรดนัก เออ...เจ้าศรีปราชญ์ ฉลาดหลักแหลม รู้ดีถึงขั้นที่ว่า “รูปพรหม” สวรรค์ของพรหมที่มี 16 ชั้น ชั้นที่น้ำท่วมไม่ถึงอกนิษฐ์ คือชั้น 16 อยู่ชั้นเดียวสมัยพระพุทธเจ้า “พรหม” เชื่อถือกันอยู่แล้ว เป็นเทพผู้สูงสุดในศาสนาพราหมณ์พจนานุกรมพุทธศาสตร์ฉบับประมวลศัพท์ อาจารย์พระมหาประยุทธ ปยุตโต อธิบายว่า มี 2 พวก คือรูปพรหมมี 16 ชั้น อรูปพรหมมี 4 ชั้นพุทธศาสนา ใช้พรหมหลายคำ พรหมจารี ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ พรหมไทย ที่ดินหรือบ้านเมืองที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทาน พรหมบุญ บุญอย่างสูง อานิสงส์ของคนที่ชักนำให้สงฆ์สามัคคีกันพระพุทธเจ้าทรงเอา “พรหม” มาประยุกต์ใช้เป็นธรรมะ หัวข้อ ที่เรารู้จักกันดี คือพรหมวิหาร มี 4 ข้อเมตตาความรักความปรารถนาดี ต้องการให้ผู้อื่นมีความสุข กรุณาความสงสาร คิดจะช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มุทิตา ความพลอยยินดี ที่ผู้อื่นได้ดี อุเบกขา ความวางใจเป็นกลางไม่ดีใจไม่เสียใจ เมื่อคนอื่นได้รับความวิบัติตามคำสอนพระพุทธเจ้า พรหม ไม่ใช่เทพเจ้าสูงสุด...แต่กลายเป็นคนเดินดินด้วยกันพรหมวิหารโดยความหมาย เป็นหลักประจำใจของผู้ใหญ่ เป็นธรรมที่กระตุ้นให้เกิดการสงเคราะห์ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น ให้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยคำแปล ธรรมเป็นเครื่องอยู่ของพรหม ธรรมของผู้เสริฐ ธรรมของผู้ใหญ่ตามหลักพรหมวิหาร พ่อแม่ในบ้าน เป็นพรหมของลูกๆทุกคนผมถูกสอนมาอาชีพนักเขียน ฯลฯ เมื่อกำลังเขียนนิยาย ต้องมี “หัวใจพรหม” (ปากกาทอง พิชัย โอตรดิษฐ์ พ.ศ.2495) ไม่เช่นนั้น งานเขียนจะไม่เข้าถึงดึงดูดจิตผู้อ่านไว้ได้เลยคนอ่านข่าว หรือนักข่าว ขณะปฏิบัติหน้าที่ก็เหมือนกัน ควรทำใจให้เป็นกลาง ไม่โกรธจนเสียกิริยา ไม่ควรเศร้าจนน้ำตาไหล ผมไม่เชื่อว่าผู้รับสารอยากเห็นคนเป็น “สื่อ” อ่อนแอถึงขั้นนั้นผมไม่กล้าไปสอนใครอย่าร้องไห้ หากใครจะร้อง ก็ให้เขาร้อง จากหัวใจของเขาเอง.กิเลน ประลองเชิง