นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่า ที่ประชุมพิจารณาข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหางบกองทุนผู้ป่วยใน (IP) ภายใต้กรอบงบประมาณที่ได้มา โดย สธ. และ สปสช.ยืนยันว่าไม่ว่าการบริหารจัดการงบประมาณจะเป็นอย่างไร รพ.ทุกระดับจะไม่ปฏิเสธคนไข้ และรักษาตามหลักเกณฑ์มาตรฐานต่อไป เมื่อถามถึงข้อเสนอองค์กรแพทย์ 4 ภาคที่ให้ปฏิรูป สปสช. นายพัฒนากล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขังว่า “ปฏิรูปอะไรกันอีก” คำว่าปฏิรูปมองได้ทั้งทางลบและสร้างสรรค์ จึงหลีกเลี่ยงคำว่าปฏิรูป แต่ถามว่า สปสช.ต้องปรับเปลี่ยนในสิ่งต่างๆที่ทำไว้นานแล้ว หรือดีวันนั้นแต่วันนี้ไม่เหมาะสม สปสช.พร้อมปรับปรุง และ สธ.ก็พร้อมปรับจูนกันมากขึ้น นี่ไม่ใช่แค่ปฏิรูป สปสช. แต่ปฏิรูประบบสาธารณสุขของประเทศไทยให้ยั่งยืน ส่วนงบกลางได้เสนอขอไปแล้ว ขณะนี้อยู่ที่สำนักงบประมาณ หวังว่าจะเข้า ครม.เร็วที่สุดด้าน นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัด สธ.กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2568 งบไม่เพียงพอ เพราะสื่อสารกันน้อย จึงนำมาสู่ข้อตกลงปี 2569 ว่า สธ.กับ สปสช.จะร่วมกันบริหารงบประมาณกองทุน 5 หมวด ได้แก่ บริการผู้ป่วยนอก (OP) บริการผู้ป่วยใน (IP) บริการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค (PP) การจ่ายตามรายการ Fee schedule และการบริหารแบบโครงการ โดยยึดหลักการให้ความสำคัญกับการจ่ายค่าบริการผู้ป่วยในให้เพียงพอและลดรายการที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะงบผู้ป่วยในตกลงว่าอัตราจ่ายจะอยู่ที่ 8,350 บาท/AdjRW ในจำนวน Sum AdjRW ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2569 คือการบริการ 11.2 ล้าน เป็นไปตามที่ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนตกลงกัน โดยงบแต่ละกองยังคงเป็นงบปลายปิด และจะมีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสขณะที่ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สปสช.และ สธ.จะร่วมกันกำหนดแนวทางแก้ปัญหาปีงบประมาณ 2568 และร่วมจัดทำงบปี 2569 ทั้งร่วมจัดทำข้อมูลการจัดทำคำขอปี 2570.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่