เจ้าของยาดมหงส์ไทยโร่แถลง ข่าวตอบทุกคำถาม ยอมรับผิดโรงงานที่ถูกจับยังไม่ได้ขออนุญาตจริง แต่ใช้เป็นสถานที่ติดสติกเกอร์ยี่ห้อเท่านั้น ส่วนการผลิตสมุนไพรทำแค่ที่โรงงาน ที่ได้รับอนุญาต สาเหตุจากหลังโกอินเตอร์ออร์เดอร์ ถล่มทลาย ผลิตไม่ทัน โรงงานใหม่กำลังจะสร้างเสร็จ หมดปัญหาแน่ วอน อย.อย่าบดขยี้ด้วยกฎหมายอย่างเดียว ช่วยชี้แนะ พัฒนาสินค้าด้วย ตอนนี้จับมือ สนท.ฆ่าเชื้อ ในผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ผู้บริโภคมั่นใจได้ ด้าน ผบช.ก.เตรียมส่งตัวอย่างยาดมสมุนไพรไปตรวจ หาสารปนเปื้อน หากพบความผิดดำเนินคดีเพิ่มแน่กรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จับมือตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) บุกตรวจค้นโรงงานผลิตยาดมสมุนไพรตราหงส์ไทยรวม 4 จุด หลังก่อนหน้านี้ อย.สุ่มตรวจพบมีสารจุลินทรีย์และเชื้อราหลายชนิด ปรากฏว่าทั้งหมดเป็นโรงงานเถื่อนไม่ได้ขออนุญาต พร้อมยึดอายัดสินค้าทั้งหมดกว่า 2.3 ล้านชิ้นไปตรวจสอบว่า มีสารปนเปื้อนอีกหรือไม่ความคืบหน้าจากโรงงานผลิตยาดมหงส์ไทย อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 5 คูหาเลขที่ 434 ถนนพุทธมณฑลสาย 2 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 ต.ค. นายธีระพงศ์ ระบือธรรม ผู้บริหารบริษัทสมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด แถลงชี้แจงว่า บริษัทของเรามีออเดอร์เข้ามาเยอะมาก ทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าในโรงงานที่ได้รับอนุญาตทัน เพราะพื้นที่ไม่เพียงพอ ตนเน้นย้ำว่า การบรรจุสมุนไพรยังทำในโรงงานที่ได้รับอนุญาต แต่การติดสติกเกอร์ข้างขวดต้องไปทำในโรงงานที่ไม่ได้รับอนุญาตก่อน เป็นการแก้ไขปัญหาชั่วคราว เพื่อทำให้เราผลิตสินค้าได้ครบตามออเดอร์ สินค้ายังมีคุณภาพเหมือนเดิม แต่มันทำให้เราผิดกฎหมาย เรื่องนี้เรายอมรับและรู้สึกเสียใจเช่นกัน“ตอนนี้เรากำลังทำโรงงานแห่งใหม่ที่ จ.สมุทรสาคร มีพื้นที่ใหญ่พอและได้มาตรฐานตามที่ อย.กำหนด ตอนนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร (สสจ.สมุทรสาคร) แจ้งให้สร้างโรงงานแห่งนี้ให้เสร็จ แล้วหน่วยงานจะเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง แต่ตอนนี้โรงงานยังสร้างไม่เสร็จ สสจ.สมุทรสาครเลยยังไม่ได้เข้ามาตรวจ ระหว่างที่ทำโรงงานแห่งใหม่นี้ อย.ไม่เคยเข้ามาแนะนำอะไรทั้งสิ้น สวนทางกับคำพูดที่อยากให้วงการสมุนไพรไทยเจริญ แต่ อย.กลับไม่มาช่วยผู้ประกอบการเลย” ผู้บริหารยาดมหงส์ไทยกล่าวนายธีระพงศ์กล่าวด้วยว่า อยากเรียกร้องให้ อย.ช่วยดูในสิ่งที่ตัวเองทำ อยากให้มองยาดมหงส์ไทยในมุมใหม่ ที่ผ่านมายาดมหงส์ไทยต้องต่อสู้มามากขนาดไหน เพื่อให้ยาดมหงส์ไทยเป็นสินค้าชื่อดังของเมืองไทย ตอนนี้เราอยากทำให้ทุกกระบวนการผลิตเป็นไปด้วยความถูกต้องและแม่นยำ เรายังทำไม่สำเร็จ แต่เราทำอยู่ เราไม่ได้อยู่เฉยๆ หน่วยงานอย่าง อย.