15.52 น. ของวันที่ 13 ตุลาคม 2559 จะอยู่ในความทรงจำของ พสกนิกรไทยไปชั่วชีวิต เพราะเป็นเวลาที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 อันเป็นที่รักและเคารพยิ่งของปวงชนชาวไทยเสด็จสู่สวรรคาลัยพวกเราในแวดวงสื่อมวลชนรับทราบในอีกไม่กี่นาทีหลังจากนั้นและเริ่มระดมสรรพกำลังทุกฝ่ายข่าวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรายงานข่าวที่แม้จะไม่ต้องการรายงานเลย แต่ก็จำเป็นที่จะต้องรายงาน ทันทีที่สำนักพระราชวังออกประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้งจนกระทั่งเวลา 18.47 น. โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ จึงได้อ่านประกาศสำนักพระราชวัง ฉบับที่ทำให้หัวใจของคนไทยแทบแหลกสลายฉบับนี้ และในเช้าวันรุ่งขึ้น 14 ตุลาคม 2559 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐกรอบเช้าประจำวันก็อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร.9 ขึ้นปกหน้า 1 เต็มหน้า พร้อมกับพาดหัวด้วยตัวอักษรเพียง 12 ตัวอักษรว่า... ในหลวงสวรรคตตามมาด้วยการรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ก่อนจะจบลงด้วยหยดน้ำตาของพสกนิกรที่ไปเฝ้า ณ บริเวณโรงพยาบาลศิริราชแน่นขนัด และจากทุกจังหวัดทั่วประเทศที่ทราบข่าวจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจดังกล่าวร่ำไห้อาลัยชูพระบรมฉายาลักษณ์ขึ้นเหนือศีรษะพร้อมกับหันหน้าไปสู่กรุงเทพมหานครและโรงพยาบาลศิริราชนี่คือส่วนหนึ่งของบันทึกประเทศไทย หลังเวลา 15.52 น. ของวันที่ 13 ตุลาคม 2559 สำหรับเวลา 15.52 น. ของวันที่ 13 ตุลาคม 2560 ครบรอบ 1 ปี แห่งการสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของพสกนิกรชาวไทย...เกิดอะไรขึ้นบ้าง?หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับเช้าประจำวันที่ 14 ตุลาคม 2560 รายงาน สรุปต่อจากข่าวพาดหัวมีใจความตอนหนึ่งว่า “พสกนิกรทั่วไทยน้ำตาริน ทำบุญถวายอุทิศกุศลแด่ ร.9 ในวันครบรอบสวรรคต 13 ตุลาคม 2560 และสงบนิ่งถวายอาลัยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในเวลา 15.52 น.”เป็นการสรุปอย่างสั้นๆ แต่สะท้อนให้เห็นภาพที่เกิดขึ้นทั่วประเทศไทย อย่างเด่นชัด สำหรับ 13 ตุลาคมของปีนี้เมื่อพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ พร้อมใจกันยืนสงบนิ่ง หรือ ทำใจสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที เพื่อน้อมอาลัยและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของ “พ่อแห่งแผ่นดิน” อีกครั้งในเวลาแห่งความทรงจำผมนั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์และร่วมสงบจิตสงบใจ พร้อมกับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมงาน “ศิระกรานพระภูบาลนวมินทร์” ที่ศิริราชจัดขึ้น ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึง 12.00 น. ผมใช้เวลาอยู่ที่ โรงพยาบาลศิริราช ร่วมกับคณะผู้บริหารไทยรัฐ ที่นำหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษฉบับแรก “365 วัน สวรรคต โศกสลดไม่จางหาย” ไปแจกแก่พี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานแน่นขนัดไปหมดเรานำไปแจกกว่าหนึ่งหมื่นฉบับและหมดลงเพียงครึ่งชั่วโมงเศษๆ แต่เนื่องจากได้นัดหมายที่จะมอบให้แก่ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้บริหารคณาจารย์แพทย์พยาบาลตลอดจนบุคลากรทุกฝ่ายของคณะแพทยศาสตร์ฯ และโรงพยาบาลศิริราชในเวลา 12.00 น. จึงต้องรอเวลาอีกครู่ใหญ่ๆผมใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ด้วยการเดินไปรอบๆบริเวณจัดงาน ซึ่งจะอยู่ ณ ลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกรวมทั้งเดินไปตามตึกต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ที่พระองค์ท่านเสด็จมาประทับรักษาพระอาการประชวรตั้งแต่ วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2557หลายๆจุดของโรงพยาบาลศิริราชล้วนเป็นที่คุ้นตาของพสกนิกรชาวไทยเพราะเป็นจุดที่เราจะเห็นคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาเข็นรถเข็นพระที่นั่งจากอาคารเฉลิมพระเกียรติผ่านไปตามจุดเหล่านี้ เพื่อไปเสด็จขึ้นรถพระที่นั่งหรือไปลงเรือพระที่นั่งที่ท่าน้ำหลายต่อหลายครั้งยามที่พระองค์เสด็จฯไปทรงงานตามที่ต่างๆ ทั้งที่ทรงมาประทับรักษาพระวรกายแล้วก็ตาม วันนี้ไม่มีพระองค์ท่านแล้วจริงๆ ไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นพระองค์ท่านประทับบนรถเข็นพระที่นั่งในโรงพยาบาลศิริราชอีกแล้วเหลือแต่ความทรงจำและความจงรักภักดี ตลอดจนความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ยังคงอยู่ตราบนิจนิรันดร์.ไทยรัฐร่วมพสกนิกรไทย ส่งใจสู่ฟ้าอาลัยพ่อ“ซูม”