เรื่องของเด็กสาวอำเภอศรีประจันต์ สุพรรณบุรี ที่มีวิถีชีวิตแบบบ้านๆ บากบั่นฝ่าฟัน จนมาเป็น “ขวัญจิต ศรีประจันต์” ที่คนทั้งประเทศรู้จักนั้น ไม่ใช่ง่ายๆ เอนก นาวิกมูล เขียนไว้ ในศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนสิงหาคม 2563 ทั้งเรื่องราวทั้งสำนวนจับใจ ผมอดใจไม่ไหว ต้องขอย่อเอามาเล่าต่อเกิดที่บ้านตายาย แถวลาดป้อม ริมแม่น้ำสามโก้ ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อปี 2490 พ่อชื่อนายอัง เสร็จกิจ แม่ชื่อปลด แถวบ้านเกิดตอนนั้นยังมีลาดเวิ้งเหมือนหาดทราย ให้เด็กวิ่งเล่นไม่ไกลนักจากบ้านแม่ตะลุ่ม สุทน แม่เพลงรุ่นเก่าเรียนที่โรงเรียนวัดพังม่วง จบ ป.4 ตอนเรียนยังชื่อ“อาเกียว” แปลว่าคนสวย เหตุเพราะมีเชื้อจีน จาก“ก๋งบ๋วย”หน้าตาแผกเพื่อน เพื่อนไม่เรียกชื่อ แต่เรียก อีเจ๊กน้ำพริก อีเจ๊กปลาร้า อีเจ๊กปลาเจ่า ทนโกรธเอาไว้พอเลิกเรียน ก็แอบไปดักตีเพื่อน บางทีเพื่อนก็ตีโต้ ครั้งเจอไม้สะแกมีตาฟาดหัว ทำเอาผมหายไปหย่อมหนึ่ง จึงหายซ่าไปพักใหญ่เรียนจบช่วยแม่ขายก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ตอนนั้นขายจานละ 1 สลึง ไม่มีเงินซื้อผ้าผ่อนมานุ่งห่มไปเรียนดัดผมที่ตำบลบ้านกร่าง จบแล้วก็ออกมารับจ้างดัดผมไป ทำนาไปราว 1 ปี พอดี ครูเพลงอีแซว พ่อไสว วงษ์งาม มาหาแม่ใหญ่ (ยายผ่อง) จะขอเอาสองน้องฝาแฝด อนงค์ (ขวัญใจ) กับ บุญนะ ไปหัดเพลงขวัญจิต ขอไปหัดเพลงบ้าง ครูว่า “ข้าไม่เอา เอ็งมันโตกว่าเพื่อน ข้ากลัวแกเรียนไม่นานก็ไปมีผัว”ขวัญจิตเล่าเรื่องนี้บนเวที ด้วยลีลาเพลงอีแซว “ ก็รู้สึกเสียใจ น้าเขาไม่รับ เปรียบเหมือนเทียนดับ มองไม่เห็นอันใด”ตอนน้องไปเรียนที่บ้านครูไสว ยังมีครูเพลงหญิง แม่บัวผัน อีกคน ขวัญจิตพยายามตามไปดูน้องหัดเพลง บอกกับแม่ว่าจะหาข้าวหาปลาไปส่งน้อง เขาหัดเพลงบนบ้าน ก็แอบฟังอยู่ใต้ถุนมีช่องให้เข้าครัวช่วยพี่ประจวบ ลูกสาวครูเพลงบัวผันหุงข้าวต้มแกง พี่ประจวบบอก“ในเมื่อเขาไม่สอนให้เอ็ง ข้าจะสอนให้” พี่ประจวบเจ้าเนื้อสักหน่อย รำสวย สอนขวัญจิตยังไง ก็จำได้หมดพวกน้องไปออกงานอยู่บ้านอย่างเหงาๆ จนวันหนึ่ง ครูไสวถาม “อีเกลียว (อีกชื่อเรียก) มึงร้องได้มั่งหรือเปล่า” เหตุเพราะเด็กที่ฝึกๆ กันไว้เริ่มรับงานหนักไม่ไหว โอกาสขวัญจิตมาถึงได้ออกงานเล่นเพลงอีแซว ต่อด้วยการฝึกหัดทำขวัญนาค เป็นผู้หญิงออกงานไปนอนค้างอ้างแรมบ้านงานไม่สะดวก จึงต้องอยู่เฝ้าบ้าน ฟังเพลงลูกทุ่งทางวิทยุ ตอนนั้น พ.ศ.2500 ชาย เมืองสิงห์ สุรพล สมบัติเจริญ กำลังดังหนี้สินที่บ้าน เป็นแรงกดดัน หาทางชวนน้องเข้ากรุงเทพฯ ทดสอบร้องเพลง ให้จำรัส วิภาตะวัต เจ้าของวงดนตรี จำรัส สุวคนธ์ ฟัง เลือกร้องเพลงอีแซว ผสมแหล่ แต่งเนื้อเอง ครูฟังแล้ว เลือกเข้าวง จำรัส สุวคนธ์ (น้อย) เจอ “จิ๋ว พิจิตร” ครูเพลง ช่วยแต่งเพลงให้ เป็นนักร้องดัง แล้วต่อมาก็เป็นแฟนกันขวัญจิตร้องเพลงออกวิทยุ ครูจิ๋วฟังบนรถเมล์ เลยมาหาที่บ้าน เขาเป็นเพื่อนกับหัวหน้าวงจำรัส เขาว่าเด็กคนนี้ปั้นได้ ฟังให้ดีนะ ปั้น ไม่ใช่ปล้ำ แต่ความจริงไม่ได้แตกต่างกันนะครูจิ๋ว แต่งเพลง เบื่อสมบัติให้ขวัญใจ น้องขวัญจิต ร้องอัดแผ่นเสียง แก้เพลงไวพจน์ เพชรสุพรรณ แต่วันนัดขวัญใจเป็นอีสุกอีใส โชคชะตาฟ้าลิขิต ให้ ขวัญจิต ศรีประจันต์ จะได้เป็นนักร้องอยากอ่านย้อนชีวิต ขวัญจิต ศรีประจันต์ สำนวน เอนก นาวิกมูล ฉบับเต็มๆ รับรองสนุกกว่านิยาย ถ้าอยู่ในงานสัปดาห์หนังสือระดับชาติ ที่เมืองทองธานี ลองแวะเข้าบูธ “มติชน” งานจะมีถึง 10 ต.ค.หนังสือดีๆมีรอให้อ่านอีกมากมายผมเชื่อว่า“สื่อหนังสือ”ยังยืนยงคงอยู่ต่อไปอีกนาน นานกว่ารัฐบาลที่มาแล้วก็ไป บางรัฐบาลมีเสียงบ่นหนาหู หกปีก็น่าจะเกินพอแล้วพ่อคุณ.กิเลน ประลองเชิง