ไม่ควรใช้แค่กฎที่ถูกกำหนดมาบดขยี้ กระทืบยาดมหงส์ไทยเพียงอย่างเดียว ควรมาเติมเต็มความรู้เพื่อพัฒนาร่วมกันเพื่อนำไปสู่สากล ควรเห็นใจผู้ประกอบการมากกว่านี้ส่วนกรณีพบยาดมหงส์ไทยปนเปื้อนจุลินทรีย์ นายธีระพงศ์กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. ติดต่อมา ประสงค์ช่วยยาดมหงส์ไทยเร็วที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในสมุนไพรที่อยู่ในขวด ที่ผ่านมาเราไม่เคยรู้เลยว่า สทน.ทำหน้าที่อะไร ถ้าภาครัฐแนะนำผู้ประกอบการว่า สินค้าที่อาจจะเกิดจุลินทรีย์ให้ไปที่ สนท.เพื่อฆ่าเชื้อแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ จะเป็นเรื่องดีสำหรับผู้ประกอบการ ตอนนี้เราตกลงกับ สนท.เอาไว้แล้ว หลังจากนี้หงส์ไทยจะเอายาดมสมุนไพรทุกขวดไปฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ สนท. เพื่อให้ได้รับใบรับรองว่า ยาดมทุกขวดปลอดภัย และเรารู้สึกสบายใจว่าสินค้าที่จะออกไปสู่ผู้บริโภคมีคุณภาพและปลอดภัยถามว่า เหตุการณ์นี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์และยอดขายหรือไม่ นายธีระพงศ์ ตอบว่า เราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ ผิดก็คือผิด ไม่แก้ตัวใดๆ เราสามารถทำให้ปัจจุบันดีได้ เราต้องพัฒนาและแก้ไขในสิ่งที่เราผิดพลาด ยืนยันว่าเราผลิตสินค้าต่อไป เพื่อให้หงส์ไทยเป็นสินค้าของไทยที่ดังไปไกลระดับโลก หลังแถลงนายธีระพงศ์ออกมาพบพูดคุยกับพนักงาน ทุกคนยืนยันว่าจะยืนอยู่เคียงข้างบริษัท และนายธีระพงศ์ยืนยันว่า ทุกอย่างจะเดินหน้าต่อไปเหมือนเดิมที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วันเดียวกัน พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. กล่าวถึงกรณีตำรวจ บก.ปคบ.เข้าตรวจค้นโรงงานผลิตยาดมหงส์ไทยว่า ยาดมดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสมุนไพร ดังนั้นการผลิตหรือจัดตั้งสถานที่ผลิต ต้องจดแจ้งหรือได้รับอนุญาตจาก อย. แต่จากการตรวจสอบพบจดแจ้งขออนุญาตตั้งสถานที่ผลิตเพียงแห่งเดียว ส่วนอีก 4 แห่ง ไม่พบการจดแจ้ง ถ้าตีความตาม อย. ถือเป็นผลิตภัณฑ์เถื่อนทั้งหมด หลังจากนี้จะส่งตัวอย่างตรวจพิสูจน์ว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีสารปนเปื้อนหรือไม่ ถ้าพบความผิดดำเนินตามกฎหมาย“ส่วนของกลางที่ตรวจยึดมากว่า 2 ล้านชิ้นนั้น ขณะนี้ยังอายัดอยู่ที่เกิดเหตุแต่ทำการอายัดไว้แล้ว และเตรียมขนย้ายมาเก็บรักษาไว้ยังที่เก็บของกลางตำรวจ นอกจากนี้ยังไม่มีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ได้รับผลกระทบเข้าแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด” ผบช.ก.กล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่