คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ส่งสารถึงคนเซเว่นฯ ทั่วประเทศว่า ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ คือศักดิ์ศรีของคนทำงานความมีศักดิ์ศรีไม่ได้อยู่ที่นามสกุล ไม่ได้อยู่ที่สถาบันการศึกษา ไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งยศศักดิ์ แต่อยู่ที่1.ไม่รับในสิ่งที่ไม่ควรรัก 2.ให้ในสิ่งที่ควรต้องให้ เช่น ตำรวจ ทหาร แพทย์ พยาบาล ที่ทำงานอยู่ท่ามกลางอันตราย ต้องสละให้ได้แม้กระทั่งชีวิตตัวเอง 3.ปฏิบัติหน้าที่ของตน ด้วยความเข้มแข็งอดทนใครรักษาหลักการ 3 ข้อนี้ได้ครบถ้วน ก็ถือได้ว่าเป็นผู้มีศักดิ์ศรีอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะอยู่ในอาชีพไหนก็ตาม แม้แต่เป็นคนกวาดถนนก็สามารถอยู่ได้อย่างภาคภูมิใจในตัวเองผมประทับใจในวิถีธุรกิจของคุณก่อศักดิ์ ไม่ได้ถือเป็นบุญเป็นคุณอะไร จนเมื่อเจ้าโควิด-19 ระบาด รัฐบาลขอให้อยู่ในบ้าน ก็ยังอุ่นใจ รู้ว่ายามหิวยังมีช่องทาง เมื่อรู้ว่ายังมีร้านเซเว่นฯอยู่ใกล้ๆถ้าเซเว่นฯปิด ผมยังนึกไม่ออกว่าจะว้าวุ่นแค่ไหน ทำให้นึกถึงคำพังเพย ยามศึกนึกถึงคุณทหารแต่กับคนแก่ๆคนหนึ่งที่ถูกย้ำเตือนเป็นกลุ่มคนเสี่ยง...ต้องอยู่แต่ในบ้าน การอยู่บ้านที่เดิมๆ เป็นคำสื่อถึงคนไม่มีงานทำ ในยามนี้ถูกชี้ว่าเป็นงานที่ต้องทำ ถึงระดับช่วยชาติขึ้นมา ผมก็ยืดอกภูมิใจหน้าที่นี้ผมก็ถือว่าเป็นศักดิ์ศรีสำคัญที่จะต้องรักษาเอาไว้ให้ได้เหมือนกันการทำหรือการไม่ทำในบางสถานการณ์ ถ้าถูกที่ถูกเวลาพระอาจารย์พรหม สมภารวัดพุทธในเมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย เล่าไว้ในชวนม่วนชื่นเล่มแรกว่า ก็จะเกิดคุณอเนกอนันต์เพื่อนครูโรงเรียนเดียวกับพระอาจารย์ เคยเป็นนายทหารในกองทัพอังกฤษ สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เล่าว่า หน่วยลาดตระเวนอยู่ในป่าทึบของพม่า รายงานว่า ที่ตั้งกองบัญชาการทหารอังกฤษ ถูกทหารพม่าโอบล้อมไว้ทุกทิศทุกทาง ในฐานะนายทหารหนุ่ม ขวัญกำลังใจเข้มแข็ง เขาเอาข่าวไปรายงานท่านผู้บัญชาการโดยคาดหวังว่าผู้บังคับบัญชาจะมีคำสั่งให้เตรียมพร้อมตีฝ่าวงล้อมข้าศึกทันทีเขาหลับตาเห็นการสู้รบถึงตะลุมบอน ถึงขั้นพลีชีพเพื่อชาติแต่ผิดคาดผู้บัญชาการสั่งทหารหาญที่พร้อมรบ ให้ “นั่งลง” และที่น่าฉงนยิ่งกว่ามีคำสั่งให้ทุกคน “ชงชา”ระหว่างเวลาต้มน้ำร้อน ชงชา เหล่าทหารก็คิดเหมือนกัน นี่เป็นการดื่มชาครั้งสุดท้ายในชีวิตเวลาผ่านไป ไม่นาน ชายังเหลือไม่ถึงก้นถ้วย ทหารลาดตระเวน ก็รายงานข่าวคืบหน้า กองทหารพม่าที่ตั้งล้อมไว้นั้น หน่วยหนึ่งได้เคลื่อนย้ายออกไปแล้วทางหนี...มีแล้วเวลานี้คือนาทีทอง...ผู้บัญชาการมีคำสั่งให้เก็บสัมภาระทุกอย่าง และรีบออกเดินทางโดยเร็ว และทุกตนก็รอดปลอดภัยเพื่อนครูเล่าให้พระอาจารย์พรหมฟังว่า เป็นหนี้สติปัญญาของท่านผู้บัญชาการ และได้นำบทเรียนนี้ไปใช้ได้ผลอีกหลายครั้งในชีวิต“โลกเราเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับครรลองชีวิต เขาดื่มชาประหยัดพลังงานของเขาไว้ และรอเวลาซึ่งย่อมจะมาถึงเสมอ”พระอาจารย์พรหมสรุปบทเรียนนี้ว่า สำหรับผู้ที่ไม่ชอบดื่มชาโปรดจำคำกล่าวนี้ไว้“เมื่อใดที่ไม่มีอะไรให้ทำ เมื่อนั้นก็ไม่ต้องทำอะไร”คำกล่าวนี้อาจเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ แต่มันอาจจะถึงกับช่วยรักษาชีวิตเราไว้ได้.กิเลน ประลองเชิง