บอกทำได้ไม่ยาก หากทุกฝ่ายโอเค แต่ว่าอย่าสุดโต่ง“เสรี” รับได้ถ้ารื้อที่มา ส.ว. แต่ต้อง มีเหตุมีผล ชี้ถ้าสังคมเห็นพ้องก็แก้ ไม่ยาก ยอมรับม็อบเด็กมีโอกาสจุดติด “อนุดิษฐ์” ชี้ถึงเวลาต้องแก้ รธน. “ภราดร” เชื่อพลัง นศ.ขยายวงเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ “จิรายุ” เย้ย รบ.กระแสดำดิ่ง ทำตัวเองทั้งนั้น ขอมองลูกหลานอย่าเห็นเป็นศัตรู รองโฆษก พท.จี้สังคายนากระบวนการยุติธรรม “เสรีฯ” แนะ “3 ป.” รีบคืนอำนาจประชาชน ครม. “ตู่ 2/2” เก้าอี้คนนอกยังมานิ่งๆ “นฤมล” ชื่อยังติดโผเป็น รมช. แรงงาน กลุ่ม ปชต.ใหม่ประชดกินส้มโอ “โอ้โห โอชา”กระแสกดดันทางการเมืองจากการแสดงพลังของกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่ยื่นข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล 3 ข้อ โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เริ่มมีเสียงตอบรับจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะในส่วนของ ส.ว.ที่เริ่มเสียงอ่อนลง โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ระบุว่าการแก้ปมที่มาของ ส.ว. สามารถทำได้ถ้ามีเหตุมีผล“เสรี” ชี้รื้อที่มา ส.ว.ต้องมีเหตุผลเมื่อวันที่ 27 ก.ค. นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กล่าวถึงการเคลื่อนไหวให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นที่มา ส.ว.ว่า ต้องดูข้อเสนอว่าจะให้แก้ในเรื่องไหน เพราะจะมี 2 แบบ คือ 1.ขอแก้โดยร่างใหม่ทั้งฉบับ หรือแก้ไขเฉพาะเรื่อง 2.วิธีแก้ไข จะแก้ไขโดยให้รัฐสภาเป็นคนแก้ในเนื้อหา หรือจะให้ตั้ง ส.ส.ร.มาแก้ ถ้าแก้ในระบบรัฐสภาใช้หลักการที่อยู่ในหมวดการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็แก้ได้เลย ถ้าแก้โดยให้มี ส.ส.ร.ก็ต้องให้มี ส.ส.ร.มาก่อน ประเด็นที่จะแก้ควรมาว่ากันด้วยเหตุด้วยผล และจะแก้ทั้งฉบับ หรือแก้เฉพาะเรื่อง เช่น เกี่ยวกับระบบเลือกตั้ง อยู่ที่ว่าจะเอาแบบไหน ถามว่า ช่วงเวลานี้สมควรแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้ามองว่ามีม็อบออกมาเรียกร้องคงไม่พอ ต้องฟังเสียงประชาชนด้วย โดยเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอให้แก้ไขที่มา ส.ว.นั้น ตนไม่ขัดข้อง แต่ต้องมาพูดกันด้วยเหตุผล ถ้าเรียกร้องอยู่ในเงื่อนไขก็พอรับได้ เดินไปข้างหน้าได้ แต่ถ้าเสนอสุดโต่งก็จะเริ่มขัดแย้งกันถ้าสังคมเห็นพ้องก็แก้ไม่ยากเมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของม็อบและข้อเรียกร้องต่างๆ ถือว่าจุดติดหรือไม่ นายเสรีตอบว่า จุดติดหรือไม่ยังไม่รู้ แต่โอกาสทำให้คนมารวมตัวมากขึ้นก็มีเพิ่มขึ้น ซึ่งก็มีโอกาสไปได้ ไม่เป็นไรทุกอย่าง อยู่ที่เหตุผล ไม่เรียกร้องวันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องเรียกร้อง เพราะบ้านเมืองเป็นอย่างนี้มาตลอด ดังนั้นการแก้รัฐธรรมนูญหากเห็นพ้องร่วมกันทุกฝ่ายก็แก้ได้ แต่ถ้าไม่เห็นพ้องกันก็แก้ยาก “อนุดิษฐ์” ชี้ถึงเวลาต้องแก้ รธน.ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ที่ออกมายอมรับต้องทบทวนการแก้รัฐธรรมนูญ ว่า ขนาด ส.ว.ที่รัฐบาลเลือกมาเอง ยังมีความเข้าใจว่ากติกาของประเทศที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคืออุปสรรค ทุกฝ่ายทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน เข้าใจตรงกันว่าต้องปรับปรุงแก้ไขให้เป็นกติกาที่สอดคล้องกับการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ดังนั้นเมื่อทุกฝ่ายเห็นสอดคล้องต้องกันเช่นนี้ รัฐบาลคงอยู่เฉยไม่ได้ ต้องนำสิ่งเหล่านี้ไปคิดสังเคราะห์และนำมาสู่การปฏิบัติ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศโดยเร็ว เพราะวันนี้เห็นกันอยู่ว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหา ถึงเวลาแล้วที่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ“ภราดร” เชื่อพลัง นศ.ขยายวงพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร คณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มั่นใจว่าการเคลื่อนไหวของนักเรียน นักศึกษา ประชาชน จะสร้างความรับรู้จนขยายวงเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ปัจจุบันมีการชุมนุมไปแล้วกว่า 40 จังหวัด โดยผู้เข้าร่วมจะไม่ถูกจำกัดเฉพาะกลุ่มนักศึกษาเท่านั้น ขณะที่เนื้อหาสาระในการชุมนุมจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยกระบวนการดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อมหาวิทยาลัยและโรงเรียนต่างๆเปิดการเรียนการสอนเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ผู้มีอำนาจที่ไม่ได้มาตามครรลองประชาธิปไตย มักเป็นพวกที่หูตึงตาบอด จึงเชื่อว่าถูกยุยงให้ออกมา ความพยายามที่จะผ่อนสถานการณ์ของผู้มีอำนาจขณะนี้ มองว่าสายเกินไปแล้ว ประชาชนไม่เชื่อถือศรัทธาอีกแล้ว หากฝ่ายผู้มีอำนาจไม่ยอมถอย ยืนกรานยอมหักไม่ยอมงอ สุดท้ายคงหลีกเลี่ยงความรุนแรงยาก แต่เชื่อว่าพลังของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน จะกลายเป็นฉันทามติร่วมนำไปสู่การแก้ไขและดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 เรื่อง สุดท้ายข้อเสนอจะตกผลึกและกลายเป็นความชอบธรรม ของคนส่วนใหญ่ ให้นายกฯ รับฟังก่อนไฟลามทุ่งร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช กรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายกฯคงเมินเฉยต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษาไม่ได้อีกต่อไป ควรรับฟังข้อเรียกร้องและปฏิบัติตามอย่างจริงใจ เพราะการแสดงออกของประชาชนถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนพึงมีตามระบอบประชาธิปไตย การตัดสินใจแก้ไขวิกฤติในครั้งนี้ จะเป็นตัวชี้วัดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะถูกบันทึกชื่อในฐานะวีรบุรุษ หรือบุรุษแห่งอำนาจนิยม หากรัฐบาลปิดหูปิดตาไม่รับฟังความต้องการของม็อบเยาวชนปลดแอก ต้องรับมือกับไฟที่จะลามทุ่งต่อไปแน่นอนเย้ย รบ.กระแสดำดิ่งทำตัวเองนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผลโพลต่างๆที่ออกมาในช่วงหลัง ที่ระบุว่าความเชื่อมั่นรัฐบาลลดลง และอยากให้เปลี่ยนแปลงผู้บริหารประเทศนั้น รัฐบาลต้องพึงคิดได้ว่าประเทศชาติต้องการอะไร สิ่งที่ประชาชนสะท้อนออกมาต้องนำไปคิดให้มาก เพราะไม่ได้มีแค่กลุ่มนักศึกษาเท่านั้น ผลโพลที่ออกมาเป็นความรู้สึกของประชาชนที่ต้องการให้ประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงด้วยว่าจะแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจอย่างไร วันนี้ประชาชนไม่มั่นใจเพราะรัฐบาลมีแต่แจกเงินด้วยเงินกู้ ทำให้คะแนนนิยมตกลงทุกวัน ไม่ต้องโทษคนอื่นเพราะท่านทำตัวเอง หากย้อนกลับไปมองเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่ท่านมองรัฐบาลในตอนนั้นอย่างไร วันนี้ประชาชนก็คิดกับท่านแบบนั้น และอาจจะมากกว่าเพราะไม่สามารถแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจได้มองลูกหลานอย่าเห็นเป็นศัตรูนายจิรายุกล่าวต่อว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนที่ลามไปทั่วประเทศ ขอให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรู้สึกว่าลูกหลานคือกำลังสำคัญที่จะพัฒนาประเทศ อย่ามองพวกเขาเป็นคนร้าย แต่ให้มองว่าเขาตั้งใจนำพาประเทศไปข้างหน้า คนสองวัยต้องรับฟังซึ่งกันและกัน เพราะทั่วโลกทำซ้ำเป็นทฤษฎีแล้วว่าคนสองวัยนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญได้ แต่ถ้าท่านมองลูกหลานเป็นศัตรู ก็ไม่มีประโยชน์กับประเทศชาติจี้สังคายนากระบวนการยุติธรรมนายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมต่อกระบวนการยุติธรรมในประเทศขณะนี้ มองว่ากระบวนการยุติธรรมไทยใกล้ถึงจุดวิกฤติศรัทธาแล้ว เพราะผู้คนในสังคมกังขาว่ามีการบังคับใช้กฎหมายอย่างบิดผัน ทำให้สูญเสียความเชื่อมั่นในฐานะเป็นที่พึ่งสุดท้ายแห่งความยุติธรรม จนกลายเป็นความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สำหรับการบังคับใช้กฎหมายในทางการเมือง และการบริหารประเทศ การจัดทำรัฐธรรมนูญโดยมีบทบัญญัตินิรโทษกรรมให้ตนเองกับพวก มีการตรากฎหมายให้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้มีอำนาจ บังคับใช้กฎหมายในลักษณะสองมาตรฐานค่อนข้างชัดเจน ส่งผลให้หลักนิติรัฐนิติธรรมพังทลายลง เรามีคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจเร่งสังคายนา และปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจังทั้งระบบ ทำให้กระบวนการยุติธรรมไทย เป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนอย่างแท้จริง“เสรีฯ” แนะ “3 ป” รีบคายอำนาจวันเดียวกัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้า พรรคเสรีรวมไทย กล่าวระหว่างลงพื้นที่ช่วยนายมานะ บุญนาค ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 5 พรรคเสรีรวมไทย หาเสียงที่ตลาดกิ่งแก้ว ตลาดสดเคหะบางพลี ว่า ขณะนี้นักศึกษาออกมาไล่รัฐบาลทุกวันด้วยเจตนาบริสุทธิ์ แต่บางคนในรัฐบาลบอกมีวาระซ่อนเร้น รัฐบาลควรรับฟังนักศึกษา เพราะถือเป็น หนึ่งในเจ้าของประเทศ เป็นอนาคตชาติ แต่วันนี้ใน รัฐบาลมีแต่ข่าวแย่งเก้าอี้ มีอะไรให้ชาวบ้านสบายใจบ้าง จนโพลสะท้อนความไม่เชื่อมั่นรัฐบาล ระบุว่าหากวันนี้มีเลือกตั้งใหม่ ฝ่ายประชาธิปไตยชนะกว่าร้อยละ 80 แบบนี้ 3 ป ยังอยากอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ ปัญหามาจากการอยากสืบทอดอำนาจของ 3 ป เขียนกฎหมายมาเอื้อพวกตัวเอง ทางออกคือฟังเสียงสังคม แก้กฎหมาย แล้วคืนอำนาจให้ประชาชน ส.ว.บางคน ที่มาจากการคัดเลือกของขั้วอำนาจเก่ายังยอมรับให้แก้ กติกาเลย 3 ป ต้องยอมรับว่าสังคมไม่เอาแล้ว ขอเตือนว่า อย่าฝืนกระแส หากยังดื้ออีกประเทศอาจจะพังได้ “ธนาธร” จี้รัฐอัดฉีดคนเล็กคนน้อยที่ตลาดหัวถนน ชุมชนปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมนายไกลก้อง ไวทยการ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และนายไพบูลย์ กิจวรวุฒิ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นนทบุรี และทีมงาน ลงพื้นที่รับฟังปัญหา สภาพเศรษฐกิจภายใต้วิกฤติโควิด-19 นายธนาธร กล่าวว่า มีโอกาสเดินตลาดรับฟังสภาพความเป็นอยู่ ของพี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ทุกคนพูดเป็นเสียง เดียวกันว่า ยอดขายลดต่ำลงไปกว่าครึ่ง ชี้ให้เห็นว่า สภาวะเศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่กำลังซื้อในประเทศถดถอย พ่อค้าแม่ขายหลายรายตกอยู่ในภาวะยากลำบาก หลายส่วนเป็นหนี้นอกระบบ ทุกคนกำลังกระเสือก กระสนดิ้นรนต่อสู้กับชีวิตในรูปแบบของตัวเอง หวังว่า ภาครัฐจะให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะ กระตุ้นเม็ดเงินลงมาสู่คนเล็กคนน้อยในสังคมได้จริง“เทพไท” หนุนเกษตรทฤษฎีใหม่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า เป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่ถูกจุด ประเทศไทยมีจุดเด่นในเรื่องการเกษตรกรรมต้องได้รับ การผลักดันให้เป็นจริงในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะพื้นที่ ภาคใต้ควรมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำเกษตรใหม่ โดยรัฐบาลส่งเสริมอุดหนุนงบประมาณครัวเรือนละ 100,000 บาท ให้กับครัวเรือนที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ เกษตรทฤษฎีใหม่ ผ่านการอบรมวิธีการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชผลไม้แทนพื้นที่ปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน เช่น ปลูกส้มโอทับทิมสยาม ผลไม้เกรดพรีเมียมราคาสูง เป็นที่ต้องการ ของตลาดโลก ถ้ารัฐบาลส่งเสริมจริงจังจะเป็นการแก้ ปัญหาราคายางพารา และปาล์มน้ำมัน ที่ยั่งยืนตลอดไปก้าวไกลโวยฉายซ้ำละคร “กรุง”ขณะที่นายอำนาจ สถาวรฤทธิ์ ที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สมุทรปราการเขต 5 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า มอบหมายฝ่ายกฎหมาย พรรคไปยื่นหนังสือต่อนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบบริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ที่นำละครเรื่องเพลงรักผาปืนแตก มาออกอากาศซ้ำทางช่อง 7 HD รวมถึง สื่ออิเล็กทรอนิกส์ช่องทางเว็บไซต์ bugaboo.tv ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงเวลา 09.30-11.20 น. ที่มีนายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ผู้สมัครซ่อม ส.ส.สมุทรปราการ พรรค พปชร. เป็นนักแสดงร่วม ขอให้ กกต. พิจารณาเพราะอาจเข้าข่ายเป็นการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง ทางวิทยุกระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์ อาจขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 81 อาจเป็นการกระทําเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับนายกรุงศรีวิไล ขอให้ กกต.พิจารณาและมีมติต่อเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่เลือกตั้งขณะนี้ เริ่มมีการเดิน จดชื่อและเก็บบัตรประชาชนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปแล้ว ขอให้ กกต.ตรวจสอบความผิดปกติดังกล่าว ก่อนจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 9 ส.ค.นี้ด้วย“ครม.ตู่2/2” สองคนนอกยังมานิ่งๆผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) “ประยุทธ์ 2/2” ว่า หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ประกาศยืนยันทุกอย่างเรียบร้อยกลางเดือน ส.ค. โดยมี 6 ตำแหน่งว่างลง คือ รองนายกรัฐมนตรี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รมว.คลัง รมว.พลังงาน รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ รมว.แรงงาน นั้น ล่าสุดรายชื่อส่วนใหญ่เริ่มนิ่งแล้ว ส่วนของคนนอก 2 คนที่คาดว่ามาแน่นอน คือ นายปรีดี ดาวฉาย อดีตนายกสมาคมธนาคารไทย ที่คาดว่าจะมาเป็นรองนายกฯควบ รมว.คลัง หรือ รมว.คลัง เพียงตำแหน่งเดียว และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ที่ได้ลาออกจากบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอลจำกัด (มหาชน) หรือ GC มีชื่อมาเป็น รมว.พลังงาน ทั้งคู่ได้ยื่นลาออกจากกรรมการบริษัทเอกชน “นฤมล” ชื่อยังติดโผ รมช.แรงงานขณะที่ฝ่ายพรรคการเมือง ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลไม่ขยับ มีเพียงที่สลับกันบางส่วนเท่านั้น โดย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเป็นชื่อของนายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ส่วนนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค พปชร. จะมานั่ง รมว.แรงงาน สลับโควตาให้นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ กรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติ­ไทย (รปช.) ไปเป็น รมว.การอุดมศึกษาฯแทน สำหรับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวอาจหลุดโผ ครม. ล่าสุดมีรายงานว่าเมื่อวันที่ 24 ก.