จีน-สหรัฐฯเผชิญหน้าอีกครั้ง...การประชุมจี 20 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเจ้าภาพโดยมีผู้นำ 20 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งคงจะว่ากันด้วยเศรษฐกิจ ส่งเสริมการลงทุน สร้างวงจรเศรษฐกิจที่สร้างสรรค์ การค้าเสรีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องแต่รู้กันดีว่าจี 20 นั้นล้วนมีประเทศชั้นนำด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯและประเทศยุโรปที่มีอิทธิพลสูงที่ได้รับความสนใจมากที่สุดน่าจะเป็นการพบกันระหว่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” แห่งสหรัฐอเมริกา กับ “สี จิ้นผิง” ของจีน“โดนัลด์ ทรัมป์” กับ “ปูติน” แห่งรัสเซียว่ากันว่า การพบกันระหว่าง “ทรัมป์” กับ “ปูติน” หัวข้อคงเป็นเรื่อง “อิหร่าน” ซึ่งสหรัฐฯกำลังกดดันอย่างหนัก นอกจากส่งทหารและเรือรบเข้าประชิดดินแดนและที่เป็นประเด็นก็คือ สหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรผู้นำคนสำคัญของ “อิหร่าน” เท่ากับเป็นการปิดทางในการเจรจาหาข้อยุติความขัดแย้งหลายประเทศห่วงใยว่าจะเป็นชนวนนำไปสู่ “สงครามโลก”ได้แต่ปัญหาร้าวลึกที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ เมื่อสหรัฐฯเปิดสงครามการค้ากับจีนโดยตรง ด้วยการใช้อาวุธสำคัญด้วยการโจมตีปิดล้อม “หัวเว่ย” บริษัทค่ายมือถือใหญ่ที่สุดของจีนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนเป็นระยะๆและประกาศว่า หากการเจรจาระหว่างผู้นำ 2 ประเทศไม่เป็นไปในทางที่สหรัฐฯต้องการก็จะเพิ่มภาษีสินค้าจากอีกหลายประเภทเพื่อตอบโต้ปัญหาระหว่างจีน-สหรัฐฯที่เปิดสงครามการค้าในเวลานี้ ศาสตราจารย์เจฟฟรี แซคล์ จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียแห่งสหรัฐฯ ได้วิเคราะห์ในประเด็นจุดจบการเป็นมหาอำนาจเหนือกฎหมายโลกของสหรัฐอเมริกาการเป็นมหาอำนาจเหนือกฎหมายโลก หรือประเทศที่ไม่ปฏิบัติตามกติกาโลก หรือมาตรฐานกฎเกณฑ์หรือตามที่ทั่วโลกปฏิบัติตามปกติทั่วไปอเมริกาคิดว่ายังเป็นที่หนึ่ง เป็นผู้นำที่สามารถสั่งให้ประเทศอื่นๆทำตาม โดยเฉพาะหลังจากการล่มสลายของรัสเซียทั้งที่สหรัฐฯมีประชากรแค่ 4.5% ของโลก แต่คิดจะควบคุม ประชากรอีก 95.5%นโยบายต่างประเทศที่ใช้ข่มขู่ให้ประเทศอื่นๆทำตามด้วยการบีบคั้นทางการค้า ทำให้ได้รับการรังเกียจจากทั่วโลก มีฐานทัพมากกว่า 700 แห่งทั่วโลกสงครามตะวันออกกลางที่ยืดเยื้อไม่รู้จบ ทำลายเศรษฐกิจสหรัฐฯเอง นั่นทำให้ไม่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศมากกว่า 30 ปีไม่มีรถไฟความเร็วสูง ไม่มีการปรับปรุงระบบราง ล้าหลังจีน ญี่ปุ่นและยุโรปการเมืองภายในประเทศมีความแตกแยกขัดแย้ง ทำอะไรแทบไม่ได้ (เหมือนประเทศไทย) ความคิดเป็นไปตามแนวทางของพรรคไม่ใช่เพื่อประเทศต้องการให้หยุดไม่ให้จีนเติบโตขึ้นมาเทียบเท่า แทนที่จะร่วมมือกันพัฒนาโลกให้ดีขึ้น การเติบโตของจีนสายเกินไปแล้วที่จะไปหยุดยั้งประเทศอื่น กำลังเจริญขึ้นการค้าในอนาคตจึงไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งตลาดสหรัฐฯแล้วเหล่านี้เป็นการวิเคราะห์ถึงความเป็นไปของสหรัฐฯในยุค “ทรัมป์” ครองเมืองที่สร้างความชัดเจนแล้วว่า สหรัฐฯกำลังดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด สร้างศัตรู ทำลายตัวเอง ไม่มีนโยบายที่แน่นอนระยะยาวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามอารมณ์ของผู้นำประเทศและผลประโยชน์ที่จะได้ จึงมีทางเลือกอยู่คือ 1.ทำสงครามโลกล้างหนี้เพื่อทำลายจีนหรืออีกทางหนึ่งคือ สหรัฐฯจะต้องเปลี่ยนนโยบาย เปลี่ยนผู้นำประเทศ.“สายล่อฟ้า”