กระทรวงมหาดไทยได้ปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพของบข้าราชการส่วนท้องถิ่นเสียใหม่โดยให้เหตุผลว่า...โดยที่ค่าครองชีพภายใต้เศรษฐกิจในปัจจุบัน มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเป็นลำดับทำให้ผู้รับบำนาญได้รับความเดือดร้อนในการดำรงชีพ จึงสมควรปรับปรุงอัตราบำเหน็จดำรงชีพเพื่อให้ผู้รับบำนาญสามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจึงออกกฎกระทรวงเกี่ยวกับเรื่องนี้ของข้าราชการส่วนท้องถิ่นเสียใหม่โดยกำหนดว่าข้อ 1 บำเหน็จดำรงชีพให้จ่ายในอัตราสิบห้าเท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับแต่ไม่เกินห้าแสนบาท โดยให้มีสิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพ ดังต่อไปนี้(1) ผู้รับบำนาญซึ่งมีอายุต่ำกว่าหกสิบห้าปี ให้มีสิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกิน สองแสนบาท(2) ผู้รับบำนาญซึ่งมีอายุตั้งแต่หกสิบห้าปีขึ้นไปแต่ไม่ถึงเจ็ดสิบปี ให้มีสิทธิขอรับบำเหน็จ ดำรงชีพได้ไม่เกินสี่แสนบาท แต่ถ้าผู้รับบำนาญนั้นได้ใช้สิทธิตาม (1) ไปแล้ว ให้ขอรับบำเหน็จ ดำรงชีพได้ไม่เกินส่วนที่ยังไม่ครบตามสิทธิของผู้นั้น แต่รวมกันแล้วไม่เกินสี่แสนบาท(3) ผู้รับบำนาญซึ่งมีอายุตั้งแต่เจ็ดสิบปีขึ้นไป ให้มีสิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกินห้าแสนบาท แต่ถ้าผู้รับบำนาญนั้นได้ใช้สิทธิตาม (1) หรือ (2) ไปแล้ว ให้ขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกินส่วนที่ยังไม่ครบตามสิทธิของผู้นั้น แต่รวมกันแล้วไม่เกินห้าแสนบาทนอกจากนั้น ยังมีการออกกฎกระทรวง การหักเงินจากประมาณการรายรับในงบประมาณรายจ่ายประจำปี สมทบเข้าเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2563 โดยกำหนดให้ราชการส่วนท้องถิ่นหักเงินจากประมาณการรายรับในงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อสมทบเข้าเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่นในอัตราร้อยละสอง เว้นแต่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และ เมืองพัทยาให้หักในอัตราร้อยละสาม การคำนวณส่งเงินสมทบกองทุน บำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น ถ้ามีเศษของบาท ให้ปัดทิ้งทั้งนี้ เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่ราชการส่วนท้องถิ่นมีผู้เกษียณอายุราชการจำนวนมากและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการบริหารกองทุนบำเหน็จ บำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่นในอนาคต ดังนั้น เพื่อให้กองทุนมีสภาพคล่องในการบริหารกองทุนบำเหน็จ บำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น จึงสมควรกำหนดอัตราการหักเงินสมทบเข้าเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญ ข้าราชการส่วนท้องถิ่นให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบันและภาระค่าใช้จ่ายของกองทุนบำเหน็จบำนาญ ข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวนี่เป็นข่าวดีสำหรับข้าราชการส่วนท้องถิ่นทั้งที่เกษียณอายุแล้วและกำลังเกษียณ หรือเกษียณออกมาไม่ถึงเดือนจะได้เตรียมตัวรับสิทธิเมื่อถึงเวลาตามที่กำหนดแล้วก็อย่าลืมสนับสนุนการเลือกตั้งท้องถิ่นที่รัฐบาลสัญญาว่าจะมีในปลายปีนี้ด้วยล่ะ.“ซี.12”