เรื่องที่ 48 สมญานาม จากหนังสือเสียนอี้เปียน ยุคปลายราชวงศ์หมิง...ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม แปลเป็นไทย รวมเล่มอยู่ในหนังสือคารมคมปัญญา (สุขภาพใจพิมพ์ ม.ค.2568) เนื้อหาทำนองเรื่องเล่าที่คนไทยหลายคนเคยอ่าน ชื่อนั้น! สำคัญไฉน?ฉีเหยียนเลี้ยงแมวไว้ตัวหนึ่ง ยิ่งดูยิ่งรู้ว่ามันมีลักษณะพิเศษ ไม่เหมือนแมวตัวอื่นๆ วันนั้นมีเพื่อนหลายคนมาเยือนถึงบ้าน เขาอวดแมวแล้วก็บอกว่า จะตั้งชื่อมันว่า “แมวเสือ”เพื่อนคนหนึ่งไม่เห็นด้วย “เสือมีลักษณะดุร้าย เปลี่ยนชื่อเป็นแมวมังกรดีกว่า ฟังดูแล้ว เหมือนมันมีอำนาจวิเศษกว่า” แต่เพื่อนอีกคนเห็นต่าง “มังกรแม้ฟังดูดีกว่าเสือ แต่เมื่อมังกรทะยานขึ้นฟ้า ก็ต้องอาศัยกลุ่มเมฆ เปลี่ยนชื่อเป็นแมวเมฆาดีกว่า”เพื่อนอีกคนมีเหตุผลคัดค้าน “เมฆจับกลุ่มแน่นหนาบนท้องฟ้า แต่พอสายลมพัดมาก็แตกกระจายไปคนละทิศละทาง สายลมมีพลังเหนือกว่าเมฆ ตั้งชื่อว่าแมวสายลมดีกว่า”ยังมีเพื่อนอีกคน...คิดไปได้ไกล “สายลมพัดมาเจอกำแพง ก็ถูกต้านทานไว้ กำแพงแข็งแกร่งกว่าสายลม ตั้งชื่อว่าแมวกำแพงดีกว่า”เหตุผลประดามีเหล่านี้ก็มากเหลือเฟือแล้ว แต่กระนั้นก็ยังมีเพื่อนคนสุดท้ายโต้แย้ง“กำแพงแข็งแกร่งก็จริง แต่ก็มักถูกหนูเจาะเป็นรู กำแพงทำอะไรหนูไม่ได้ตั้งว่า “แมวหนู” จะดีกว่าสุ้มเสียงที่เถียงกันในบ้านหลังนั้น ดังไปเข้าหูชายชราที่นั่งอยู่ในบ้านใกล้ ชายชราหันไปรำพึง“มันจะเลอะเทอะกันไปใหญ่ แมวมีไว้จับหนู แมวก็คือแมว ทำไมต้องเปลี่ยนชื่อเรียกให้มันวุ่นวายไปเปล่าๆ!”จบเรื่องเก่าของจีน ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม มีข้อคิดวิจารณ์ นอกจาก“กับดักของอัตตา” แล้ว มนุษย์เรายังมักจะถูกหลอกให้หลงติดอยู่กับมายาภาพมากกว่าความเป็นจริงคุณค่าของแมวตัวหนึ่ง อยู่ที่หน้าที่ของความเป็นแมว ได้ดีเพียงใด ไม่ได้อยู่ที่ชื่อเรียกหรือสมญานามคุณค่าและอนาคตของคนก็ควรจะอยู่ที่เนื้อแท้ของคนผู้นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ชื่อเสียงเรียงนามว่าถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์หรือไม่?โหราศาสตร์เป็นเพียงวิชาสถิติ และเป็นสถิติในอดีตที่ไม่ได้ระบุว่า ศึกษาจากตัวอย่างจำนวนมากน้อย ชีวิตคนเรา ดำรงอยู่กับปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งมีปัจจัยแวดล้อมแตกต่างไปจากอดีตสมญานามไม่ใช่ความเลวร้าย แต่อันตรายอยู่ที่การยึดติดมัน และมายาภาพภายนอกมากกว่าเนื้อแท้ในยุคแห่งความฉาบฉวย ผู้คนมากมายทุ่มเทเวลาและทรัพยากรเต็มที่ เพื่อสรรค์สร้างภาพลักษณ์และวาทกรรมที่ชวนหลงใหลประสิทธิ์ ฉกาจธรรม ทิ้งท้ายข้อวิจารณ์นี้ อยากให้ทดลองมองทะลุมายาภาพที่ฉาบทา ให้ลึกเข้าไปถึงเนื้อใน บางทีเราจะสัมผัสได้ คุณชายในชุดสะอาดโอ่อ่า แต่เนื้อตัวมีขี้ไคลขี้มูกขี้ตา หรือขี้เต่าเหม็นฉึ่งอย่างที่นึกไม่ถึงมาก่อนผมอ่านเรื่องนี้จบแล้วก็คิดถึงชื่อ“หนู” ที่กำลังเป็นนายกฯรักษาการในช่วงบ้านเมืองเจอปัญหาหนัก ทั้งศึกนอก ศึกใน แม้สถานการณ์การเมืองนี้ หนูตัวนี้ก็เป็นเช่นที่คุณประสิทธิ์ว่า...ไม่ได้ถูกแมวรุมขย้ำ แต่กลับเป็นหนูตัวที่มีแมวดุๆหลายตัวรุมพะเน้าพะนอขอเข้าเป็นบริวารแมวพวกนั้นเชื่อมั่นว่า หนูตัวนี้มีนายดี ชาวบ้านอย่างเราๆรู้จักเขาดี คงต้องภาวนา ขอให้เขาเอาบ้านเมืองรอดปลอดภัย.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม