ทุกครั้งที่มีการสำรวจหรือศึกษา เกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบในภาครัฐ มักจะตอกย้ำว่าการคอร์รัปชันยังรุ่งเรือง ล่าสุดเป็นผลการศึกษาของ รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ แห่งมหาวิทยาลัยรังสิต เกี่ยวกับโครงการของหน่วยงานภาครัฐ คาดว่าจะเสียหายจากการทุจริตประมาณ 50,000 ล้านบาท ถึง 100,000 ล้านบาท ในปี 2561 เพราะมีการทุจริตในทุกระดับจากการศึกษา 14 โครงการของหน่วยงานรัฐ พบว่ามีการทุจริตตั้งแต่ระดับองค์กรปกครองท้องถิ่น จนถึงหน่วยงานใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ มีการทุจริตใหญ่ๆ ทั้งโครงการใหญ่หรือโครงการเล็ก การทุจริตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเมืองไทยเป็นระบบปิด จุดอ่อนที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่มีองค์กรเฝ้าติดตามการทุจริตอย่างจริงจัง แต่จะมีรัฐสภาและองค์กรอิสระผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่กระทำมาอย่างต่อเนื่อง ประเมินว่าในแต่ละปีรัฐจะต้องสูญเสียเงินภาษีประชาชน เป็นค่าสินบนให้แก่นักการเมืองและข้าราชการ ปีละกว่าแสนล้านบาท จากโครงการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐในช่วงรัฐบาล คสช. กว่า 4 ปี มีการทุจริตเกิดขึ้นหลายเรื่อง แม้จะปลอดจากนักการเมืองมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการโกงเงินคนจน คดีทุจริตเงินทอนวัด การงาบทุนการศึกษาผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น เรื่องที่เป็นข่าวฮือฮาอยู่ในขณะนี้ คือการทุจริตงบช่วยเหลือคนพิการ ปีละ 1,500 ล้านบาท การทุจริตเกือบทั้งหมดเป็น “โดย” ข้าราชการ และ “เพื่อ” ข้าราชการ เป็นหลักฐานยืนยันว่ามีการโกงกิน ทั้งในรัฐบาลเลือกตั้งและรัฐประหารปัญหาสำคัญที่กำลังเผชิญหน้าประเทศไทยในปัจจุบัน ในทรรศนะของ ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มีอยู่ 4 ประการ ได้แก่ ความเหลื่อมล้ำในสังคม ปัญหาผลิตภาพของแรงงาน ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรม และปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน เช่น ติดสินบน การเอื้อประโยชน์พวกพ้อง นโยบายที่หวังผลทางการเมือง และประโยชน์ส่วนตนแต่ท่ามกลางข่าวร้ายก็ยังมีข่าวดีหลายปีก่อน ผลการสำรวจความเห็นคนไทยพบว่าคนส่วนใหญ่ยอมรับรัฐบาลคอร์รัปชัน ขอให้มีผลงานและตนเองได้ประโยชน์ แต่ในระยะหลังๆ ผลการสำรวจพบว่าคนไทยไม่ทนต่อคอร์รัปชันมากขึ้น ตื่นตัวในปัญหานี้มากขึ้น มีองค์กรต่อต้านการทุจริตภาคประชาชนมากขึ้น เช่นเดียวกับภาครัฐที่มีทั้ง ป.ป.ช. ตทช. และ ป.ป.ท.มีทั้งองค์กรอิสระและหน่วยราชการ แต่การป้องกันและปราบปรามการทุจริตก็ยังขาดประสิทธิภาพ นักวิชาการบางคนชี้ว่าไทยมีปัญหาขาดประชาธิปไตย ทำให้การปราบปรามคอร์รัปชันไร้ประสิทธิภาพ และชี้ให้ดูตัวอย่างมาเลเซีย ที่กำลังจะจับอดีตนายกรัฐมนตรีเข้าคุกและเกาหลีใต้ที่เปลี่ยนเป็นประชาธิปไตยหลังไทยหลายทศวรรษ แต่จับประธานาธิบดีเข้าคุกแล้วหลายคน.