คอหนังสือธรรมะ...คงเคยอ่านหนังสือพิมพ์แจกเป็นธรรมทาน เล่มโอวาทสี่ของท่านเหลี่ยวฝาน เจือจันทน์ อัชพรรณ (มิสโจ) แปล กันมาบ้าง ผมเองอ่านแล้วหลายครั้ง...ที่ตรงใจหมายตาก็คั่นกระดาษไว้ท่านเหลี่ยวฝานเป็นขุนนางสมัยราชวงศ์หมิง คำสอนหลักสี่ข้อของท่าน เน้นสวรรค์มีตา นรกมีมือ บุญบาปมีจริง ท้ายเล่ม...ท่านสรุปให้ลูกชายฟังว่า...การทำความดีนั้น ไม่ใช่ทำแบบทื่อมะลื่อไปเรื่อยๆยังมีข้อต้องพิจารณามากมายอีกถึง 8 ข้อดีจริงหรือดีปลอม บริสุทธิ์ใจหรือไม่บริสุทธิ์ใจ ทำแล้วมีคนรู้เห็นหรือไม่มีคนรู้เห็นทำถูกหรือผิด ทำด้วยรู้เท่าถึงการณ์หรือไม่ ทำจริงๆครึ่งๆ กลางๆหรือทำอย่างสมบูรณ์ ทำใหญ่หรือทำเล็ก และทำยากหรือทำง่ายความดีข้อที่ห้า ทำด้วยความรู้เท่าถึงการณ์หรือไม่...มีตัวอย่าง ต่อไปนี้ในรัชกาลของพระเจ้าอิงจงฮ่องเต้ (ค.ศ.1435-1449) มีขุนนางระดับอัครมหาเสนาบดี (ใจเสี่ยง) คนหนึ่ง รับราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เคยมีข้อครหาด่างพร้อย ชื่อเสียงท่านเป็นที่นับถือของคนทั่วไปจนถึงวันนั้น วันที่ท่านเกษียณอายุราชการ กลับไปอยู่ชนบทภูมิลำเนาเดิม ชาวบ้านละแวกนั้นก็ยังเคารพนับถือท่านกล่าวกันว่า ท่านมั่นคงเปรียบขุนเขาท่ายซาน ขุนเขาสูงสุดของแผ่นดินเกียรติคุณท่านสุกสกาวดุจดาวเหนือ ซึ่งส่องแสงสุกใสกว่าดาวดวงใดในจักรวาลวันหนึ่ง...มีเรื่องราวที่ต้องเล่าขาน...อีกครั้ง...ขณะท่านเดินพักผ่อนหน้าบ้าน มีชายขี้เมานายหนึ่ง ปราดเข้ามาชี้หน้า หาเรื่องเลวๆก่นด่าท่านอดีตใจเสี่ยงผู้ยิ่งใหญ่ นอกจากไม่โต้เถียง ไม่ถือโกรธ ท่านยังเดินเลี่ยงเข้าประตูบ้าน คนรับใช้ในบ้านทนไม่ไหวจะรุมทำร้าย...ท่านก็ห้าม “อย่าถือสาคนเมา” แล้วสั่งปิดประตูบ้านเรื่องนี้ ผ่านเลยไปเหมือนสายลม...นานวัน...จนไม่มีใครจดจำ จนกระทั่งมีข่าวชายขี้เมาคนนั้น ก่อเรื่องระรานผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่คนหนึ่ง...เรื่องถึงทางการ จับกุมขึ้นศาลพิจารณาโทษเรื่องของคนผิด ทำความผิดร้ายแรง ถูกตัดสินโทษประหาร... ไม่มีญาติมิตรไม่มีชาวบ้านที่รู้เรื่อง...ติดค้างข้องใจ หลายคนที่คุ้นเคยเอือมระอา...โมทนา สาธุ เอาด้วยซ้ำแต่เรื่องราวในบ้าน ท่านอดีตอัครมหาเสนาบดี...ตรงกันข้าม อดีตใจเสี่ยงเศร้า...มาก ท่านพร่ำรำพึงกับคนใกล้ชิดว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นคนรับใช้หลายคนงง...ถาม...ทำไม?อดีตอัครมหาเสนาบดีบอกว่า...วันที่ชายขี้เมาหาเรื่องด่าไล่ท่านเข้าบ้าน ถ้าท่านถือเป็นโทษ สั่งคนจับกุมเขาลงโทษ เขาอาจจะเข็ดหลาบ รู้สำนึกคุณโทษ ไม่เหิมเกริมก้าวร้าวระรานใครต่อไปการที่เขาเดินหน้ารับชะตากรรมโทษประหาร...เป็นความผิดของท่านเองท่านเหลี่ยวฝานจบเรื่องเล่าแล้วสรุปเป็นคำสอนว่า นี่คือตัวอย่างของการทำดีแบบหนึ่ง ที่มีผลให้คนอื่นรับกรรม คนทำดีทั่วไป ต้องควรระวังความดีข้อที่ท่านเหลี่ยวฝาน...ใช้คำว่า ทำด้วยความรู้เท่า ไม่ถึงการณ์นี้ ฟังเข้าใจยากครับ ไทยเรามีคำพังเพยที่ฟังแล้วเข้าหูกว่า ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาปการทำความดีแบบที่ว่านี้ จะเข้าตะเภาเดียวกับความดีที่พรรคประชาชนยกมือให้พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล จนมีเสียงบ่นกันพึมเหมือนชื่อ “ต้มส้ม” หรือไม่ ผมไม่รู้ผมรู้แต่ว่าเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล คุณอนุทินเป็นนายกฯรอบต่อ ผมก็แน่ใจ...งานนี้พรรคส้มถูกพรรคสีน้ำเงิน ต้มเอาสุกไปทั้งตัว ทั้งยังแถมทำให้คนไทยอึดอัดขัดข้องใจกันไปทั่วแผ่นดิน.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม