ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน “สี จิ้นผิง” ถวายพระเกียรติสูงสุดแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการและเป็นครั้งประวัติศาสตร์จัดพิธีต้อนรับยิ่งใหญ่อลังการสมพระเกียรติ ณ มหาศาลา ประชาชน จัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง ในหลวง-พระราชินี ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและภริยา ที่ด้านหน้าฉากภาพจิตรกรรมจีน ภายในมหาศาลาประชาชน พร้อมพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกรัฐมนตรีจีนนำข้าราชการระดับสูงของสาธารณรัฐประชาชนจีน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทและมีพระราชปฏิสันถารตามพระราชอัธยาศัย โอกาสนี้พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะนายกรัฐมนตรีจีนฉายพระบรมฉายาลักษณ์ด้วย ด้าน “อนุทิน” โพสต์เฟซบุ๊ก ปธน. “สี จิ้นผิง” กราบบังคมทูลต่อหน้าพระพักตร์ในหลวง จีนซื้อข้าวไทย 5 แสนตันนับเป็นภาพแห่งประวัติศาสตร์ที่โลกต้องจารึกและปวงชนของทั้งสองแผ่นดิน “ไทยและจีน” ต้องจดจำตราบนานเท่านาน เมื่อประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ถวายการต้อนรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 13-17 พ.ย. โดยจัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่งทั้งนี้ พิธีต้อนรับมีขึ้นเมื่อเวลา 10.35 น. (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) วันที่ 14 พ.ย. พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปยังมหาศาลาประชาชน บริเวณ ลานด้านทิศตะวันออกของจัตุรัสเทียนอันเหมิน ในพิธีรับเสด็จอย่างเป็นทางการที่สาธารณรัฐประชาชนจีน จัดขึ้นเพื่อถวายพระเกียรติยศสูงสุด แด่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พ.ย.2568ทั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ ประชาชนจีน และนางเผิง ลี่หยวน ภริยา ได้รอรับเสด็จที่รถ ยนต์พระที่นั่ง ในการนี้ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงสัมผัสพระหัตถ์กับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ ประชาชนจีนและภริยา แล้วทรงพระดำเนินไปยัง แถวคณะทางการฝ่ายจีน พร้อมประธานาธิบดีและภริยา นายหง เหล่ย ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศและอธิบดีกรมพิธีการทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน กราบบังคมทูลแนะนำคณะทางการฝ่ายจีน ประกอบด้วย นายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (เทียบเท่ารองนายกรัฐมนตรี) และ รมว.ต่างประเทศ นายจาง เจี้ยนเว่ย์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และนางเหมียว ไห่เยี่ยน ภริยา นายนายซุน เว่ยตง รมช.ต่างประเทศจากนั้น นายธานี ทองภักดี รองราชเลขานุการในพระองค์ฯ แนะนำคณะทางการฝ่ายไทยแก่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ฯ พันโท สมชาย กาญจนมณี รองเลขาธิการพระราชวัง พลเรือเอก วีระศักดิ์ อ๊อกกังวาล ราชองครักษ์ประจำพระองค์ และพลอากาศเอก เชษฐา เหมือนแก้ว ราชองครักษ์ประจำพระองค์ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรง พระดำเนินไปยังแท่นรับการถวายความเคารพ พร้อมด้วยนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ ประชาชนจีน กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างนั้นฝ่ายจีนยิงสลุต 21 นัด ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งเป็น สัญลักษณ์ของการแสดงความเคารพระดับสูงสุดต่อประมุขแห่งรัฐที่มาเยือน ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติทางทหารสากล ที่ใช้ในโอกาสสำคัญต่างๆของชาติเสร็จแล้ว ผู้บังคับกองทหารเกียรติยศกราบ บังคมทูลรายงานและเชิญเสด็จฯไปทรงตรวจแถวทหารกองเกียรติยศเป็นภาษาจีน โอกาสนี้ ทรงคำนับธงกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนก่อนทรงพระดำเนินตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ เมื่อเสด็จฯผ่าน แถวเด็กชาวจีนที่มาเฝ้าฯรับเสด็จพร้อมโบกธงชาติไทย ธงชาติจีนและช่อดอกไม้ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงแย้มพระสรวลและทรงโบกพระหัตถ์ทักทายเด็กชาวจีนเหล่านั้น ก่อนเสด็จขึ้นแท่นรับการถวายความเคารพอีกครั้งพร้อมประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ทอดพระเนตรการสวนสนามของกองทหารเกียรติยศและการแปรขบวนของวงดุริยางค์ทหารต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯพร้อมด้วยประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและภริยา เข้าภายในอาคารมหาศาลาประชาชน โอกาสนี้ ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ ร่วมกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและภริยา ที่ด้านหน้าฉากภาพจิตรกรรมจีน แล้วเสด็จฯไปยังห้องปักกิ่ง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและภริยา พร้อมข้า ราชการระดับสูง สาธารณรัฐประชาชนจีน เฝ้าทูลละออง ธุลีพระบาทและมีพระราชปฏิสันถารตามพระราชอัธยาศัยเสร็จแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯไปยังห้อง ตะวันออก พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูง สาธารณรัฐประชาชนจีน เฝ้าทูลละอองธุลี พระบาทและมีพระราชปฏิสันถารตามพระราชอัธยาศัย โอกาสนี้ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะนายกรัฐมนตรีฉายพระบรมฉายาลักษณ์ด้วย สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ กลับโรงแรมไชนาเวิลด์ กรุงปักกิ่ง โรงแรมที่ประทับขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ที่ตามเสด็จ ในฐานะรัฐมนตรีเกียรติยศ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “ปธน.สี จิ้นผิง กราบ บังคมทูลต่อหน้าพระพักตร์ในหลวง จีนซื้อข้าวจากประเทศไทยห้าแสนตัน” ทำให้มีผู้แชร์ข้อความนี้กว่า 1,500 ครั้งและแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลามวันเดียวกัน น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง มูลนิธิไทยกระทรวงการต่างประเทศและพิพิธภัณฑ์พระราชวังโบราณ จัดนิทรรศการพิเศษ “หมื่นมิ่งมงคลไชย สายสัมพันธ์นิรันดร” ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นหนึ่งในกิจกรรมเฉลิมฉลองปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน ครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต นำเสนอสายสัมพันธ์ทางด้านศิลปวัฒนธรรมจีนในศิลปกรรมไทย ประชา สัมพันธ์เอกลักษณ์อันโดดเด่นของศิลปวัฒนธรรมไทย เชิญชวนให้ชาวจีนเดินทางมายังประเทศไทยนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่กรมศิลปากรนำโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุชิ้นสำคัญของชาติ 228 รายการ ไปจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์พระราชวังโบราณสาธารณรัฐประชาชน จีน ที่ได้เปิดอาคารพระที่นั่งเหวินหวา ภายในพระราชวังต้องห้าม เป็นสถานที่จัดแสดงเป็นเวลา 3 เดือน และฝ่ายพิพิธภัณฑ์พระราชวังโบราณ นำโบราณวัตถุชิ้นสำคัญมากกว่า 50 รายการ มาร่วมจัดแสดงด้วย มีทั้งหลักฐานทางประวัติศาสตร์จีน-สยาม สินค้าที่ราชสำนักสยามนิยมสั่งผลิต สั่งซื้อมาตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โบราณวัตถุชิ้นสำคัญที่กรมศิลปากรนำไปจัดแสดง ได้แก่ หม้อสามขาภาชนะดินเผายุคก่อนประวัติศาสตร์ จากแหล่งโบราณคดีบ้านเก่า จ.กาญจนบุรี ชามเบญจรงค์ลายวรรณกรรมไซอิ๋ว ที่สยามสั่งซื้อจากจีน จัดแสดงคู่กับชามเบญจรงค์ลวดลายวรรณกรรมพระอภัยมณี ที่สยามสั่งซื้อชามจากจีนมาเขียนลวดลายที่นิยมเองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังนำเครื่องทองจากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะไปจัดแสดง ได้แก่ จุลมงกุฎ แผ่นทองรูปสัตว์มงคล แผ่นเงินดุนลายพระพุทธรูป เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งมรดกโลกพระนครศรีอยุธยา ในส่วนของศิลปะราชสำนัก เป็นครั้งแรกที่นำพระที่นั่งกงสมัยรัชกาลที่ 5 ไปจัดแสดงนอกประเทศ ฝ่ายพิพิธภัณฑ์พระราชวัง จึงได้นำฉากประดับพระที่นั่งของจักรพรรดิเฉียนหลงมาจัดแสดงร่วมกัน เสมือนการพบกันของราชสำนักสยามและราชสำนักจีนในนิทรรศการครั้งนี้ รวมทั้งยังได้นำผลงานสำนักช่างสิบหมู่ ได้แก่ เรือสุพรรณหงส์จำลอง ศีรษะโขน ผ้าม่านเรือพระราชพิธี ไปจัดแสดงให้ชาวจีนได้เห็นถึงการสืบทอดและสืบสานงานศิลปกรรมโบราณที่ยังดำเนินอยู่ถึงปัจจุบัน เป็นการส่งเสริมประชาสัมพันธ์สินค้าหัตถกรรมไทยด้วยอีกทางหนึ่ง“รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนให้ความสำคัญกับนิทรรศการครั้งนี้มาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จฯทอดพระเนตรนิทรรศการ “หมื่นมิ่งมงคลไชย สายสัมพันธ์นิรันดร” เป็นปฐมฤกษ์ ในวันที่ 17 พ.ย. นายพนมบุตรกล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่