รับใช้ชาวบ้านในจังหวัดมายาวนานกว่า 30 ปี ผ่านงานรัฐมนตรีหลายกระทรวง ดังเปรี้ยงปร้างสมัยเป็น รมว.แรงงาน ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศเป็นบิ๊กบราเธอร์แห่งบ้านใหญ่ในจังหวัดนครปฐมไม่มีใครไม่รู้จักเสือยิ้มยาก “เฮียเตี้ย” นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา เปิดใจให้สัมภาษณ์ ทีมข่าวการเมือง ถึงการวางยุทธศาสตร์การเมืองในพื้นที่ หวังล้างตาคว้าชัยชนะเหนือพรรคคู่แข่งโดยได้บอกถึงคุณสมบัติของนักการเมืองในพื้นที่ ต้องรู้ปัญหาต่างๆในจังหวัด คอยเอาใจใส่และอำนวยความสะดวกแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน นำเสนอผ่านสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลเราเป็น ส.ส.ตลาดล่าง อยู่อย่างไทยๆ อยู่กับชาวบ้านมานานก็ย่อมเข้าใจบทบาท ส.ส.ไม่ใช่ตอนเลือกตั้งโหมโรงยกใหญ่ พอผ่านพ้นไปเราทอดทิ้งชาวบ้านหรือเปล่าผมก็ตกเป็นเหยื่อตรงนั้น หลังว่างเว้นเป็น ส.ส. 9 ปี ไม่สามารถเชื่อมโยงปัญหาชาวบ้านไปถึงรัฐบาลได้หลายโอกาสก็ไปงานในพื้นที่ แต่ขาดการช่วยเหลือชาวบ้านในรูปแบบโครงการต่างๆ โดยใช้งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นภาษีของประชาชนเพราะไม่มี ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของชาวบ้าน คอยเชื่อมโยงปัญหาถึงรัฐบาลฉะนั้นขอสะท้อนไปถึงรัฐบาลว่าไม่ว่ามาจากการเลือกตั้งหรือการรัฐประหาร จะต้องบริหารประเทศโดยยึดผลประโยชน์ของประชาชน ทั้งการจัดสรรงบประมาณพัฒนาจังหวัดต่างๆ การสร้างความยุติธรรมความเกลียดชังในสังคมไทยไม่มีหากได้รับความยุติธรรมในช่วงเลือกตั้งใหญ่วันที่ 24 มี.ค.62 และการเลือกตั้งซ่อมวันที่ 23 ต.ค.62 แตกต่างกันอย่างไร ในที่สุดทำให้บ้านใหญ่ตระกูลสะสมทรัพย์กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง นายเผดิมชัย บอกว่า บรรยากาศการเลือกตั้งใหญ่ ประชาชนรู้สึกว่าหลังเกิดเหตุการณ์ชุลมุนทางการเมือง บ้านเมืองว่างเว้นจากการเลือกตั้งมานานบางฝ่ายถูกกดดันเรื่อยๆ ก็เกิดความกดดัน และมีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ชอบความกดดันโดยมองว่าไม่ได้รับความยุติธรรม จนเกิดเป็นแรงขับในการเลือกตั้งใหญ่ทั้งเบื่อการเมืองที่ถูกเว้นวรรค ผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก ซึ่งไม่เคยเห็นป้ายหาเสียงสมัยโบราณ และเกิดการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดีย โดยไม่ต้องมีป้ายหาเสียงหรือขบวนแห่รถหาเสียงในฐานะที่เป็นนักการเมืองมีพวกทุกฝ่าย รักทั้งรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยก็เป็นน้องๆความขัดแย้งในสังคมเราเห็นทุกวันก็ยังเบื่อ ไปอยู่อีกพรรคก็บอกว่าเป็นเผด็จการ ไปอยู่อีกฝ่ายก็บอกว่าเป็นประชาธิปไตยเกิดความรู้สึกว่าถ้าอยากลดความขัดแย้งในสังคม ควรอยู่พรรคเล็กที่เป็นกลางเพราะสมัยก่อนพรรคใหญ่ชนะแบบแลนด์สไลด์ ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว พรรคเล็กอย่างพรรคก้าวหน้าของคุณอุทัย พิมพ์ใจชน ก็อยู่มาแล้ว ก่อนไปสังกัดพรรคเอกภาพจนมีรัฐธรรมนูญ 2540 ต้องการแก้ไขปัญหาโสเภณีทางการเมือง ซึ่งเอาตัวเลขจำนวน ส.ส.มาต่อรองกันอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายก็ยุบรวมพรรคใหญ่ ฉะนั้นเมื่ออยู่พรรคเล็กที่เป็นกลางอย่างพรรคชาติไทยพัฒนาก็ไม่ถูกวิจารณ์ว่าเลือกข้าง เพราะก่อนเลือกตั้งใหญ่ ยังไม่มีใครรู้ว่าพรรคไหนได้จัดตั้งรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้านที่สำคัญพรรคชาติไทยพัฒนามีศูนย์กลางอยู่ภาคกลาง จังหวัดนครปฐม ก็ติดจังหวัดสุพรรณบุรี จะได้รวมพลังขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดภาคกลางแต่ในจังหวะนั้นเกิดกระแสทุกคนอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง ตรงกับเจเนอเรชันคนรุ่นใหม่ ในภาวะการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ เราเห็นว่าควรทำอะไร ไม่ว่าอยู่พรรคไหนผมก็ไม่ยุ่งกับใครอีกขอยุ่งอย่างเดียวคือให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งระดับประเทศผลการเลือกตั้งออกมาปรากฏว่าแบ่งเป็น 2 ขั้วชัดเจนผลสุดท้ายเราบอบช้ำการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 จ.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนาและบ้านใหญ่ตระกูลสะสมทรัพย์ต้องตั้งหลักอย่างไร ถึงทวงคืนพื้นที่ได้ นายเผดิมชัย บอกว่า หลังเลือกตั้งใหญ่จบก็ไปงานในพื้นที่ตามปกติพอไปงานในพื้นที่ชาวบ้านก็เริ่มพูดกันเห็นแต่ท่านเผดิมชัย บังเอิญพรรคอนาคตใหม่คงไม่มีนโยบายเชื่อมโยงกับชาวบ้าน ไม่อยากให้เป็น ส.ส.ตลาดล่าง เน้นทำงานในสภาผู้แทนราษฎร ตามหลักมันถูก แต่ตรรกะการเมืองสังคมบ้านนอกยังต้องการตรงนี้อยู่ ในช่วงนั้นไม่รู้ว่า ส.ส.ในพื้นที่ป่วย จนมีข่าวว่าลาออกจากตำแหน่งขณะเดียวกันผมรู้ว่าการเลือกตั้งใหญ่พ่ายแพ้เพราะอะไร และเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองศึกษาเรื่องสงครามไซเบอร์ ตั้งวอร์รูมโซเชียลมีเดียวางยุทธศาสตร์และเปลี่ยนยุทธวิธีหาเสียงผ่านโซเชียลโชว์ผลงานในอดีตที่ทำให้ชาวนครปฐมมากว่า 30 ปีใช้ยุทธวิธีขึ้นรถปราศรัยตามจุดต่างๆ และยังแก้เกมจนกลายเป็นช่องว่าง งัดยุทธวิธีวางตัวบุคคลเข้าไปแทรก เริ่มจากพูดกันว่า 1 เสียงล้มรัฐบาล ก็ต้องแก้เกมไปชี้แจงชาวบ้านว่าไม่ใช่ เพราะรัฐบาลจัดตั้งเรียบร้อย ฉะนั้นการเลือกตั้งซ่อมแค่ 1 เสียงล้มรัฐบาลไม่ได้ พรรคคู่แข่งก็เริ่มเปลี่ยนป้ายหาเสียงเป็น