ตอนที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.แถลงข่าว จับ “บังฟัต” ตัวการฆ่ายกครัว 8 ศพ ที่อ่าวลึก กระบี่ ท่านพูดติดหูคนไทย...ผมไม่อยากจับเป็น แต่เมื่อจับมาแล้ว ตำรวจก็ต้องสั่งฟ้องถึงขั้นประหารโทษประหารชีวิตในไทย...แม้เปลี่ยนการยิงเป้ามาเป็นฉีดยาพิษ ก็ไม่เป็นจริงมานาน...นักโทษประหารประพฤติดีติดคุก 10-12 ปี ก็ถูกปล่อยมาแล้วหลายคนการยิงเป้าทุกครั้ง ราชทัณฑ์ตั้งใจทำเป็นการภายใน ในเรือนจำ แต่นักข่าวก็พยายาม ข่าวพอแคะคุ้ยได้ แต่ภาพ...ยาก ตอนยิงเป้า พลเอกฉลาด หิรัญศิริ ผมเคยปีนต้นมะพร้าว หลังบางขวาง ถ่ายภาพ... บริเวณลานประหารฉากการยิงเป้านักโทษประหาร ที่นักข่าวรายงาน...ชั่วชีวิตนักข่าวแก่ๆรุ่นผม...ไม่ละเอียด ชัดเจน...เท่าที่ จส.เขียนไว้ ใน เบื้องแรกประชาธิปตัย (สมาคมนักข่าวฯ จัดพิมพ์ ครั้งที่ 2 ก.ย.2559) ชื่อเรื่อง ข้าพเจ้าเห็นการยิงเป้านักโทษประหารชุดนั้น มี 18 คน ขึ้นศาลพิเศษ เมื่อปี 2481 เป็นนักโทษการเมือง ขั้วตรงข้ามกับรัฐบาล หลังมีข่าว มีคนพยายามฆ่าหลวงพิบูลฯสามครั้งโจทก์พยายามพิสูจน์ว่า...ร.ท.ณ เณร ตาละลักษณ์ เป็นตัวการวางยาพิษ พระสุวรรณชิต เป็นตัวการวางแผนให้นายลี บุญตา ใช้ ปืนยิงในบ้าน หลวงชำนาญ เป็นตัวการจ้างนายพุ่ม ยิงที่สนามหลวงเช้ามืด 30 พ.ย.2482 ผู้ต้องหากลุ่มแรก 4 คน ถูกจู่โจมตะครุบตัวขณะหลับในห้องขัง ยิงเป้าในชุดนอน จส.เล่าว่า ระหว่างการยิงเป้า มีการเอาตัวนายลี บุญตา คิวประหารสามวันต่อไป มายืนดูเพื่อขู่ให้สารภาพว่า นักโทษประหารในคิวต่อไปใครเป็นผู้บงการคู่นักโทษประหาร พระสิทธิเรืองเดชพล อดีตรัฐมนตรีปี 2477 เพื่อนสนิทพระยาทรงสุรเดช (ลี้ภัยไปก่อน) และหลวงมหิทธิโยธี ผบ.มณฑลทหารบกราชบุรี เดินเข้าหลักประหารด้วยอาการต่างกันพระสิทธิเรืองเดชพลเดินคุยไม่ขาดปาก หลวงมหิทธิเคร่งขรึม ไม่พูดจา การยิงเป้าพระสิทธิเรืองเดชพลเป็นไปตามปกติ แต่พอถึงคิว หลวงมหิทธิ เพชฌฆาตลั่นไก กระสุนขัดข้องยิงไม่ออกเปลี่ยนกระสุนชุดที่สอง ก็ยิงไม่ออกอีกจนเมื่อหลวงมหิทธิร้องว่า “เมื่อยเต็มที เมื่อไหร่จะยิง” ทันทีนั้น กระสุนปืนกลแบล็คมันต์ก็ลั่นพรูออกมาเช้า 3 ธ.ค.คนใต้หอรักษาการณ์ ได้ยินเสียงเพลง “รื่นเริงสุขสำราญ” ดังมาจากแดน 6 ขณะผู้คุมไปเบิกตัวนักโทษประหารชุดสุดท้าย เสียงเพลงจบ เสียงกริ๊กๆแกร๊กๆของโซ่กระทบตรวนก็ดังตามมา...จนเห็นตัวนักโทษเดินเรียงแถวชัดเจนร.ท.ณ เณร ตาละลักษณ์ เดินหิ้วตรวนนำหน้า หวีผมเรียบแปล้ ทาแป้งหน้านวล ท่าทางองอาจ ใบหน้ายิ้มระรื่น พอเห็นนายลี บุญตา ผู้ซัดทอดว่า ร.ท.ณ เณรเป็นผู้จ้างวานต่อหน้าผู้เกี่ยวข้องการประหารมากมาย ร.ท.ณ เณร ถาม นายลีว่า “ไหน เราจะตายจากกันแล้ว อั๊วขอถามจริงๆต่อหน้าพระพุทธรูป ต่อหน้าพระสงฆ์ ลื้อกับอั๊ว เคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า”นายลีหลบสายตาก้มหน้ามองดิน แล้วบอกเสียงแผ่วเบาว่า “ไม่เคย”ร.ท.ณ เณร กับนายลี เข้าหลักประหารคู่กัน ถูกยิงพร้อมกัน สิ้นเสียงปืนชุดแรก ทางนายลีเงียบ แต่ทาง ร.ท.ณ เณร มีเสียงร้องว่า “ยังไม่ตายครับ ยิงซ้ำอีก”ตั้งแต่มีการยิงเป้ากันมา ไม่เคยปรากฏเรื่องอย่างนี้เลย นายทิพย์ มียศ เพชฌฆาตมือไม้สั่น ยิงต่อไม่ได้ นายเหรียญ เพิ่มกำลังเมือง เพชฌฆาตมือสองเข้าทำหน้าที่แทน...กระสุนชุดที่สองลั่น กระบวนการประหารก็จบลงผมย่อๆเรื่อง ข้าพเจ้าเห็นการยิงเป้า ยั่วให้ท่านไปหาหนังสือ เบื้องแรกประชาธิปตัย (ชุดพิมพ์ครั้งที่ 2 หมดแล้ว กำลังพิมพ์ครั้งที่ 3) อ่านให้จุใจกันเอง...อ่านแล้วก็จะได้ปลงตกว่า ขึ้นชื่อว่าการเมืองนั้น ไม่ว่ายุคนั้นหรือยุคไหน...ก็ไม่ต่างกัน ฝ่ายชนะเป็นเจ้า สั่งอะไรก็ได้ ฝ่ายแพ้นั้น เป็นกบฏแน่นอนวันยังค่ำ.กิเลน ประลองเชิง