ยึดอำนาจได้ แต่ครองใจคนไม่ได้ สถานการณ์การเมืองในเมียนมา เริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าแนวโน้มจะเป็นอย่างไรต่อไป คือฝ่ายยึดอำนาจ ภายใต้การนำของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผบ.สูงสุดแม้จะได้อำนาจ แต่ปกครองไม่ได้เมื่อชาวพม่าโดยทั่วไปแล้ว บรรดาข้าราชการต่างก็ลุกขึ้นมาต่อต้านที่ขยายวงกว้างมากขึ้นไปแทบทุกพื้นที่ที่น่าสังเกตก็คือมีลูกเขยของ พล.อ.อาวุโสตานฉ่วย ที่เคยมีอิทธิพล มีอำนาจ มีผลประโยชน์มากมายมหาศาลพล.อ.ตานฉ่วยนั้น ต้องถือว่าไม่ธรรมดา เพราะครองอำนาจในเมียนมามาอย่างยาวนาน และคุมกองทัพได้อีกด้วยผู้นำทหารคนปัจจุบันก็เคยได้รับการสนับสนุนให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จนสามารถขึ้นมากุมอำนาจในปัจจุบันการที่ “ลูกเขย” ออกมาแสดงจุดยืนอย่างนี้ ถือว่าไม่ธรรมดาพล.อ.ตานฉ่วยกับนางอองซาน ซูจี ที่เคยต่อสู้ทางการเมืองกันมา แต่หลังจากยินยอมให้มีการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่และจัดการเลือกตั้ง“อองซาน ซูจี” จึงชนะการเลือกตั้งและพรรคการเมืองคุมเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด จนสามารถบริหารประเทศครบวาระและจัดการเลือกตั้งปรากฏว่าพรรคของนางชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้นพล.อ.ตานฉ่วยกำลังเปลี่ยนท่าทีด้วยการหันมาสนับสนุนแนวทางประชาธิปไตย และไม่ยอมรับระบบเผด็จการทหารแม้กระทั่งจีนเอง ระยะหลังมีความสัมพันธ์ค่อนข้างจะดีกว่าฝ่ายทหารเสียอีก ทำให้จีนให้ความช่วยเหลือหลายรูปแบบพูดง่ายๆว่าฝ่ายทหารคงไม่สบอารมณ์เท่าใดนักแต่เมื่อมาเกิดเหตุการณ์ “ยึดอำนาจ” ขึ้นมา ทำให้จีนต้องปรับความสัมพันธ์ ซึ่งไม่มีทางเลือกอย่างอื่น ต้องหนุนหลังอย่างเดียวเพราะรู้ดีว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในพม่านั้น สหรัฐฯจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวเต็มตัวแน่ ด้วยยุทธศาสตร์ที่ต้องขยายอิทธิพลในภูมิภาคนี้“สหรัฐฯ” ถอยห่างไปจากอาเซียนมากพอสมควร และกำลังวางแผนที่จะเข้ามามีอิทธิพลอย่างเต็มตัวเมื่อมีเหตุในเมียนมา จึงถือเป็นโอกาสที่จะโดดเข้ามาได้อย่างชอบธรรม“พม่า” จึงเป็น “ยุทธภูมิ” สำคัญที่จีนและสหรัฐฯจะใช้เป็นเวทีที่จะเปิดเกมต่อสู้กันทุกรูปแบบและจะนำไปสู่การเกิดสงครามใหญ่ได้ยิ่ง “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐฯหมาดๆ กำลังต้องการโชว์ศักยภาพความเป็นผู้นำ หลังจากตกต่ำมานานแล้ว อีกทั้งยังต้องการลดบทบาท “จีน” ที่กำลังโดดเด่นไม่แพ้กันเบื้องต้นต้องดูว่ารัฐบาลทหารจะคุมสถานการณ์ได้นานแค่ไหน เพราะดูตามเนื้อผ้าแล้ว แม้เผด็จการทหารพม่าที่ผ่านมาจะได้ชื่อว่า “โหด” ต่อกรยากแต่สถานการณ์โลกได้เปลี่ยนไป คนพม่าตื่นตัวทางการเมืองสูงและเคยรู้ซึ้งดีว่าเผด็จการนั้นเป็นอย่างไร แต่การออกมาต่อต้านแบบ “กูไม่กลัวมึง” อย่างนี้คงต้องแพ้-ชนะกันไปข้างแน่นอนมีเดิมพันอยู่ที่ “สหรัฐฯ-จีน” ด้วย.“สายล่อฟ้า”