ค. นางนฤมลได้กรอกส่งแบบประวัติและคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว คาดว่านางนฤมลจะไปนั่งเป็น รมช.แรงงานสภาพัฒน์แจงหั่นเงินพิเศษ อสม.อีกเรื่อง นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ กล่าวชี้แจงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ระบุว่าสภาพัฒน์ตัดเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมเดือนละ 500 บาท แก่อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จาก 19 เดือน เหลือ 7 เดือน ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอโครงการขอรับการจัดสรรจากเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน วงเงินรวมประมาณ 51,985 ล้านบาท คณะกรรมการกลั่นกรองฯ และคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณาเห็นว่า อสม. ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละมาตลอด โดยเฉพาะช่วงการระบาดของโควิด-19 อสม.เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ควบคุมการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ตามมติ ครม.เห็นชอบให้กำหนดอัตราการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ และระยะเวลาสิ้นสุดการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษระยะแรกไว้ที่เดือน ก.ย.นี้ คณะกรรมการฯจึงพิจารณาตามหลักการดังกล่าว นอกจากนี้กรอบวงเงินด้านสาธารณสุขของ พ.ร.ก.กู้เงินฯ ที่กำหนดไว้ 45,000 ล้านบาทนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอขอใช้จ่าย วงเงิน 51,985 ล้านบาท เกินจากกรอบวงเงิน 6,985 ล้านบาท ประกอบกับปัจจัยความไม่แน่นอนของการระบาดของโควิด-19 ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดการระบาดซ้ำในช่วงต่อไปหรือไม่ปชต.ใหม่กินส้มโอ “โอ้โห โอชา”เวลา 16.30 น. ที่บริเวณร้านแมคโดนัลด์ สาขาราชดำเนิน ตรงข้ามอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มมวลชน “ขบวนการประชาธิปไตยใหม่” (NDM) นำโดยนายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ จัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ “ส้มโอ-โอ้โห!-โอชา” มีการกินส้มโอที่เขียนข้อความ อาทิ ยุบสภา, หยุดคุกคาม ปชช., ส.ว. 250, ความเป็นธรรม, งบประมาณ, แก้ รธน. นอกจากนี้ ยังมีการติดป้ายบุคคลที่ถูกบังคับสูญหาย เช่น กาสะลอง, ภูชนะ, สุรชัย แซ่ด่าน ท่ามกลางประชาชนเข้าร่วมจำนวนหลายร้อยคน เต็มแน่นบริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดร่วมกันฉายแฟลชมือถือไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมแถลงการณ์สนับสนุนข้อเรียกร้องของกลุ่มเยาวชนปลดแอก ให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญใหม่เด็กพะเยารวมตัวจี้ รบ.ยุบสภาช่วงเย็นวันเดียวกัน ที่บริเวณลานจอดรถหน้าป้ายมหาวิทยาลัยพะเยา ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา มีเยาวชน นักเรียนชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนในพื้นที่ และนิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา ประมาณ 300 คน รวมตัวจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล หลังจากเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ใช้พื้นที่ลานอเนกประสงค์หลังเทศบาลเมืองพะเยา จัดกิจกรรม เพราะต้องใช้พื้นที่ทำกิจกรรมสำคัญ โดยกลุ่มเยาวชนและนิสิตถือป้ายข้อความโจมตีรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี รวมทั้งถือตุงวิญญาณติดชื่อนายกฯ พร้อมสลับผลัดเปลี่ยนกันปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง เรียกร้องให้ยุบสภา แก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้เลิกคุกคามประชาชน