เบื่อลุงให้เลือกพรรคคู่แข่งก็เป็นช่องโหว่ทำตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคคู่แข่งหายกลายเป็นช่องว่างให้ผมใช้เชิดตัวบุคคลเข้าไปแทรกส่วนคู่แข่งเชิดพรรคเข้าสู้ แก้เกมไปมาสนุกเหมือนเล่นหมากรุกที่สำคัญตระกูลสะสมทรัพย์ผลึกกำลังโฟกัสเป้าหมายเดียว ไม่เหมือนการเลือกตั้งใหญ่เปิดเกมยกจังหวัด ต่างคนต่างลงพื้นที่ของตัวเอง ห่วงกันไปห่วงกันมาทั้ง 5 เขต ก็ปวดหัว คงเป็นบทสรุปว่าไม่มีการพ่ายแพ้ของตระกูลสะสมทรัพย์บ้านใหญ่ เพราะแพ้ชนะเป็นเรื่องปกติ แต่พวกผมต้องเดินทางให้ดี คือ เดินทางทำความดีตามที่พ่อสอน เมื่อเรารักพ่อจะทำให้พ่อไม่มีความสุขได้อย่างไรการเลือกตั้ง 24 มี.ค.62 บ้านใหญ่หลายจังหวัดในภาคกลางพ่ายแพ้ แต่การเลือกตั้งซ่อมบ้านใหญ่นครปฐมทวงพื้นที่คืนได้ ย่อมเป็นยุทธศาสตร์ให้บ้านใหญ่ในจังหวัดต่างๆทวงพื้นที่คืนในการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้ นายเผดิมชัย บอกว่า ผมและบรรพบุรุษเกิดที่นี่ แพ้หรือชนะไม่ใช่สิ่งที่จะมานั่งเสียใจแต่ต้องนั่งทบทวนว่าพ่อสอนอย่างไร ผมศึกษาตำราซุนวู มียุทธศาสตร์รู้เขารู้เรา รู้เรารบกี่ครั้งก็แพ้ ไม่รู้เขารบกี่ครั้งก็แพ้ แต่ถ้ารู้เรารู้เขารบก็ยังมีชนะ ดีที่สุดคือชนะโดยไม่เสียเลือดเนื้อ ครั้งนี้คู่ต่อสู้ป้ายหาเสียงก็ไม่มี รถแห่ก็ไม่มี กลับได้รับเลือกจะให้ผมคิดอย่างไร พอคิดได้ก็ไม่ทันแล้ว กระแสมาแบบลูกกระสุนเอ็ม 16 ไม่มีใครรู้ พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่รู้ ทั้งที่เป็นคู่แข่งทางการเมืองของผมมาตลอดตลอดเวลาหลังพ่ายแพ้มา 5-6 เดือน ก็ได้เวลานั่งทบทวนว่าพ่ายแพ้เพราะอะไร ได้ศึกษากลยุทธ์ทุกรูปแบบ ใช้รูปแบบอนาล็อกผสมแบบดิจิทัล ในที่สุดมีการตั้งวอร์รูมสู้ ถึงขั้นซื้อหนังสือสงครามไซเบอร์มาอ่านเลยในอนาคตการเมืองบ้านใหญ่จังหวัดในภาคกลาง ยังเป็นตัวเชื่อมระหว่างประชาชนกับสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลได้ต่อไปอย่างไร หลังชนะการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ นายเผดิมชัย ขอเจาะจงเฉพาะใน จ.นครปฐม ตอนนี้นายภานุวัฒน์ สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา ลูกชายนายไชยยา สะสมทรัพย์ ก้าวขึ้นเป็น ส.ส.แล้วซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ ประชาชนก็รัก และตระกูลสะสมทรัพย์มีพลังความสามัคคี โดยมีพลังสำคัญ คือ คุณพ่อประเสริฐ สะสมทรัพย์และบรรพบุรุษของเรา สอนให้คนไทยมีความสามัคคีทุกหมู่เหล่าจุดนี้ทำให้ตระกูลสะสมทรัพย์ไม่กลัวความพ่ายแพ้ไม่ได้มีเจตนาที่จะแพ้ เมื่อแพ้แล้วก็ต้องลุกขึ้นให้เป็นอย่าไปโทษปี่โทษกลอง ต้องโทษตัวเองเมื่อแพ้โซเชียล ก็คิดใช้โซเชียลให้เกิดประโยชน์.ทีมการเมือง