เมื่อข้อห่วงหาอาลัย นักร้องสตรีผู้เพิ่งลาลับ เป็นข้อสนทนา นับแต่สุรพล โทณะวณิก นักแต่งเพลง ส่งสารย้ำว่า “แม้บัดนี้ก็ยังรักเธอต่อไป” มีเสียงทักจากสาวน้อยยุคไอโฟนว่า “ใคร? สวลี ผกาพันธุ์”สารของสุรพล เป็นที่กล่าวขานกันในโลกออนไลน์ เด็กขายน้ำหวานโรงเรียนสตรี เห็นหน้าเธอก็หลงรักเธอมานับแต่นั้น เมื่อเธอเป็นนักร้อง เขาก็ตั้งใจเป็นนักแต่งเพลงเพลงหนึ่ง “ใครหนอ?” “ใครหนอรักเราเท่าชีวี...” สวลีคิดว่าถูกสุรพลตามจีบ ไม่ยอมร้อง นักแต่งเพลงก็ต้องย้ำยันไว้ในท้ายบทเพลง ใครหนอ คนนั้น คือคุณพ่อ คุณแม่ เพลงนี้เป็นเพลงที่สวลี ผกาพันธุ์ ได้แผ่นเสียงทองคำแต่เรื่องที่ทำให้ ชรินทร์ นันทนาคร ลืมสวลี ผกาพันธุ์ ไม่ได้จนวันตาย ก็คือ ร้องเพลงคู่บ้าง เพลงเดี่ยวบ้างบนเวทีเดียวกันมากครั้ง สวลี มักทัก ชรินทร์ ยืนหลังโก่ง พยายามแค่ไหนก็ไม่ได้ผลครั้งหนึ่งบนเวที ที่มีม่านกั้นด้านหลัง ชรินทร์ยืนร้องเพลงก็ให้มือนุ่มๆของสาวน้อย ทุบที่หลัง เตือนให้ชรินทร์ยืดหลังเรื่องเล่าโบราณ สมัยไซรัส จักรพรรดิแห่งอาณาจักรเปอร์เซีย ยิ่งใหญ่ พิชิตตะวันออกกลางไว้ในมือ เขาถามผู้รู้คนหนึ่ง เขายิ่งใหญ่ไม่มีผู้นำใดเทียมทานแล้วหรือไม่ คำตอบ ยังไม่ใช่ ผู้ยิ่งใหญ่แค่ไหน ดูประวัติตอนตายด้วยไซรัสตายในสงคราม เขาไม่ใช่มหาราชผู้ยิ่งใหญ่ ตามที่เคยประเมินตัวเองผมกำลังกินยา โทรศัพท์ก็ดัง ผมยั้งมือกลืนยาห้าเม็ดลงคอ แล้วรับโทรศัพท์ คุณอุดมพร คชหิรัญ ฟังคำขอโทษ แล้วเตือนหนักแน่นว่า สวลีตายเพราะสำลักยาในวัย 84 ที่ผ่องใสเฉิดฉาย ความตายของสวลี ผกาพันธุ์ เป็นข้อห่วงหาอาลัยของผู้คนมากมาย แต่ผมกลับคิดต่าง เธอตายอย่างผู้ยิ่งใหญ่ ความตายปัจจุบันทันด่วน ไม่เป็นภาระลูกหลาน...คือเป็นรางวัลชีวิตของผู้ยิ่งใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากคุณชวน คุณอภิสิทธิ์ คุณสุเทพ มีนักการเมืองเก่งๆดีๆ ให้จดจำอีกหลายคน คนหนึ่งที่ผมฝังใจ คุณ สุรินทร์ พิศสุวรรณในปีนั้น วันนั้น ที่คุณชวนถูกขานชื่อเป็นนายกฯ ผมไปยืนฟังที่รั้วพรรคประชาธิปัตย์ สะดุดหูพิธีกร ใครหรือ...พูดได้ดีนัก ทั้งน้ำเสียง จังหวะลีลา และเนื้อหาวันเวลาผ่านไปนาน งานวันกำพล สองสามปีที่แล้ว ผมหลุดปากทัก “ท่านอยู่ในคิวนายกฯในใจผมนะ”ในวันที่ฟังข่าวการตาย...อุ๊ นักข่าวนิเกอิ คุยว่า สองสามชั่วโมงก่อนเวลาสุดท้าย เพิ่งสัมภาษณ์คุณสุรินทร์ข้อมูลที่ผมฟังแล้วใจหาย นักการเมืองที่ประชาชนรัก ทุ่มเทให้ภารกิจประจำวัน เหลือเวลานอนเพียงวันละสามชั่วโมง โอหนอ! เทวดาฟ้าดิน ช่างให้เวลาคนเก่งคนดีไว้น้อยเกินไปถ้าคุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ ยังอยู่ ตัวเลือกนักรบหลักสู้สงครามเลือกตั้ง...ของประชาธิปัตย์คงมีมากขึ้นผมมีเหตุให้รำพึงถึงผู้จากไป เมื่อเจ้านุ้ย หลานคนหนึ่ง โทร.มาขอให้พูดถึง สุนทร สกุลหลิม พ่อเธอ ที่วัดป้อมแก้ว แม่กลอง ในวันเผา 16.00 น. 10 พ.ค. ก็วันนี้คนแม่กลองรู้จักสุนทรดี นี่คือเจ้าของโป๊ะจับปลาทู ผู้กล้าพลิกตัวเองไปทำนากุ้ง สมัยบุกเบิก ที่คลองโคน ปัญหาปลากระบอกกินกุ้ง เขาจำเป็นต้องเลือกจับปลาปลากระบอกนั้น เป็นที่มา ปลากระบอกต้มส้ม เมนูดัง ร้านจินดา ระดับถนัดศรี ชวนชิมสุนทรรวมกลุ่มเพื่อนตั้งด่านจับเรือบรรทุกน้ำเสียโรงงานต้นน้ำ เอามาทิ้งปากอ่าวสุนทรริเริ่มทำน้ำตาลสดกระป๋อง ส่งขายญี่ปุ่นได้รายเดียว ด้วยเคล็ดลับจากโรงเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว บ้านแม่ผมเอง ที่ตอนนั้นอยู่ติดกันมีคนไม่มากเลย ในโลกนี้ เมื่ออยู่ก็รัก เมื่อจากก็คิดถึง สำหรับผม สุนทรเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น.กิเลน ประลองเชิง